สปอยล์ Eve ตอนที่ 13
ยุนกยอมไม่สนใจตัวตนที่แท้จริงของราเอลที่โซราบอกเพื่อให้เขาแคลงใจและสงสัยในตัวราเอล ต่อมาราเอลบอกกับเขาว่าหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิต แม่ของเธอก็แต่งงานใหม่ เธอจึงเปลี่ยนชื่อและเป็นภรรยาคนที่สองของพ่อโบรัม แม้ว่ายุนกยอมจะเชื่อในสิ่งที่ราเอลบอก แต่เขาก็อดกังวลใจไม่ได้ว่าเธอยังมีเรื่องที่ปิดบังอยู่ ในคืนนั้นราเอลออกมาโทรบอกอึนพยองว่าโซราเปิดเผยตัวตนของเธอและเป็นห่วงจางมุนฮีที่ติดต่อไม่ได้ โดยไม่รู้ว่ายุนกยอมแอบมองจากภายในบ้าน
ราเอลใช้ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สั่งตรวจสอบคิมอีซักที่เคยทำร้ายเธอ รวมทั้งจางจินอุกที่อยู่อเมริกาจะต้องกลับมาให้ปากคำก่อนถูกส่งตัวให้อัยการ
ราเอลไม่พบจางมุนฮีที่บ้านนอกจากกระเป๋าสตางค์ของเธอ จากนั้นเธอจึงไปหาอึนพยองที่โรงพยาบาลและคิดว่าฮันโซราเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อึนพยองรีบออกจากโรงพยาบาลเพราะเป็นห่วงราเอลและต้องการช่วยเธอ หลังจากที่ราเอลกลับไปแล้ว อึนพยองเห็นยุนกยอมสะกดรอยตามเธอ เขาจึงรีบโทรนัดยุนกยอมเพื่อบอกเรื่องที่เขาถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ และให้โอกาสยุนกยอมได้พิสูจน์ว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นอกจากนั้นเขาก็ยอมรับว่ารักราเอลและความรักของเขาคือการเสียสละ ไม่ใช่ความระแวงสงสัยและสะกดรอยตามอย่างที่ยุนกยอมกำลังทำกับเธอ
ราเอลขู่โซราว่าจะต้องพาตัวจางมุนฮีกลับมาอย่างปลอดภัยภายในเวลาเที่ยงคืนของวันพรุ่งนี้และเธอจะไปจากยุนกยอม ไม่เช่นนั้นเธอก็จะเปิดเผยเรื่องที่โซราสั่งทำร้ายอึนพยองและมีความสัมพันธ์ลับกับมุนโดวานหรือที่โซราเรียกว่าดอกเตอร์จอง โซรารีบโทรสั่งโดวานให้ดูแลจางมุนฮีอย่างดีก่อนจะส่งกลับให้ราเอล
โซรานำของขวัญไปเอาใจพ่อและพี่สามีและบอกว่าจะไม่มีการหย่าเกิดขึ้น แต่คังชีกยอมโทรหายุนกยอมทันทีและได้รับการยืนยันว่าเขาจะไม่เปลี่ยนใจเรื่องฟ้องหย่า
ราเอลตั้งใจจะไปจากยุนกยอมและเวลาเหลือน้อยเต็มที เธอจึงย้อนกลับไปที่บ้านในตอนกลางวันเพื่อหาเอกสารต้นฉบับในห้องลับของเขา แต่ยุนกยอมเปลี่ยนรหัสไปแล้วและดูเหตุการณ์ผ่านกล้องวงจรปิดอยู่ที่ทำงาน คำพูดของอึนพยองทำให้เขาคิดได้ว่าไม่ควรระแวงสงสัยเธออีกต่อไป เขาจึงโทรบอกรหัสประตูกับราเอลและขอให้เธอช่วยนำกล่องของขวัญในนั้นออกมาให้ ราเอลเข้าไปในห้องและนำเอกสารต้นฉบับของเซดิกซ์ออกมาด้วย โซราพยายามบอกยุนกยอมว่าจางมุนฮีและราเอลกำลังร่วมมือกัน แต่เขากลับขอให้เธอยอมแพ้กับเรื่องนี้เพราะเขารักราเอลและพร้อมที่จะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ
ขณะที่อึนพยองกำลังคุยกับฮันพันโร คิมจองชอลเข้ามารายงานว่าเหยื่อของแอลวายทั้งสามสิบเอ็ดรายกำลังฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่ม ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่าเซดิกซ์ถูกเทกโอเวอร์โดยมิชอบ อึนพยองอ้างว่าตนเองไม่รู้เรื่องนี้
ยุนกยอมพร้อมที่จะโอนหุ้นและทรัพย์สินทั้งหมดให้ราเอล เพื่อไปอยู่และสร้างครอบครัวด้วยกันที่บัวโนสไอเรส ราเอลตั้งใจว่าจะบอกความจริงทั้งหมดกับเขาเพราะคิดว่าตนเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะรักใครและจะไม่มีวันทรยศพ่อแม่ตัวเองเด็ดขาด ขณะที่ยุนกยอมกำลังไปหาราเอลที่คลับแห่งหนึ่ง เขาได้รับแจ้งจากอัยการคังเรื่องการฟ้องร้องจากลุ่มเหยื่อของแอลวาย ยุนกยอมไม่พบราเอลที่คลับเพราะเธอรีบออกไปจากที่นั่นหลังจากได้รับจีพีเอสความเคลื่อนไหวจากโทรศัพท์ของจางมุนฮีที่โดวานย้ายมาขังไว้ที่ห้องใต้ดินบริเวณบ้านของฮันพันโรตามคำสั่งของคิมจองชอล โซราไม่พอใจเพราะใกล้จะถึงเวลาที่เธอต้องคืนจางมุนฮีให้ราเอลตามที่ถูกขู่เอาไว้
พ่อของยุนกยอมโทรบอกว่าจางมุนฮีและลูกสาวของเซดิกซ์คือตัวตั้งตัวตีในการดำเนินคดีที่กำลังจะเกิดขึ้น เมื่อยุนกยอมรู้ชื่อของเธอ เขาจึงรีบไปที่สตูดิโอของราเอลทันที
ในขณะที่ฮันพันโรพบเครื่องดักฟังหลายจุดในบ้านของตนเอง ยุนกยอมวางแผนล่อราเอลให้ออกไปจากห้องลับในสตูดิโอ ทำให้เขาได้พบความจริงว่าราเอลได้เตรียมการพร้อมกับอุปกรณ์และข้อมูลทุกอย่างมาเป็นเวลานาน เมื่อพวกเขาได้เผชิญหน้ากันพร้อมกับความจริงทุกอย่าง ยุนกยอมไม่อาจหักห้ามความโมโหระคนกับความผิดหวังและเสียใจ เขาจึงเผลอทำร้ายเธอโดยไม่ตั้งใจ แต่เมื่อคิดได้ ราเอลก็ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้เธออีก