สปอยล์ Beyound Evil ตอนที่ 3
หลังจากพบนิ้วมือของมินจอง ทุกคนในเมืองมันยางที่รู้จักเธอต่างก็โศกเศร้าเสียใจ ดงชิกรื้อเอกสารคดีทั้งหมดที่ติดบนผนังห้องใต้ดิน เพื่อนำไปคืนที่ห้องเก็บแฟ้มตามเดิม สารวัตรจูวอนแอบได้ยินพัคจองเจถามดงชิกว่าเป็นคนฆ่ามินจองหรือเปล่า
สารวัตรโอจีฮวาเชิญสารวัตรจูวอนและดงชิกไปให้ปากคำ เพราะพวกเขาคือคนแรกที่พบนิ้วมือของคังมินจอง จีฮวาบอกว่านิติเวชต้องใช้เวลาสองสามวันเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอบนนิ้วมือของเหยื่อ แต่คาดว่าคงไม่พบอะไร เพราะคนร้ายทำได้แนบเนียนเช่นเดียวกับคดีของอียูยอน ทั้งดงชิกและจูวอนต่างก็ปะทะคารมกันเช่นเคย เพราะความระแวงซึ่งกันและกัน คำพูดของดงชิกสามารถทำให้คิดได้ว่าจูวอนอาจเป็นฆาตกรเลียนแบบเมื่อยี่สิบปีก่อนก็ได้ แม้ว่าจูวอนจะอ้างว่าในตอนนั้นเขาเพิ่งเจ็ดขวบก็ตาม
จูวอนบอกพ่อว่าเขาจะไม่ยอมอยู่เฉยตามที่พ่อสั่งอีกต่อไป จากนั้นเขาก็ขอให้พ่อสั่งให้เอาภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้ที่ทางเดินข้างหน้าและข้างในของแผนกเก็บเอกสารของ สน.มุนจู มาให้เขา เพื่อใช้เป็นหลักฐานจับอีดงชิก
อีดงชิกใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องใต้ดินและติดตั้งกล้องวงจรปิด โอจีฮวาและพัคจองเจแวะเอาอาหารไปให้ดงชิกที่บ้าน ในเมื่อยังไม่มีใครพบศพมินจอง จีฮวาจึงถามดงชิกว่าเธอยังอยู่ไหม แต่ดงชิกเฉไฉว่าหากยูยอนน้องสาวของเขายังมีชีวิตอยู่ ก็คงอายุราวๆ สี่สิบและไม่มีปลายนิ้วมือ เขาจึงคิดว่ายูยอนอาจตายไปแล้ว เพราะไม่เคยมีใครพบเห็นเธอเลย จู่ๆดงชิกก็พูดขึ้นมาว่ามินจองตายไปแล้ว และจะไม่มีใครพบศพของงเธอ เพราะฆาตกรไม่ต้องการคืนศพให้
ย้อนไปก่อนที่อีกึมฮวาจะถูกฆ่าตาย จูวอนได้ซื้อโทรศัพท์ให้เธอเพื่อให้ส่งข้อความเลขหนึ่ง เมื่อเห็นอีดงชิกมาใช้บริการนวดที่ร้านของเธอ โดยอ้างเรื่องที่เธอเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย อีกึมฮวาจึงต้องยอมทำตาม ในตอนนั้นจูวอนสังเกตเห็นแหวนที่เธอสวม และก่อนที่เธอหายตัวไป ในวันนั้นเธอได้ส่งข้อความเลขหนึ่งให้กับจูวอน
โอจีฮวาและเจ้าหน้าที่ยังคงค้นหามินจองต่อไป จนกระทั่งพบโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่ง จูวอนได้รับไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่อีดงชิกนำเอกสารคดีไปไว้ในห้องเก็บแฟ้ม หลังจากนั้นเขาจึงเข้าไปตรวจสอบและพบว่าแฟ้มคดีกลับมาอยู่ครบเหมือนเดิม แต่พัคจองเจอ้างว่าเขาเป็นคนนำเอกสารออกมาจากกล่อง จูวอนคิดว่าพัคจองเจคือผู้สมรู้ร่วมคิดกับอีดงชิก
อีดงชิกตั้งใจลางานแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ เมื่อพัคจองเจโทรบอกว่าสารวัตรจูวอนหัวเราะชอบใจเมื่อพบแฟ้มคดีที่อยู่ครบและ คิดว่าเขาคือผู้สมรู้ร่วมคิดกับดงชิกอีกด้วย
ขณะที่อีดงชิกและจูวอนออกลาดตระเวนด้วยกันอยู่นั้น โอจีฮวาขอให้จูวอนกลับสถานีทันที เพราะโทรศัพท์ที่พบในป่านั้นเกี่ยวข้องกับจูวอน เพราะมีสามข้อความที่ถูกส่งออกถึงเขา ซึ่งมีแต่สัญลักษณ์เลข1 แต่จูวอนยืนยันว่าไม่เคยรู้จักมินจอง นอกจากเห็นเธอแค่ครั้งเดียวในวันที่เธอเมาหลับอยู่ที่สถานี
อัยการควอนฮยอกเคยเป็นติวเตอร์ของจูวอนเมื่อสิบปีก่อน และฮันกีฮวานก็เคยโอนเงินก้อนใหญ่ให้ จึงมีบุญคุณต่อเขาประดุจบิดา เมื่อฮันกีฮวานรู้ว่าจูวอนกำลังตกที่นั่งลำบาก เขาจึงต้องการให้ควอนฮยอกไปช่วย โดยเสนอตำแหน่งที่สูงกว่าและต้องย้ายไปประจำที่มุนจู
ส.ส.โทแฮวอนไปที่สถานีมุนจูเพื่อสร้างภาพและเรียกคะแนนเสียงให้ตัวเอง ทำให้พัคจองเจไม่พอใจและขอให้เธอกลับไป เพราะคิดว่าแม่ของเขาพาอีชางจินมาด้วย พัคจองเจขอร้องไม่ให้แม่ร่วมมือกับอีชางจินอีก อีชางจินไม่ได้ไปพร้อมกับโทแฮวอน แต่เขาไปที่นั่นและอ้างกับจีฮวาซึ่งเป็นอดีตภรรยาว่า เขาต้องการกลับมาอยู่ที่นี่เพื่อระลึกถึงความหลังระหว่างเขากับเธอ
โอจีฮวาคิดว่าโทรศัพท์ที่พบเป็นของมินจอง แต่ควอนฮยอกเอาผลตรวจดีเอ็นเอมาให้จูวอนก่อน ซึ่งระบุว่าเป็นดีเอ็นเอของหมอนวดอีกึมฮวาที่จูวอนเคยใช้เธอเป็นเหยื่อล่อคนร้าย ฮันกีฮวานไม่พอใจลูกชาย เพราะหากข่าวนี้เล็ดรอดออกไป เขาอาจจะพลาดตำแหน่ง ผบ.ตร.
จูวอนแปลกใจว่าทำไมโทรศัพท์เครื่องนี้จึงไปตกอยู่ในป่าที่ภูเขาชิมจู คังจินมุกยืนยันว่าไม่ใช่โทรศัพท์ของลูกสาว ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าดีเอ็นเอบนโทรศัพท์เป็นของอีกึมฮวา เมื่อจูวอนขอลาหยุดงานและได้ยินเสียงหัวเราะอย่างสะใจของดงชิก เขาจึงบอกว่าจะไม่ยอมอยู่ห่างจากสายตาของดงชิกและจะต้องจับเขาให้ได้
จูวอนไปที่ภูเขาชิมจูเพื่อสืบว่าใครที่ชอบจอดรถบนเขาเป็นประจำ แต่ชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่าที่หมู่บ้านแห่งนี้มี่ว่างอยู่เต็มไปหมด และคนส่วนใหญ่ก็มักจะจอดรถใกล้บ้านของตัวเอง จากนั้นจูวอนก็ไปที่บ้านหลังหนึ่งบริเวณนั้น เพื่อขอดูภาพจากกล้องหน้ารถ และได้เห็นอีดงชิกในภาพนั้น
หลังจากที่ดงชิกติดกล้องวงจรปิดที่บ้าน เขาจึงรู้ว่าจูวอนแอบไปที่นั่น จูวอนพบน้ำยาฟอกขาวพร้อมทั้งรอยเลือดบนโต๊ะ หลังจากนั้นโอจีฮวาจึงเข้าจับกุมดงชิกโดยไม่มีหมายจับในข้อหาลักพาตัวและทำร้ายร่างกายคังมินจองจนบาดเจ็บสาหัส