สปอยล์ Dr. Romantic 3 ตอนที่ 5

5

อาจารย์ชาจินมันต้องการทดลองเปิดศูนย์อุบัติเหตุ เพื่อเป็นการทดสอบทีมเวิร์กและคัดเลือกแพทย์ประจำที่ศูนย์แห่งนี้ แต่ซออูจินขอถอนตัว ชาจินมันดูถูกอูจินว่าไม่กล้าอยู่พ้นเงาอาจารย์คิมที่ไม่เคยปั้นหมอ นอกจากเลี้ยงลูกกระจ๊อกเท่านั้น อูจินจึงบอกว่าอาจารย์คิมไม่เคยดูถูกเขาและให้เกียรติในฐานะแพทย์รุ่นน้อง ในขณะที่อาจารย์คิมอาสาเป็นแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินที่รพ.ทลดัม โดยมีหมออารึมและหมอดงฮวากับหมออีซอนอุงเป็นผู้ช่วย ไม่มีใครเกลี้ยกล่อมซออูจินให้อยู่ที่ศูนย์ฯได้สำเร็จ ผอ.พัคจึงต้องใช้แผนบีโดยให้หมอยังโฮจุนไปแทนที่ซออูจินและส่งหัวหน้าพยาบาลโอไปช่วยงานที่ศูนย์ฯ เพราะหมอยังโฮจุนยังอ่อนประสบการณ์ 

อาจารย์คิมรับเคสคนไข้พ่อลูกที่กินย่าฆ่าแมลงเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นเหล้ามักกอลลี พวกเขาจึงจำเป็นต้องได้รับการล้างท้อง แต่ทว่าผู้เป็นพ่อหัวใจหยุดเต้นและไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้ แม้ว่าทีมแพทย์จะพยายามช่วยปั๊มหัวใจแล้วก็ตาม

ศูนย์อุบัติเหตุรับเคสอุบัติเหตุรถชนซ้อนคันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสามราย คิมฮันอุลเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปีกับเลขาของแม่เขาอีกสองคนที่อาการสาหัส อาจารย์คิมส่งหมออีซอนอุงไปช่วยอึนแจเพราะรู้ดีว่าซออูจินไม่ยอมไปที่นั่น คนไข้ฉุกเฉินที่ศูนย์ฯมีอาการปอดและตับฉีก ซออูจินจึงตัดสินใจกลับไปที่ศูนย์ฯ และเข้าร่วมการผ่าตัดกับอาจารย์ชาจินมัน ถึงแม้จะมีอคติต่อกันก็ตาม เพราะหมอยังโฮจุนยังอ่อนประสบการณ์และขอร้องให้อูจินไปช่วย การผ่าตัดร่วมกันของซออูจินกับอาจารย์ชาจินมันผ่านไปด้วยดี ทำให้อาจารย์ชาจินมันเห็นความสามารถของซออูจิน

คิมฮันอุลเป็นลูกชายของโกคยองซุกซึ่งเป็นส.ส.ประจำจังหวัดและเป็นผู้ตัดสินใจงบประมาณของศูนย์อุบัติเหตุ คิมฮันอุลที่ภายนอกดูเหมือนบาดเจ็บไม่มากแต่เขารู้สึกหนาวและหลับไปขณะที่รอหมอ หัวหน้าพยาบาลโอแจ้งหมอจองอินซูให้ไปดูอาการของคิมฮันอุลที่ห้องสังเกตอาการ แต่หมอจองอินซูกำลังรักษาคนไข้รายอื่นอีกทั้งหมอยังยังรั้งให้เขาอยู่ช่วยตัวเอง จนกระทั่งลืมคิมฮันอุล ชาอึนแจแวะเข้าไปติดเครื่องวัดชีพจรที่นิ้วของคิมฮันอุล แต่ทว่าหัวใจของเขาหยุดเต้นไปแล้วและไม่สามารถช่วยชีวิตได้ การตายของคิมฮันอุลทำให้ส.ส.โกคยองซุกโกรธมากและจะเอาเรื่องทีมแพทย์ทุกคนที่ละเลยการรักษาลูกชายของเธอ ตอนนี้สถานการณ์ของศูนย์อุบัติเหตุกำลังอยู่ในความตึงเครียด 

อาจารย์ชาจินมันอธิบายการทำงานของแพทย์เพื่อให้ส.ส.โกคยองซุกเข้าใจ เพราะคนไข้อีกสองรายที่อาการสาหัสซึ่งเป็นเลขาของเธอเพิ่งได้รับการผ่าตัดช่วยชีวิต พวกเขาเป็นเคสฉุกเฉินมากกว่าลูกชายของเธอซึ่งบอกเองว่าไม่มีอาการอะไร หน้าที่ของหมอไม่ได้รักษาคนไข้ตามลำดับก่อนหลังแต่พิจารณาจากอาการ ถ้าหากส.ส.โกคยองซุกจะฟ้องทีมแพทย์ของศูนย์อุบัติเหตุ เธอก็จะต้องเตรียมคำตอบต่อศาลให้ดี เพราะเลขาทั้งสองคนใช้เวลาราชการเพื่อขับรถรับส่งลูกชายของเธอ ทั้งที่รับเงินเดือนจากรัฐเพื่อช่วยเธอบริหารจังหวัด จากนั้นอาจารย์ชาจินมันจึงบอกกับทีมแพทย์ทุกคนว่าทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุดแล้วและจงยืนหยัดต่อไป อย่าได้รู้สึกผิดหรือโทษตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้น

อาจารย์คิมรู้ว่าหมอจางไม่พอใจพยาบาลพัคที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง เพราะพยาบาลพัครู้อาการของคนไข้จากภาพอัลตราซาวด์ได้เก่งกว่าหมอจาง อาจารย์คิมจึงสอนหมอจางให้เรียนรู้การอัลตราซาวด์ให้มากขึ้น เพื่อที่จะวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องและเป็นหมอที่น่าเชื่อถือในอนาคต

อาจารย์ชาจินมันชื่นชมซออูจินที่จับมีดผ่าตัดและสามารถใช้มือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เขาขอโทษที่เคยดูถูกซออูจินว่าเป็นลูกกระจ๊อก อาจารย์ชามองซออูจินและบอกกับตัวเองว่าตอนนี้เขากำลังโลภ เพราะอยากได้แพทย์ฝีมือดีและทีมผ่าตัดของที่นี่และทุกอย่างที่อาจารย์คิมเคยครอบครอง