สปอยล์ Doom At Your Service ตอนที่ 14
มยอลมังและดงกยองต่างก็ขอโทษกันและกันกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาบอกให้เธอยอมรับว่ามันคือโชคชะตา จากนั้นเขาก็ไปส่งเธอที่โรงพยาบาลและได้เจอน้าซูจาซึ่งกลับมาจำเขาได้เช่นกัน มยอลมังบอกว่าเขากำลังจะแต่งงานกับดงกยอง
ฮยอนกยูหมดอาลัยตายอยากและเล่าให้ซอนกยองฟังว่าเขาโดนจีนาทิ้งแล้ว จูอิกแวะมาที่ร้านกาแฟเพื่อตามฮยอนกยูกลับบ้าน ซอนกยองจึงรู้ว่าหมายเลขหนึ่งและหมายเลขสองที่จีนาหมายถึงนั้นก็คือฮยอนกยูและชาจูอิก
ซอนกยองมอบสมุดบัญชีเงินฝากที่พกติดตัวให้มยอลมัง เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะแต่งงานกับดงกยอง มันคือเงินเก็บที่ได้จากการทำงานซึ่งตั้งใจจะให้พี่สาวอยู่แล้ว มยอลมังรับปากกับซอนกยองว่าจะอยู่เคียงข้างดงกยองตลอดไป
ดงกยองร้องไห้กับจีนาเพราะเธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ทั้งๆที่เธอพยายามหนีและลืมมยอลมัง แต่ทุกอย่างก็กลับมาเริ่มต้นใหม่อีก และตอนนี้เวลาของเธอก็เหลือไม่มากแล้ว จีนาขอร้องไม่ให้พูดเรื่องเวลาที่เหลือ แต่อยากให้ดงกยองทำทุกอย่างที่มีความสุข
ฮยอนกยูบอกจูอิกว่าเขาจะออกจากบ้านเพื่อไปเผชิญกับโลกความจริง โดยไม่มีจูอิกคอยปกป้องหรือระวังหลังให้อีกต่อไป
หมอจองซึงจุนอนุญาตให้เลื่อนการผ่าตัดชิ้นเนื้อของดงกยอง เมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงาน และขอให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หลังจากนั้นจึงค่อยมารับการรักษาต่อไป
ฮยอนกยูโทรนัดคุยกับจีนาและถือว่านี่คือการเดตครั้งที่สอง เขาเล่าให้เธอฟังทุกอย่างตั้งแต่ตัดสินใจไปเรียนที่เมืองนอกและไม่ติดต่อเธออีกเลย ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขาไม่มีเพื่อนและพูดภาษาไม่ได้ เขาอยากกลับเกาหลีและคิดถึงเธอทุกวัน แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ไม่กล้าโทรหาเธอ เพราะคิดว่าตนเองยอมเป็นคนเลวในสายตาของเธอดีกว่าจะเป็นคนน่าสมเพช ยังเหลือการเดตอีกหนึ่งครั้งซึ่งเขาบอกเธอว่า ต้องเป็นวันที่เธออยากเจอเขาจริงๆโดยไม่ต้องฝืนใจ ขณะที่เดินหันหลังให้กัน จีนาหันกลับไปมองเขาและนึกถึงวันแรกที่เจอกัน จากนั้นเธอก็พูดว่าลาก่อน เมื่อกลับถึงร้านและเห็นจูอิกซึ่งกำลังรออยู่ ฮยอนกยูก็ปล่อยโฮออกมาและบอกว่าเขายังไม่ยอมแพ้และจะแย่งเธอกลับมาจากจูอิกให้ได้
ในวันที่ดงกยองตัดสินใจออกจากโรงพยาบาล เธอได้พบกับซนยอชิน จึงขอให้เธอช่วยเหลืออีกครั้งแต่ยอชินบอกว่าครั้งนี้เกินกว่าเธอจะรับมือไหวแล้ว และขอให้ดงกยองน้อมรับความหายนะและโชคชะตา มันจะจบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งอย่างที่มยอลมังต้องการ เพราะเขาอยากให้เธอรอดและมีความสุขอย่างที่สุด
ระหว่างทางไปหาดงกยอง มยอลมังพบหญิงชราที่นั่งขายดอกกุหลาบอยู่ริมทาง เขาขอให้เธอกลับบ้านและบอกว่าเขาคือลูกค้าคนสุดท้ายของเธอ หญิงชราเดินจากไปโดยไม่นำดอกไม้ที่เหลือหรือเงินที่ขายได้กลับไปด้วย และบอกว่าที่ผ่านมาเธอเป็นภาระมาโดยตลอด ตอนนี้เธอปล่อยวางทุกสิ่งแล้ว มยอลมังนำดอกกุหลาบไปให้ดงกยองและขอแต่งงาน เขาบอกว่า คนที่อยู่เป็นวันสุดท้ายในวันนี้ได้ฝากดอกกุหลาบมาให้คนที่กำลังจะจากไป ดงกยองสวมกอดเขาและขอให้อยู่ด้วยกันตลอดไปโดยไม่แยกจากกัน มยอลมังรับปากเธอ
ดงกยองและมยอลมังใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เธอบอกกับตัวเองว่า เมื่อมยอลมังไปแล้ว ฤดูใบไม้ผลิก็จะมาเยือนและเมื่อเขาหายไปรุ่งอรุณก็จะมาถึง และเมื่อชีวิตของเขาจบสิ้นลง ชีวิตของเธอก็จะเริ่มต้น ดงกยองตื่นขึ้นมาและมองไปที่มยอลมัง เธอคิดว่าทุกๆ รุ่งอรุณในฤดูใบไม้ผลิ ภาพของเขาคงจะวนเวียนอยู่ตลอดชีวิตของเธอ และเธอจะทนได้ไหม ซึ่งชีวิตแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากความหายนะ
ดงกยองทยอยมอบของที่ระลึกให้กับทุกคนที่เธอรักพร้อมด้วยข้อความจากใจของเธอ จากนั้นเธอก็ไปเยี่ยมอัฐิของพ่อและแม่ มยอลมังไปยืนรอเธอและบอกว่า เขาตามเธอมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก เพราะว่าชอบเธอและเสียดาย จึงไม่อยากพลาดแม้แต่วินาทีเดียว เขาพาเธอไปที่ห้องสมุดแห่งหนึ่งโดยบอกว่าคำศัพท์ที่ไม่ได้ใช้ อีกไม่นานก็จะหายไป แต่มีเพียงไม่กี่คำเท่านั้นที่จะยังคงอยู่ซึ่งก็คือ “ดงกยอง” และคำว่า “มนุษย์” ที่ดงกยองตั้งให้เขา
ก่อนที่ดงกยองจะหลับไป เธอนอนจับมือของมยอลมังไว้และขอร้องเขาว่าอย่าหายไปไหนและต้องอยู่ข้างๆเธอ เมื่อดงกยองหลับแล้ว มยอลมังไปคุยกับซนยอชินซึ่งรู้ว่านี่คือวันสุดท้ายและเป็นการตัดสินใจของมยอลมัง เขาไม่ขอเดิมพันกับอะไรที่ไม่แน่นอนอย่างที่ยอชินบอก แต่เขาจะรักษาสัญญา ปกป้องดงกยองและโลกใบนี้ไว้ เพราะมันคือสิ่งที่เขาต้องทำ ยอชินตัดสินใจที่จะอยู่ต่อเป็นครั้งแรกโดยการผ่าตัดหัวใจ เพราะเธออยากเห็นดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
ดงกยองตกใจเมื่อตื่นขึ้นมาและไม่เห็นมยอลมัง เธอจึงต่อว่าเมื่อเขากลับมา ดงกยองกลัวว่าเขาจากไปแล้วและเวลาของเธอก็เหลือไม่มาก แต่เขาก็กอดและปลอบใจเธอว่ายังเหลือเวลาอีกหนึ่งวัน ดงกยองกอดมยอลมังทั้งน้ำตาเพราะไม่รู้ว่า เธอจะอยู่ได้อย่างไรเมื่อเขาจากไปแล้ว มยอลมังจึงปลอบใจว่าเธอเป็นมนุษย์และสามารถมีความรักครั้งใหม่ได้ ต่อมาเธอตั้งใจอธิษฐานจริงๆ แล้วว่า ขอให้มยอลมังพาเธอไปยังโลกหายนะพร้อมกับเขา ซึ่งอาจจะเป็นในจินตนาการก็ได้ เพราะเธออยากอยู่กับเขาในวันสุดท้าย
ทันใดนั้นเองมยอลมังจึงเนรมิตรให้เธอและเขาไปยืนอยู่ที่สี่แยกกลางถนนซึ่งไม่มีรถแล่นผ่านและบอกว่าที่นี่คือโลกหายนะ ดงกยองมองเห็นแต่ความว่างเปล่า ไร้ผู้คนในทุกๆที่ มยอลมังบอกว่าเขาจะไม่ใช่ความหายนะอีกแล้วในโลกของหายนะ และไร้ตัวตน การรับผิดชอบต่อสิ่งที่หายไป ทำให้เขามีตัวตนอยู่ได้ และในเมื่อไม่มีสิ่งที่ต้องหายไป เขาจึงเป็นแค่ฝุ่นละอองที่ลอยไปลอยมา มันจึงไร้ค่าหากอยู่ต่อไปโดยไม่มีเธอ
จากนั้นพวกเขาก็ไปที่โบสถ์แห่งหนึ่งเพื่อสวดภาวนา แม้มยอลมังจะบอกว่าในโลกของหายนะไม่มีพระเจ้าก็ตามเพราะไม่มีมนุษย์อยู่ เธอจึงบอกว่าเธอคือมนุษย์บนโลกใบนี้และเริ่มภาวนาเป็นครั้งสุดท้ายว่าไม่ให้รักใครอีก เธอบอกรักมยอลมังเพราะเขาคือคนที่เธอรักที่สุด มยอลมังจูบเธอด้วยความรักและขอบใจที่เธอรักเขา เขาขอจับมือของเธอเมื่อใกล้เวลาเที่ยงคืนและปลอบใจว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ดงกยองจับมือมยอลมังทั้งน้ำตาและอยากอยู่กับเขาจนวินาทีสุดท้าย เขาจะนำความเศร้าและความเจ็บปวดของเธอไปด้วยและขอให้สัญญาเป็นโมฆะ เพราะเขาเกิดมาเพื่อเธอ จึงอยากให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ดงกยองร้องไห้ขอร้องไม่ให้เขาจากไป เขาจึงบอกว่าเมื่อเขาหายไปแล้ว ขอให้เธอกลับบ้านโดยไม่ต้องหันมามองอีก ทันใดนั้นเองร่างของมยอลมังก็ค่อยๆหายไปต่อหน้าเธอ ดงกยองทรุดลงร้องไห้ราวจะขาดใจท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาพอดี