สปอยล์ Alchemy of Souls ตอนที่ 3
จางอุกพามูด็อกที่บาดเจ็บกลับไปที่สำนักซงริม โดยบอกกับพัคจินว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของนาง แต่เขาตัดสินใจกินยาพิษเองเพราะไม่ต้องการใช้ชีวิตในร่างที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้เพราะประตูพลังปิด จางอุกและมูด็อกไปรักษาตัวที่เซจุกวอน ร่างกายของท่านหมอฮอยอมอ่อนแอลง หลังจากที่เปิดประตูพลังให้จางอุกและมอบกระแสพลังสิบปีของตนเองให้เขา พัคจินจึงขอให้ท่านหมอฮอยอมไปนำพลังกลับคืนเมื่อจางอุกฟื้นตัวและหายดีแล้ว
จางอุกยอมรับมูด็อกให้เป็นอาจารย์ของเขาตลอดไปเพราะนางยอมรับความตั้งใจของเขา แต่มูด็อกมีเงื่อนไขว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเป็นเพียงนายและบ่าวเท่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์กับอาจารย์จะสิ้นสุดลงเมื่อเขาได้เป็นจอมเวทที่เก่งกาจ และเมื่อนางได้รับพลังของตนเองกลับคืนมาและกลับไปเป็นนักซู เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องปกป้องนางอีกต่อไปและนางก็จะไม่อ่อนข้อให้กับเขา
จินมูรู้ว่าผู้แปรวิญญาณจะสูญเสียพลังเมื่อไปอยู่ในร่างกายที่อ่อนแอ เพราะจางกังผู้เป็นอาจารย์ของเขาขณะที่อยู่ในร่างของกษัตริย์โกซองที่อ่อนแอ ได้ขอให้เขาทำพิธีแปรวิญญาณกลับคืน
มูด็อกเริ่มสอนวิชาให้กับจางอุกโดยจะต้องผ่านหลายด่านเสียก่อน ขั้นแรกคือจิบซูซึ่งเป็นการรวบรวมพลังน้ำในร่างกาย ต่อมาคือรยูซู เป็นการรวบรวมพลังจากการไหลของน้ำ ขั้นต่อไปคือชีซูซึ่งเป็นการควบคุมพลังที่อยู่ในบรรยากาศ ในอาณาจักรแดโฮมีจอมเวทไม่กี่คนรวมทั้งนักซูที่สามารถใช้พลังชีซูได้
พัคจินกังวลว่าการเปิดประตูพลังให้กับจางอุก จะเป็นการทำลายเกราะกำบังที่ปกป้องเขาให้ปลอดภัย เขาจึงบอกกับแม่บ้านคิมว่าอย่าได้โกรธแค้นเขา หากในอนาคตเขาอาจจะต้องทำลายความตั้งใจของจางอุกและอาจมีเรื่องให้ต้องขัดขวาง
เมื่อมูด็อกรู้ว่าท่านหมอฮอยอมได้มอบกระแสพลังสิบปีให้กับจางอุกซึ่งสามารถใช้ฝึกพลังจิบซูให้สำเร็จได้โดยง่าย แต่จางอุกยังไม่รู้วิธีควบคุมพลังนั้น มูด็อกกลัวว่าท่านหมอฮอยอมจะเอาพลังนั้นกลับคืนเสียก่อน นางและจางอุกจึงหาวิธีที่จะควบคุมพลังด้วยจังหวะของการหายใจเข้าและออก ซึ่งจอมเวทแต่ละคนมีวิธีการหายใจที่แตกต่างกัน แต่เพราะกระแสพลังนี้เป็นของท่านหมอฮอยอม จึงต้องควบคุมพลังด้วยวิธีหายใจของเขา การหายใจพื้นฐานจะถูกสืบทอดมาจากครอบครัวแต่ละคนตั้งแต่เด็ก ซึ่งท่านหมอฮอยอมเป็นสมาชิกจากตระกูลซอ
จางอุกและมูด็อกจึงแอบไปสังเกตดูความเคลื่อนไหวของซอยุล เมื่อถูกซอยุลจับได้ มูด็อกจึงบอกว่านางมีใจถวิลหาเขา แต่ซอยุลไม่เชื่อและรู้ว่านางต้องการมาจับการหายใจของเขา ซอยุลทำนกหวีดของนักซูหล่นไว้ มูด็อกจึงนำมาเป่าทำให้ซอยุลนึกถึงนักซู ซอยุลขอนกหวีดไม้กลับคืนโดยแลกกับลมหายใจที่เขาอนุญาตให้นางจับเพียงแค่สามช่วงจังหวะเท่านั้น ในขณะที่ท่านหมอฮอยอมต้องการเอากระแสพลังกลับคืนจากจางอุก แต่เขารู้ทันจึงสั่งแม่บ้านคิมนำสุราอย่างดีมาให้โดยอ้างว่าเป็นการตอบแทนที่ช่วยชีวิต จางอุกแบกร่างของท่านหมอที่ดื่มจนเมาเพื่อจับจังหวะการหายใจของเขาเช่นกัน เมื่อมูด็อกสัมผัสดูแล้วจึงรู้ว่าเกิดการไหลเวียนของพลังในร่างกายของจางอุก จางอุกไม่ต้องการให้มูด็อกใกล้ชิดกับซอยุลหรือใครๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเห็นแสงสีฟ้าในดวงตาของนาง
องค์ชายโกวอนกำลังฝึกพลังรยูซูในขั้นสุดท้ายและอยู่ในระดับเดียวกับซอยุล เมื่อทรงทราบว่าจางอุกได้เปิดประตูพลังแล้ว และนำดาบของนักซูไปอีกทั้งดูหมิ่นจินมูซึ่งเป็นอาจารย์ของพระองค์ พระองค์จึงตั้งพระทัยว่าสักวันหนึ่งจะเล่นงานจางอุกให้ราบคาบ
เจตนารมณ์ของจางกังที่นำทารกน้อยจางอุกไปไว้ที่ซงริมและปิดประตูพลังของเขา ก็เพื่อปกป้องภยันตรายและอยากให้เขาใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดาทั่วไป จางกังบอกกับพัคจินว่าจางอุกคือบุตรของกษัตริย์โกซองที่สรรคตไปแล้ว
พัคจินเป็นห่วงอนาคตของจางอุกที่จางกังเคยบอกไว้ว่า หากเชื้อพระวงศ์รู้ว่าจางอุกเป็นเด็กที่มีโชคชะตาของกษัตริย์ จางอุกก็จะเป็นได้เพียงกบฏของราชวงศ์เท่านั้น ซึ่งกษัตริย์องค์ปัจจุบันมีองค์ชายโกวอนเป็นองค์รัชทายาทอยู่แล้ว เพื่อความปลอดภัยของจางอุก พัคจินจึงออกคำสั่งไม่ให้จางอุกเข้ามาที่ซงริมหรืออ่านตำราแปรวิญญาณที่นั่นอีกต่อไป เขาลงโทษจางอุกที่ทำป้ายหินสลักหายและมอบดาบของจางกังให้กลับคืน