สปอยล์ Flower of Evil ตอนที่ 15
ในวัยมัธยม มูจินแอบลงไปที่ห้องใต้ดินของโทมินซอก และเห็นกรงเหล็ก สายเชือก เครื่องมือต่างๆ โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่กำลังดิ้นอยู่ในกระสอบ แต่ยังไม่ทันได้รู้ว่ามันคืออะไร โทมินซอกก็ปรากฏตัว และต่อว่าที่เขาลงไปที่ห้องนั้น ทั้งๆ ที่ลูกๆก็ยังไม่กล้าลงไปเลย เมื่อเห็นมูจินตัวสั่นด้วยความกลัว โทมินซอกจึงโกหกว่า สิ่งมีชีวิตที่ดิ้นอยู่ในกระสอบก็คือกวางนั่นเอง
มูจินจอดรถรอแฮซูที่หน้าบ้านของจีวอน แต่เมื่อโทรหาเธอและไม่มีคนรับสาย เขาจึงเดินเข้าไปและพบแฮซูนอนจมกองเลือดอยู่ จากนั้นมูจินก็รีบโทรเรียกรถพยาบาล
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบข้อมูล เพื่อหาช่วงเวลาที่แม่บ้านพัคซุนยองเข้าออกที่บ้านกงมีจา และเวลาการตายเธอ พวกเขาพบว่าในคืนเกิดเหตุเธอได้ใช้บัตรเครดิตสั่งข้าวและหมูกิมจิมากินที่บ้าน และคนสั่งอาหารยืนยันว่าเธอรับอาหารด้วยตัวเองตอนสองทุ่มครึ่ง จึงเชื่อได้ว่าตอนนั้นเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่สิ่งที่แปลกก็คือเวลาเสียชีวิต ซึ่งผลการชันสูตรฉบับแรกระบุว่าเธอเสียชีวิตภายในสี่ถึงหกชั่วโมงหลังจากกินอาหารมื้อสุดท้าย แต่อาหารมาส่งตอนสองทุ่มครึ่ง ซึ่งแสดงว่าเธอเสียชีวิตประมาณหลังเที่ยงคืน แต่รายงานอีกฉบับหนึ่งระบุว่าข้อต่อนิ้วยึดเกร็ง แสดงว่าต้องเสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อยสิบชั่วโมง และถ้าหากเป็นอย่างนั้น ก็น่าจะเสียชีวิตตอนสามทุ่ม เมื่อรายงานการชันสูตรทั้งสองฉบับไม่ตรงกัน สายสืบชเวจึงไปคุยกับคนส่งอาหาร
เมื่อดูภาพจากกล้องหน้ารถและได้เห็นคนร้ายในตู้โทรศัพท์ จีวอนมั่นใจว่าเป็นตอนที่เขาล่อสามีของเธอออกมา และเวลาในภาพก็ตรงกับเวลาที่ฮยอนซูได้รับโทรศัพท์ หัวหน้าอูชอลแปลกใจที่คนร้ายจงใจเลือกสถานที่ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ทำไมถึงไม่เช็กกล้องหน้ารถซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานได้
หัวหน้าอูสั่งไม่ให้จีวอนรับโทรศัพท์เพราะป้องกันสื่อจะรู้ว่าเธอกลับมาแล้ว เมื่อได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุร้ายที่บ้านของเธอ จีวอนจึงรีบไปทันที เธอเคาะประตูเรียกจนกระทั่งอึนอาออกมา อึนฮาร้องไห้กอดแม่บอกว่ามีโจรเข้าบ้านและคุณครูสั่งไว้ว่าให้ล็อกประตูจนกว่าแม่จะมาเรียก
มูจินนั่งรอแฮซูที่กำลังรับการผ่าตัด เขาโทษตัวเองที่ผิดสัญญากับฮยอนซู ที่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวจนโดนทำร้าย
แบคฮีซองแวะมาเอายาเบื่อหนูที่ร้านขายยาของแม่ ก่อนที่จะนำเงินไปให้ยอมซังชอล ระหว่างที่ยอมซังชอลรอแบคฮีซอง ฮยอนซูเข้าไปหาจองมีซุกและบอกว่าผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมืองยอนจูกำลังจะตามมาฆ่าเธอ เพราะเธอคือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวและเป็นพยานในคดีนี้ ตัวเขาเองตั้งใจจะจับคนร้ายให้ได้ จากนั้นฮยอนซูก็ใช้คัตเตอร์ตัดสายรัดประตูกรงและล็อคกุญแจไว้แทน เขามอบลูกกุญแจให้ และบอกว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่จะไขกุญแจได้ ฮยอนซูสัญญาว่าเธอจะมีชีวิตรอด แต่จองมีซุกไม่เชื่อ เพราะคิดว่าเขาหลอกเธอเช่นเดียวกับที่ยอมซังชอลโกหกว่าจะพาเธอมาพบครอบครัว ฮยอนซูจึงบอกเหตุผลที่เขามาช่วยก็เพราะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเธอ ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับตัวเอง
แม่ของจีวอนขอให้เธออยู่ด้วย และโทษฮยอนซูที่หลอกลวงจีวอนจนทำให้แม่รู้สึกเกลียด แต่จีวอนบอกว่าเธอยังเหมือนเดิมที่ต้องการให้สามีมีความสุข เธอจึงจะมีความสุขด้วย จีวอนขอร้องแม่ว่าหากสามีของเธอกลับมา ขอให้แม่เมตตาและโอบกอดเขาเหมือนกับที่กอดเธอ
จากภาพที่แบคฮีซองกำลังเดินเข้าไปในบ้านของจีวอน ทำให้หัวหน้ายุนซังพิลรู้ว่าคนร้ายกำลังรอจีวอน อีอูชอลจึงวางแผนปล่อยข่าวปลอมว่าจีวอนตายแล้ว เพราะเธอจะตกอยู่ในอันตรายหากคนร้ายรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ยุนซังพิลจึงสั่งให้อิมโฮจุนกระจายข่าวไปยังสถานีมาโพด้วย
จีวอนบอกมูจินว่า เพราะแฮซูต้องการปกป้องอึนฮา เธอจึงไม่ต่อสู้ป้องกันตัวหรือหลบหนีไป จีวอนรับปากว่าจะจับคนร้ายให้ได้ หมอบอกว่าแฮซูเสียเลือดมากและอวัยวะภายในถูกแทงจนเสียหาย ตอนนี้ยังรับประกันไม่ได้จนกว่าเธอจะฟื้น มูจินเพิ่งนึกออกว่าแฮซูเคยขอรายชื่อแพทย์อาสาจาก ผอ.แบคมันอู ซึ่งมีผู้สมรู้ร่วมคิดอยู่ในนั้น เขาจึงบอกจีวอนว่าจะรีบไปเอามาให้
หลังจากที่อิมโฮจุนโทรบอกข่าวแกล้งตายกับจีวอนแล้ว สื่อก็ออกเริ่มออกข่าวนี้ เมื่อแบคฮีซองไปถึงที่นัดหมาย ยอมซังชอลจึงพาเขาไปหาจองมีซุกที่ถูกขังอยู่ในกรง ซึ่งฮีซองไม่รู้ว่าฮยอนซูได้แอบรออยู่ที่นั่น จองมีซุกหวาดกลัวจนตัวสั่นเมื่อฮีซองทักทายเธอ ยอมซังชอลตรวจเงินในกระเป๋าและสูดดมกลิ่นของเงินซึ่งฮีซองได้แอบโรยสารเบื่อหนูไว้ หลังจากนั้นเขาก็มอบกุญแจให้ฮีซอง ยอมซังชอลเริ่มมีเลือดกำเดาไหลขณะที่เดินออกไปพร้อมกระเป๋าเงิน ฮีซองบอกจองมีซุกว่าเป็นโชคชะตาของเธอที่พยายามหนีเขาเท่าไรก็หนีไม่พ้น จนต้องกลับมาเจอกันอีก ขณะที่ฮยอนซูถือสายจูงสุนัขไว้เพื่อเตรียมจับฮีซอง
จีวอนแปลกใจที่คนร้ายพยายามจะฆ่าเธอ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักหน้าตา ทั้งยังมีรอยนิ้วมือของสามีและโรยเส้นผมของเหยื่อไว้ท้ายรถ หัวหน้าอูชอลจึงคิดว่าจะต้องมีคนร้ายมากกว่าหนึ่งคน โดยสมรู้ร่วมคิดกัน ขณะที่สายสืบชเวไปสอบถามคนส่งอาหารให้พัคซุนยอง และได้ข้อมูลว่าเธอไม่ได้บกพร่องทางการได้ยิน เพราะในคืนนั้นเธอเดินมาเปิดประตูให้หลังจากที่ได้ยินเสียงเคาะเรียก สายสืบชเวจึงโทรขอผลการชันสูตรจากโฮจุน ซึ่งระบุว่าเศษอาหารในกระเพาะของผู้ตายคือหมูกิมจิและเศษเต้าหู้ เมื่อทางร้านยืนยันว่าไม่ได้ใส่เต้าหู้ในอาหารที่นำไปส่ง สายสืบชเวจึงมั่นใจว่าพัคซุนยองไม่ได้เสียชีวิตหลังจากกินมื้อเย็น แต่เป็นมื้อกลางวัน ภาพตอนที่เธอออกจากบ้านกงมีจาตอนทุ่มครึ่ง ตอนนั้นเธอเสียชีวิตไปนานแล้ว จีวอนจึงคิดว่าผู้หญิงในภาพก็คือแม่ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนร้ายตัวจริง ซึ่งก็คือแบคฮีซองที่ไม่สนใจกล้องหน้ารถ เพราะเมื่อสิบห้าปีก่อนยังไม่มี และเขากลายเป็นเจ้าชายนิทรา
ฮีซองแสดงความเกรี้ยวกราดน่าหวาดกลัวเมื่อไขกุญแจไม่ออก เขาพยายามจะคว้าจองมีซุกที่อยู่ในกรง จนเธอคว้าคัตเตอร์ที่ฮยอนซูให้ไว้ ออกมาป้องกันตัว แต่ก็ไม่สามารถนำเธอออกมาได้ ฮยอนซูย่องมาจากด้านหลังและเกิดการต่อสู้ขึ้น
มูจินไปที่บ้านของแบคมันอูและบอกว่าแฮซูถูกคนร้ายแทงจนบาดเจ็บสาหัส เขาแน่ใจว่าคนร้ายคือคนเดียวกับฆาตกรต่อเนื่องเมืองยอนจู เขาจึงมาขอรายชื่อแพทย์อาสาที่แฮซูเคยขอไว้ เพราะเชื่อว่าคนร้ายอยู่ในกลุ่มนี้ กงมีจาคัดค้านโดยอ้างว่าแฮซูยังไม่ได้สติ แต่มูจินบอกว่าเขาสามารถตรวจสอบหาหลักฐานที่อยู่ของรายชื่อเหล่านี้ได้ แบคมันอูจึงบอกว่าจะไปหยิบมาให้
จีวอนโทรหามูจินขณะที่เขานั่งอยู่กับกงมีจา เธอขอให้เขาตอบแค่ใช่หรือไม่ใช่เท่านั้น เมื่อรู้ว่าเขาอยู่ที่บ้านของกงมีจา เธอจึงบอกให้เขารีบออกมาและเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำกำลังไปที่นั่น เพราะสามารถระบุตัวตนผู้สมรู้ร่วมคิดได้แล้ว ซึ่งก็คือแบคฮีซองลูกชายแท้ๆของ ผอ. เธอเชื่อว่า ผอ.และกงมีจามีส่วนเอี่ยวในเรื่องนี้ด้วย จีวอนห้ามมูจินไม่ให้แสดงปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น แต่มูจินไม่สามารถทำได้ ด้วยความโมโหที่รู้ตัวคนทำร้ายแฮซู เขาจึงเดินหาทั่วบ้านจนกระทั่งไปถึงห้องของฮีซองซึ่งเขาไม่อยู่ที่นั่น ผอ.แบคเมื่อได้ยินเสียงโต้เถียงกับกงมีจา เขาจึงรีบฉีกเอกสารของฮีซองทิ้งและตามออกไป เมื่อรู้ว่ามูจินรู้ความจริงทุกอย่างแล้ว ผอ.แบคจึงเตรียมยาพิษเพื่อฆ่าปิดปากมูจิน และบอกว่าเขาจะมอบตัวกับตำรวจหลังจากที่ฆ่ามูจินแล้ว เขายอมเสียสละตัวเองเพื่อให้ฮีซองเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ และโทษโทมินซอกที่ทำให้ฮีซองต้องกลายเป็นคนแบบนี้ แต่มูจินบอก ผอ.ว่า เขากำลังหลอกตัวเองทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แบคมันอูตัดสินใจที่จะฉีดยาให้ตัวเอง แต่โดนมูจินปัดทิ้งซะก่อนและพูดว่า ผอ.จะต้องมีชีวิตอยู่จนกว่าเรื่องนี้จะจบ หลังจาที่มูจินกลับไปแล้ว กงมีจาตัดพ้อกับสามีว่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าเรื่องจะต้องลงเอยแบบนี้ แต่ทำไมพวกเขาจึงปล่อยให้ทุกอย่างเลยเถิดมาถึงขนาดนี้
ฮีซองถูกฮยอนซูจับมัดไว้กับเก้าอี้ เขาบอกว่าจะตามหลอกหลอนฮยอนซูไปจนตาย เมื่อจองมีซุกถามว่าทำแบบนี้กับเธอทำไม แต่ฮีซองไม่สำนึกผิดเพราะถึงอย่างไรก็ติดคุกตลอดชีวิตอยู่แล้ว ฮยอนซูล้วงกระเป๋ากางเกงของฮีซองเพื่อหาโทรศัพท์ แต่เขากลับพบบัตรตำรวจของจีวอนอยู่ด้วย เมื่อรู้ว่าฮีซองฆ่าจีวอน เขาจึงพยายามโทรหาเธอ แต่เธอไม่อาจรับสายใครได้
เมื่อตำรวจโทรกลับมาและยืนยันว่าเธอตายแล้วจริงๆ ทำให้ฮยอนซูโกรธและจะฆ่าฮีซอง แต่เขาถูกฮีซองถีบจนไปติดลูกกรง จองมีซุกไม่ต้องการให้ฮยอนซูฆ่าใคร เธอจึงล็อคคอฮยอนซูไว้และบอกให้ฮีซองรีบหนีไป ฮีซองวิ่งออกมาและสะดุดร่างของยอมซังชอล ซึ่งนอนเป็นศพกอดกระเป๋าเงินอยู่หน้าประตู จากนั้นเขาก็วิ่งหนีต่อไปโดยที่ฮยอนซูวิ่งตามมาพร้อมกับมีดในมือ
จีวอนนำกำลังตำรวจไปที่บ้านกงมีจาและต้องการรู้ว่าฮีซองอยู่ที่ไหน เพราะเป็นห่วงสามีจะถูกฮีซองฆ่า แต่กงมีจารู้เพียงว่าเขาไปหายอมซังชอลเท่านั้น และบอกว่าลูกของเธอป่วยไม่สามารถฆ่าใครได้ อูชอลจึงสอบถามทะเบียนรถที่ฮีซองใช้ โฮจุนนำเบอร์โทรศัพท์มาให้หัวหน้าอูชอลและรายงานว่า มีคนโทรเข้ามาถามเรื่องการตายของจีวอนและถามถึงเด็ก และคนโทรก็คงไม่ใช่ฮีซองเพราะเขารู้อยู่แล้ว จีวอนคิดว่าต้องเป็นสามีของเธอแน่ๆ และเป็นเบอร์เดียวกับสายที่เธอไม่ได้รับ เธอจึงรีบโทรกลับทันที
จองมีซุกไขกุญแจออกจากกรงเพื่อรับโทรศัพท์ เมื่อรู้ว่าจีวอนยังไม่ตาย เธอจึงบอกให้รีบมาช่วยโทฮยอนซู ขณะที่ฮยอนซูล่าฮีซองจนเจอ เขาแทงฮีซองและตัดเส้นเอ็นที่ขา จากนั้นก็ให้ฮีซองวิ่งหนีต่อไป ฮยอนซูเห็นภาพหลอนและเดินตามพ่อไป
จีวอนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาถึงและช่วยกันออกค้นหา จองมีซุกคืนบัตรตำรวจให้จีวอนและบอกว่าฮยอนซูโดนฮีซองหลอกว่าเธอโดนฆ่าตายแล้ว มีซุกบอกว่าเธอยอมเป็นพยานให้ว่าฮยอนซูไม่ผิด หากเขาฆ่าฮีซอง แต่จีวอนบอกว่าการฆ่าคนไม่มีเรื่องชอบธรรม เพราะการฆ่าคนก็คือการฆ่าคน
ฮีซองดิ้นรนหนีไปจนสุดขอบหน้าผา เมื่อจีวอนและเจ้าหน้าที่ตามมาถึงและเห็นฮยอนซูกำลังจะฆ่าฮีซอง จีวอนจึงตะโกนเรียกเขาให้วางอาวุธและเดินออกมา แต่ด้วยอาการช็อคที่คิดว่าเธอตายแล้ว เขาเห็นภาพหลอนของพ่อยืนอยู่ตรงนั้น จึงคิดว่าจีวอนก็คงเป็นภาพหลอน จีวอนจึงขอให้เขาเดินมากอดเธอ ขณะที่เขาค่อยๆเดินไปหาจีวอนและเห็นฮีซองแย่งปืนจากตำรวจ ฮยอนซูจึงเอาตัวเข้าบังจีวอนและถูกยิง ขณะที่ตำรวจก็ยิงฮีซองเช่นกัน เป็นเวลาเดียวกับที่โทแฮซูฟื้นขึ้นมา
ฮยอนซูเห็นภาพว่าเขาตื่นมาในห้องสีขาวพร้อมกับจีวอน และคิดว่าอยู่ที่บ้านพักชายทะเลแต่กลับไม่มีเสียงคลื่น ในฝันนั้นจีวอนบอกเขาว่า อย่าถามอะไรเลยเพราะเขาจะได้ลืมทุกอย่าง ที่ผ่านมาเขาต้องลำบากและพยายามสุดความสามารถเพื่อเธอ ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะพักผ่อนแล้ว เมื่อเขาบอกว่าเธอเองก็ต้องเจ็บปวดเพราะเขาเช่นกัน แต่จีวอนบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอรักเขามาก แม้ช่วงเวลาที่อยู่กับเขาจะมีทั้งสุขและเศร้า แต่เขาก็คือความทรงจำที่งดงามของเธอตลอดไปและไม่ต้องเป็นห่วงเธออีกแล้ว ฮยอนซูรู้สึกว่าที่นี่เงียบมาก จีวอนจึงบอกว่าเพราะที่นี่มีแค่เธอกับเขาเท่านั้น ก่อนที่ฮยอนซูจะบอกว่าง่วงและหลับไปในอ้อมกอดของเธอ เขาบอกว่าที่นี่คือสวรรค์สำหรับเขา