สปอยล์ Flower of Evil ตอนที่ 16
Flower of Evil #16
เมื่อตอนแต่งงานกัน จีวอนกังวลว่าฮยอนซูจะเสียใจที่พ่อแม่ไม่มาร่วมงานด้วย แต่เขาบอกว่าการแต่งงานเป็นเพียงแค่พิธีการ และเขาก็มีเพียงเธอคนเดียว ในตอนนั้นฮยอนซูบอกเธอว่า พวกเขาจะแต่งงานกันอีกเป็นครั้งที่สอง
ผลจากการถูกยิง ทำให้หนังศีรษะของฮยอนซูฉีกขาดและกะโหลกร้าว ขณะที่ฮยอนซูยังไม่ได้สติ เขาเห็นแต่ภาพความทรงจำและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและจีวอน ทั้งเรื่องสุขและเศร้า หรือเรื่องที่ทำให้เธอเจ็บปวด เมื่อฟื้นขึ้นมาเขาสูญเสียความทรงจำและคิดว่าตัวเองเข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุรถชนในปี 2005 ฮยอนซูพบว่าตัวเองกลายเป็นฮีโร่ หลังจากที่ตำรวจแถลงข่าวว่า เขามีส่วนช่วยในการคลี่คลายคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง
สี่เดือนผ่านไปที่ห้องรอพยาน ฮยอนซูบอกกับจีวอนว่า การขอให้เธอยอมรับสถานการณ์ทุกอย่างที่เขาเจออยู่ตอนนี้ มันก็มากเพียงพอแล้วสำหรับเธอ และสิ่งที่เธออยากได้ยิน เขาก็คงไม่สามารถพูดได้ จีวอนสงสัยที่เขายังคงสวมแหวนแต่งงานที่เธอสวมให้ตอนที่เขายังไม่ได้สติ แต่เธอก็ไม่กล้าถามนอกจากบอกเพียงว่า วันนี้เธอมาให้กำลังใจและขอให้เขาให้การตามที่ซักซ้อมมาก็พอ
คณะลูกขุนเป็นผู้พิจารณาคดีโทแฮซูฆ่าหัวหน้าหมู่บ้าน โดยเธออ้างว่าเป็นการป้องกันตัว แต่ฝ่ายอัยการยื่นฟ้องข้อหาฆาตกรรม ฮยอนซูในฐานะพยานให้การว่า ในตอนนั้นเขาคือคนแรกที่ไปถึงที่เกิดเหตุและใช้เสื้อเช็ดรอยนิ้วมือของพี่สาวออกจากมีดที่เปื้อนเลือด และหัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนปลุกปั่นให้ชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์เขา ทุกๆครั้งที่เขาถูกลากตัวไป พี่แฮซูก็จะนอนไม่หลับและอาเจียนตลอดเวลา มูจินบอกกับจีวอนว่า ฮยอนซูให้การได้ดีกว่าที่ซ้อมมา ทำให้ได้ใจจากคณะลูกขุน แต่เมื่ออัยการเป็นฝ่ายซักถาม เขายอมรับว่าปลอมตัวเป็นแบคฮีซองและหลอกลวงคนอื่นรวมทั้งภรรยาตัวเองเป็นเวลาถึงสิบห้าปี อัยการถามต่อว่าเขาเป็นคนไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป และรู้สึกผิดกับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า ฮยอนซูไม่ตอบแต่สบตาจีวอนแล้วบอกกับตัวเองในใจว่าเขารักเธอ มูจินคิดว่าอัยการพยายามเน้นเรื่องที่ฮยอนซูโกหกเก่ง เพื่อให้คณะลูกขุนมองว่าคำให้การของขาเป็นเรื่องโกหก
เมื่อสายสืบชเวสงสัยว่าในตอนนั้นพยานทั้งหมู่บ้านคากยองให้การตรงกันหมดทุกคน เขาจึงสืบหาข้อมูลและโทรบอกจีวอน
ในตอนนั้นยังจินแทหลานหัวหน้าหมู่บ้านให้การว่าลุงของเขาใช้มรดกของโทมินซอกจ่ายค่าไล่ผี ซึ่งจำนวนเงินไม่ตรงกับที่จ่ายให้หมอผี เขาถอนเงินจากบัญชีของโทมินซอกไปสามในห้าส่วน และการจัดพิธีไล่ผีก็เพราะต้องการขโมยเงินของโทมินซอกและทำให้โทฮยอนซูเป็นแพะรับบาป จีวอนจึงรีบพาฮยอนซูไปหายังจินแทเพราะเขาคือพยานคนสำคัญ ระหว่างทางที่ไปจีวอนยังคงติดปากเรียกเขาว่าที่รัก
มูจินไปเยี่ยมแฮซูและบอกว่าจีวอนกับฮยอนซูกำลังไปหายังจินแท แฮซูเป็นห่วงความสัมพันธ์ของพวกเขา มูจินจึงบอกว่าจีวอนอดทนรอและพยายามทำให้ฮยอนซูกลับมาหาเธอเอง และฮยอนซูก็มีนิสัยเปลี่ยนไปหลังจากที่ความจำเสื่อม
ยังจินแทส่งข้อความบอกจีวอนว่าเขาเปลี่ยนใจที่จะให้การเป็นพยาน แต่จีวอนต้องการโน้มน้าวเขาอีกครั้ง ระหว่างที่รอยังทินแจกลับมา ฮยอนซูแอบมองจีวอนด้วยรอยยิ้ม ขณะที่เธอยื่นมือออกไปสัมผัสสายฝนที่เธอชอบ จู่ๆคำพูดของตัวเองก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำที่ว่า เขามองจีวอนได้ทะลุปรุโปร่ง เพราะเธอเชื่อแต่สิ่งที่เห็นเท่านั้น
อึนฮาบอกกับคุณยายว่าเธอไม่อยากวาดรูปพ่อ เพราะจะทำให้แม่ร้องไห้ เธอเกลียดพ่อที่ไม่พาเธอกับแม่ไปเที่ยวด้วย
ฮยอนซูบอกจีวอนให้กลับไปก่อนและเขาจะอยู่รอยังจินแทเอง จีวอนเห็นฮยอนซูสัมผัสแหวนตลอดเวลาและอดสงสัยไม่ได้ที่เขายังคงสวมมันทั้งๆที่จำเธอไม่ได้ ฮยอนซูจึงบอกว่าน้ำหนักของแหวนทำให้เกิดสมดุลขณะที่เขาฝึกงานโลหะ จากนั้นเขาก็ถอดแหวนคืนให้เธอ
เมื่อเห็นยังจินแทกลับมาและพยายามวิ่งหนี ฮยอนซูจึงถามว่าทำอะไรผิดต่อเขาหรือเปล่า ในตอนแรกยังจินแทไม่ยอมให้การแต่ตั้งใจจะโทรไปแจ้งเรื่องนี้แบบนิรนาม เขายอมเล่าความจริงเพื่อให้จีวอนบันทึกเสียง ควอนซองบกลุงของเขามีเจตนาฮุบเงินของโทมินซอก ในขณะที่แฮซูและฮยอนซูยังไม่มีผู้ปกครองตามกฎหมาย เขาจึงยอมร่วมมือเพราะลุงรับปากจะจ่ายค่าเทอมให้ โดยการเชือดไก่และเปิดท้องทิ้งไว้กลางถนน เพื่อให้คนในหมู่บ้านเชื่อว่าฮยอนซูถูกผีโทมินซอกเข้าสิง และจัดพิธีไล่ผี ยังจินแทไม่อยากไปขึ้นศาลเพราะตนเองเองเป็นครูประถมและกลัวผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แต่เมื่อฮยอนซูบอกว่าเขายอมยกโทษให้ทุกอย่าง และอยากให้เขาไปให้การในศาลด้วยความสมัครใจ ยังจินแทจึงยอมเปลี่ยนใจ
จีวอนแปลกใจที่ฮยอนซูยอมยกโทษให้ยังจินแทได้ง่ายๆ เขาจึงบอกว่ามันเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว เพียงแค่โกหกเท่านั้น ทั้งที่จริงเขาอยากจะฆ่ายังจินแทด้วยซ้ำ เมื่อเห็นสีหน้าของจีวอน ฮยอนซูจึงขอให้เธอทำหน้าดีๆหน่อย เพราะมันอ่านง่ายเกินไป
จีวอนอยากรู้ว่าเขาจะรู้ความคิดของเธอไหม ฮยอนซูจึงตอบว่า “นี่ไม่ใช่คนที่ฉันรู้จัก และไม่ใช่คนที่กำลังตามหาอยู่” คำพูดของเขาทำให้เธอต้องจอดรถเพื่อคุยกัน เธอต่อว่าเขาที่ใจร้ายและจงใจทำแบบนี้กับเธอ เขาจึงชี้ให้เธอเห็นว่า เขาเป็นผู้ชายที่สามารถโกหกคนอื่นได้โดยไม่รู้สึกผิด เพราะหลังจากที่เขาฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล เขาก็จำอะไรไม่ได้ และรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นขึ้นมาหลังจากที่นอนหลับไปสิบห้าปี แต่ว่าร่างกายของเขาเหมือนจะจำได้อยู่ว่าใช้ชีวิตมาอย่างไรตลอดเวลาสิบห้าปีที่ผ่านมา จู่ๆเขาก็ทำอาหารที่ไม่เคยเห็นหรือเคยกินมาก่อน และยิ่งตอนทำงานโลหะ เขาแทบไม่เชื่อตัวเองที่มือเบาได้ขนาดนั้น
นอกจากนี้เขายังสามารถอ่านอารมณ์ของคนอื่นและรู้วิธีใช้มันให้เป็นประโยชน์กับตัวเองได้ด้วย ฉะนั้นเขาจึงรู้ดีว่าเธอต้องการได้ยินอะไรจากเขา และอยากให้เขารู้สึกเช่นเดียวกับเธอ ถึงแม้ว่าจำอะไรไม่ได้ก็ตาม จีวอนร้องไห้เสียใจและตัดพ้อว่า เขาลืมเธอได้อย่างไร ทั้งที่รักกันมากมายและมาไกลถึงขนาดนี้ และทำราวกับว่าใช้กรรไกรตัดเธอออกจากชีวิต
ฮยอนซูกลั้นน้ำตาไม่อยู่และบอกเธอว่าเขาเองเชื่อใจตัวเองไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่รู้ว่าในตัวเขายังมีความจริงใจอยู่สักนิดไหม และไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะเป็นห่วงใครสักคนนานๆ เขาจึงไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อเธอนั้นจะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน และขณะที่เธอกำลังมองเขาอยู่นั้น เธอก็กำลังตามหาใครอีกคนที่อยู่ในตัวเขา และหากเขาทำตัวแบบคนคนนั้นแม้ชั่วขณะ เธอก็จะมีหวัง แต่ถ้าหากไม่ เธอก็จะผิดหวัง เขาจึงเกลียดและไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับคนคนนั้น ความรู้สึกเหมือนตัวเองและจีวอนถูกล่ามเท้าไว้ที่เสา ซึ่งมีแต่วิ่งไล่กันเป็นวงกลม และเขาก็วิ่งหันหลังให้เพราะไม่ต้องการให้เธอเห็นเขาจากด้านหน้า สุดท้ายก็ไม่ได้ไปไหนเลย
มูจินสังเกตเห็นว่าฮยอนซูเพิ่งร้องไห้มา จึงคิดว่าเขาโดนจีวอนแหกอก แต่ฮยอนซูยอมให้เธอแหกอกจริงๆซะยังดีกว่า และคิดว่าหลังปิดคดี เขาจะคุยกับเธอเรื่องลูก แต่เพียงแค่คิดว่าจะต้องเจอเธออีก เขาก็รู้สึกอึดอัดแล้ว และไม่ต้องการให้อึนฮาเจอพ่อที่จำตัวเองไม่ได้ด้วย จึงคิดจะยกมรดกที่เหลือให้กับลูกและแยกทางกับจีวอน
อึนฮาร้องไห้ถามว่าพ่อแม่หย่ากันแล้วหรือ เพราะเพื่อนๆที่โรงเรียนล้อเธอ หลังจากที่เปลี่ยนมาใช้นามสกุลของแม่ เป็นชาอึนฮา เธอถามแม่ว่าเมื่อไรพ่อจะกลับมา จีวอนร้องไห้และปลอบใจลูกว่า เธอต้องการให้พ่อของลูกมีความสุขและได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระสักครั้ง เพราะเขาไม่เคยได้ใช้ชีวิตเป็นตัวเองเลย
แฮซูบอกจีวอนว่า ในคืนนั้นเธอต้องการปกป้องจีวอนและอึนฮา และมันทำให้เธอรู้สึกรักตัวเองขึ้นมาบ้าง จีวอนบอกว่าเธอตัดสินใจที่จะปล่อยฮยอนซูไป เพราะมันเป็นทางออกที่ถูกต้อง แฮซูจึงบอกว่าแม้ความเจ็บปวดจะนำไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่เธอก็อยากให้จีวอนเจ็บปวดน้อยลง
ผลการพิจารณาคดีออกมาแล้วว่า โทแฮซูพ้นข้อกล่าวหา เพราะเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวเอง ขณะที่ฮยอนซูไปเยี่ยมกงมีจาและบอกว่า ผอ.แบคมันอู สูญเสียความทรงจำและคิดถึงแต่ฮีซองตั้งแต่เขาเสียชีวิต เมื่อฮยอนซูถามว่า ในตอนนั้นชาจีวอนเป็นคนแบบไหนสำหรับเขา กงมีจาจึงตอบว่าเขารักเธอ
มูจินไปที่บ้านของแฮซูด้วยความคิดถึง เพราะหลังจากที่พ้นโทษ เธอก็ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และสัญญากับมูจินว่าจะโทรมาคุย มูจินยังคงรอเธอกลับมา ขณะที่ฮยอนซูกลับไปที่บ้านเกิดและทบทวนเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มคบกับจีวอน
เขาซื้อเวิร์กชอปของตัวเองกลับคืนและได้อ่านไดอารี่ที่ตัวเองเคยเขียนไว้เป็นเรื่องราวของจีวอน ฮยอนซูถามว่าเขาเป็นคนตั้งชื่อเวิร์กชอปว่าดาวอรุณรุ่งหรือเปล่า เพราะมันมีความหมายว่าเทพเจ้าเฮเฟตัสซึ่งเป็นเทพเจ้ากรีกแห่งงานโลหะ เป็นเทพที่น่าเกลียดและไม่มีใครชอบ เขาจึงใช้เวลาอยู่ในเวิร์กชอปตลอด แต่เขาก็มีวีนัสซึ่งเป็นภรรยาที่เขารักสุดหัวใจ ซึ่งวีนัสคือดาวเคราะห์ที่แปลว่าดาวอรุณรุ่ง จากนั้นฮยอนซูก็บอกกับจีวอนว่า ในช่วงที่เขาใช้เวลาอยู่เนิ่นนานที่สุดนั้น เขาคิดถึงสายสืบชาจีวอนอยู่เสมอ
จีวอนจึงบอกว่าเธอกำลังจะย้ายไปทำงาที่ปูซานเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่และไม่ต้องเจอกับเขาอีก เพราะทนไม่ได้ที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฮยอนซูเดินเข้าหาเธอและขอร้องให้เธอเปลี่ยนใจ โดยบอกว่าเขาจะทำดีกับเธอและจะชอบเธอจริงๆ เหมือนกับที่เธอเคยบอกเขาตอนเริ่มคบกัน และชวนเธอให้ไปตามหาคนที่เธอกำลังตามหาด้วยกัน เพราะตอนนี้เขาอยากรู้แล้วว่าคนคนนั้นเป็นอย่างไร เมื่อเห็นบาดแผลที่นิ้วมือของเขาเพราะถอดแหวนแต่งงานออกจนทำงานไม่ถนัด จีวอนจึงสวมแหวนวงนั้นให้ และทั้งคู่ก็จุมพิตกัน
จากนั้นพวกเขาก็ไปรับอึนฮาที่โรงเรียน อึนฮาโผเข้ากอดพ่อด้วยความคิดถึง ขณะที่ฮยอนซูพยายามนึกถึงกอดแรกตอนที่อึนฮาเกิด และทั้งสามคนพ่อแม่ลูกก็สวมกอดกันและกัน
จบบริบูรณ์