สปอยล์ Flower of Evil ตอนที่ 8

8

ในฤดูใบไม้ร่วง ปี 2005 โทฮยอนซูยอมรับเงื่อนไขของแบคมันอู ที่จะใช้ตัวตนของแบคฮีซอง เพราะตัวเขาเองก็ต้องการหลบหนีคดี ส่วนแบคมันอูก็ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าลูกชายเป็นเจ้าชายนิทรา เพราะกลัวสูญเสียตำแหน่งหัวหน้าแผนกศัลยกรรมในตอนนั้น แบคมันอูให้โทฮยอนซูอ่านประวัติของแบคฮีซองทั้งหมด และสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนั้นที่แบคฮีซองตัวจริงต้องทำก็คือการเข้าฝึกทหารกองหนุน โทฮยอนซูจึงต้องไปทำบัตรประชาชนใหม่ โดยตอบคำถามพื้นฐานในครอบครัวได้ถูกต้อง เพราะไม่ผ่านการสแกนลายนิ้วมือ

--------------------------------

ฮีซองบอกมูจินว่าจีวอนต้องการจับโทฮยอนซูก็เพราะข่าวของเขาที่ว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิด ฮีซองนึกถึงพวงกุญแจรูปปลาที่พี่สาวให้ เขาจึงแน่ใจว่าเธอเคยเจอผู้สมรู้ร่วมคิดคนนั้น และหากมูจินช่วยตามหาแฮซูพี่สาวของเขา เขาจะบอกทุกอย่างที่รู้ และมูจินก็อาจจะกลายเป็นนักข่าวที่เปิดเผยตัวตนของผู้สมรู้ร่วมคิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมืองยอนจู
จีวอนดูจีพีเอสและสงสัยสาเหตุที่สามีของเธอไปหาคิมมูจินกลางดึก หลังจากนั้นเธอก็แกล้งนอนหลับเหมือนเดิมเมื่อฮีซองกลับมาเขาโกหกว่าไปเอาของในรถและทำงานในเวิร์กชอป เพราะนอนไม่หลับ

วันรุ่งขึ้นจีวอนยังคงเช็กจีพีเอสเหมือนเดิม และรู้ว่าฮีซองทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายสามโมง ขณะที่ทีมของเธอไปซุ่มดูกลุ่มหัวขโมย จีวอนได้พบกับคิมอินซอ เด็กอ้วนที่เคยตกบันไดกำลังขโมยของในร้าน อินซอบอกว่าเขาผิดเองที่ทำให้ครอบครัวพังจากการที่เปิดเผยทุกอย่างเมื่อคราวก่อน จากนั้นจีวอนจึงเรียกแม่ของอินซอมาสอบถาม เธอบอกว่าอินซอหนีออกจากบ้านเพราะทำใจไม่ได้ที่พ่อของเขาถูกจับ จีวอนจึงแนะนำให้เธอตามหาลูกตามร้านอินเทอร์เน็ต

หัวหน้าอูชอลสั่งให้ลูกทีมสะสางคดีอื่นให้เสร็จภายในอาทิตย์นี้ เพราะได้รับมอบหมายให้รื้อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เมืองยอนจูอีกครั้ง

มูจินไปรอโทแฮซูหน้าเวิร์กชอปศิลปะที่เธอทำงานอยู่ จึงโทรนัดฮีซองให้มาเจอกับพี่สาว ขณะเดียวกันฮีซองขอให้มูจินช่วยสืบเรื่องพัคคยองชุน เพราะเขาสงสัยว่าทำไมพัคคยองชุนแจ้งความว่าจองมีซุกหายตัวไป ในคืนที่เขาทะเลาะกับเธอ ฮีซองบอกให้มูจินไปหาพัคคยองชุนที่บ้านโดยบอกว่าอยู่ฝ่ายเดียวกับเขา และพัคคยองชุนจะให้ความร่วมมือ เมื่อแฮซูเลิกงานและเห็นมูจินรออยู่ เธอยังคงยืนกรานว่าเป็นคนฆ่าหัวหน้าหมู่บ้านเอง โทฮยอนซูไม่ได้ทำอะไรผิด มูจินจึงบอกเธอว่าเขาพบฮยอนซูแล้ว

จีวอนไม่เห็นด้วยกับการรื้อคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง โดยอ้างว่าไม่มีผู้ต้องสงสัยเริ่มสืบ หลักฐานและความทรงจำของพยานก็หายไปหมดแล้วหลังจากที่ผ่านมายี่สิบกว่าปี เมื่อสายสืบชเวบอกว่าโทฮยอนซูคือผู้ต้องสงสัย จีวอนจึงเถียงว่าไม่มีเบาะแสที่จับต้องได้ และขอให้หัวหน้าอูชอลส่งคดีนี้ไปให้ทีมอื่นทำ หัวหน้าแปลกใจเพราะคิดว่าเธอจะดีใจที่ได้ทำคดีนี้ ส่วนสายสืบชเวก็สงสัยที่ช่วงนี้จีวอนทำตัวแปลกๆคล้ายกับว่ากำลังแอบทำคดีนี้อยู่คนเดียว

ขณะที่ฮีซองกำลังไปหาแฮซู เขาโทรบอกจีวอนว่าคืนนี้จะกลับดึก เพราะต้องไปพบหัวหน้าอาร์ตแอนด์ไลฟ์คนที่เคยจัดนิทรรศการ เมื่อจีวอนดูจีพีเอส จึงรู้ว่าเขาโกหกอีกแล้ว เมื่อฮีซองได้พบกับแฮซูที่ตึกร้างแห่งหนึ่ง เขาบอกว่าไม่อยากตามหาพี่เลย แต่เขามีปัญหาต้องให้เธอช่วย เมื่อฮีซองเอ่ยถึงคนที่ให้พวงกุญแจ แฮซูก็ร้องไห้และโผเข้ากอดน้องชาย เพราะนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เธอไปขอร้องหัวหน้าหมู่บ้านให้เลิกทำพิธีไล่ผีกับน้องชาย แต่จู่ๆ หัวหน้าหมู่บ้านก็พุ่งเข้าหาเธอ เธอจึงฆ่าเขา เมื่อโทฮยอนซูมาเห็น เขาจึงจะยอมรับผิดแทน โดยให้พี่สาวใช้ชีวิตปกติธรรมดา

อึนฮานั่งยิ้มเมื่อเห็นคุณย่ากำลังทำอาหารให้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำมานาน อึนฮาอ้าปากและอ้อนให้คุณย่าป้อนให้เพราะเธอใช้ตะเกียบไม่เก่ง กงมีจากำลังจะป้อน แต่อึนฮาบอกให้คุณย่าเป่าก่อน เธอชมว่าอาหารของคุณย่าอร่อยกว่าที่แม่ทำ แต่น้อยกว่าของพ่อ กงมีจาเอ็นดูในความน่ารักของอึนฮาและกำลังจะป้อนคำต่อไป แต่แบคมันอูกลับมาเห็น และต่อว่าที่กงมีจาไม่รู้ว่าเขากลับมาแล้ว อึนฮาทักทายคุณปู่ตามที่คุณย่าบอก

จากนั้นแบคมันอูขอคุยส่วนตัวกับกงมีจา เขาต่อว่าที่เธอปล่อยให้คนอื่นเข้ามาในบ้าน และหัวเราะเล่นกับอึนฮาทั้งที่แบคฮีซองยังนอนอยู่ กงมีจาเถียงว่าอึนฮาเป็นแค่เด็กหกขวบ ตัวเธอเองไม่อยากใช้ชีวิตเป็นคนบาปไปตลอดชีวิตและอยากมีชีวิตปกติเหมือนคนอื่นๆบ้าง การได้เห็นเด็กกินข้าวในบ้านทำให้เธอแทบร้องไห้ออกมา แบคมันอูจึงขอให้เธอไปหาหมอเพราะคิดว่าอาการซึมเศร้ากลับมาอีกแล้ว เมื่ออึนฮาเห็นแม่บ้านใบ้ออกมาเอาอาหาร เธอจึงขอให้แม่บ้านพาไปฉี่ แต่เธอไม่ได้ยิน อึนฮาจึงวิ่งตามไปและหยุดรออยู่ที่ห้องนั้นเมื่อไม่เห็นใคร

แบคมันอูรู้สึกโกรธและควบคุมอารมณ์ไม่ได้ จึงตบหน้ากงมีจาเมื่อโดนเธอต่อว่าว่าเขารักแค่ตัวเอง เพราะไม่เคยอยู่กับลูกแม้แต่ตอนเริ่มหัดเดิน เริ่มเขียนชื่อเป็น หรือตอนเกิดอุบัติเหตุและพยายามโทรหาพ่อ กงมีจาบอกว่าเพียงแค่เธอยั่วโมโหให้เขาโกรธและแสดงอารมณ์ออกมา ก็เพียงพอที่จะถอดหน้ากากของเขาได้แล้ว

เมื่อแบคมันอูเปิดประตูออกมาเห็นอึนฮายืนอยู่และบอกว่าปวดฉี่แต่หาห้องน้ำไม่เจอ แบคมันอูจึงหันไปบอกกงมีจาว่าเด็กหกขวบเดินทั่วบ้าน หาวิธีปิดปากให้ดีๆ กงมีจาจูงมือหลานไปห้องน้ำและบอกว่าต้องกลับบ้านได้แล้ว

จีวอนสะกดรอยตามฮีซองไปและได้ยินทุกอย่าง เธอรู้แล้วว่าฮีซองไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิด เพราะเขาขอให้พี่สาวช่วยตามหาและแน่ใจว่าเธอเคยเจอในงานศพพ่อ แฮซูเล่าว่าเคยมีตำรวจมาถามเรื่องพัคคยองชุนซึ่งเป็นคนเดียวกับในรูปครอบครัวที่เขาเพิ่งให้ดู ฮีซองจึงบอกว่าจีวอนเป็นตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ แฮซูสังเกตเห็นว่าน้องชายของเธอเปลี่ยนไป จึงได้ถามว่าเขารักจีวอนใช่ไหม แต่เขาตอบว่าไม่เคยรักเลย เพราะไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันเป็นอย่างไร และต่อไปนี้เขาจะเป็นแบคฮีซองไปตลอดทั้งชีวิต จีวอนเสียใจเมื่อได้ยินฮีซองพูดเช่นนั้น เธอจึงเดินออกไปจากที่นั่นทั้งน้ำตา

จีวอนเผาข้าวของในกระเป๋าของโทฮยอนซูทิ้ง และบอกตัวเองว่าเธอจะยอมให้เขาใช้ชีวิตเป็นแบคฮีซอง เมื่อฮีซองกลับมาเธอจึงชวนเขาดื่มด้วยกัน ฮีซองเห็นสีหน้าไม่ค่อยดีของจีวอน แต่เธอตอบเพียงว่าเหนื่อยเรื่องงานและอยากลาออก เธอบอกฮีซองว่าบ้านหลังนี้จะครบห้าปีแล้วที่ซื้อด้วยกันมา ฮีซองจึงอาสาที่จะเป็นคนจัดการงานฉลอง เมื่อถามว่าฮีซองรักเธอไหม เขาไม่ตอบแต่กุมมือเธอไว้และบอกว่าเธอไม่น่าถามแบบนี้ ในใจของจีวอนต้องการเลิกกับเขา แต่ก็อยากให้เขาเป็นแบคฮีซองเพื่ออึนฮา
จากนั้นจีวอนบอกว่ากำลังจะรื้อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องอีกครั้ง และคราวนี้เธอจะทำให้เต็มที่

ทั้งแฮซูและฮีซองมาคุยกันที่ห้องของมูจิน เธอเล่าว่าคนคนนั้นมาที่งานศพพ่อ และร้องไห้ฟูมฟายมากกว่าใครๆ แต่เธอจำหน้าเขาไม่ได้เพราะไม่มีลักษณะเด่น เขาบอกว่าพ่อของเธอเคยช่วยเขาไว้ครั้งหนึ่ง จึงมอบพวงกุญแจรูปปลาให้เธอและบอกว่ามันจะนำโชคมาให้ เมื่อเขาหันไปเห็นโทฮยอนซูที่กำลังหลับอยู่ และพูดว่าน่าสงสารเพราะ อนาคตของฮยอนซูกำลังมุ่งไปในทางที่น่ากลัว เธอจึงได้มอบพวงกุญแจนั้นให้น้องในเวลาต่อมา ตอนนั้นเขาเขียนเบอร์โทรไว้ที่แขนของเธอ และเธอจดไว้ในสมุดซึ่งโดนไฟไหม้บ้านไปหมดแล้ว ฮีซองจึงคิดว่าชายคนนี้ตั้งใจเข้าหาเขา

 เมื่อฮีซองเปิดคลิปเสียงให้โทแฮซูฟัง เธอคิดว่าเป็นเสียงในเวิร์กชอป แต่ฮีซองบอกว่าไม่ใช่แต่เป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยเหมือนเคยไปที่นั่นมาก่อน มูจินไม่มีสมาธิที่จะคุยเรื่องนี้เพราะมัวแต่จ้องความสวยของโทแฮซู จนฮีซองสังเกตได้ มูจินลำดับวันเวลาและเหตุการณ์วันที่จองมีซุกหายตัวไป วันนั้นเธอโทรศัพท์ทะเลาะกับสามี แต่เมื่อรู้ว่าเขาประสบอุบัติเหตุ เธอจึงรอรถเมล์เพื่อจะไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล แล้วก็หายตัวไปหลังจากนั้น จากข่าวเก่าๆ มูจินพบว่าเหยื่อมีจุดร่วมกันอย่างหนึ่ง

ขณะที่จัดของในออฟฟิศใหม่ จีวอนได้ถอดแหวนแต่งงานเก็บไว้ในลิ้นชัก เมื่อเริ่มประชุมคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง สายสืบชเวมองไม่เห็นจุดร่วมกันของเหยื่อ จีวอนแย้งว่าเหยื่อหายไปอย่างไม่คาดคิดแต่ไม่มีใครตามหาพวกเขาเลย แต่เพราะการตายของโทมินซอก ตำรวจจึงไม่ตรวจสอบเรื่องเหยื่ออย่างละเอียด ยกเว้นจองมีซุกซึ่งสามีแจ้งความว่าเธอหายตัวไป เมื่อดูจากตำแหน่งแผนที่วันเกิดเหตุแล้ว จีวอนบอกว่าทั้งโทมินซอกและโทฮยอนซูไม่ได้เจอจองมีซอกในวันนั้น แต่โทมินซอกน่าจะให้ผู้สมรู้ร่วมคิดขอยืมรถเพื่อไปเจอเธอ จากคำให้การของพยาน57คน ในสามวันก่อนที่จะหายตัวไป ส่วนใหญ่จะเป็นการโทรจากบริษัทจัดหางาน จีวอนจึงคิดว่าจะหาตัวผู้สมรู้ร่วมคิดได้จากกลุ่มนี้ จีวอนอยากไขคดีนี้ให้ได้ เพื่อที่เธอจะได้ตัดสินใจขั้นตอนต่อไปในชีวิตคู่ของเธอ

ฮีซองรู้ว่าพ่อของเขาจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามโดยการลักพาตัวเหยื่อที่ป้ายรถเมล์แน่ๆ แต่นิสัยของพ่อชอบวางกับดักและจองมีซุกก็คงตกหลุมพราง จากนั้นมูจินก็สั่งพิซซ่ามาสามถาดสำหรับพวกเขา เพราะรู้ว่าโทแฮซูชอบกิน ฮีซองไม่พอใจที่คิดว่ามูจินมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆ พวกเขาจึงทะเลาะกัน โทแฮซูขอให้น้องชายพูดทุกอย่างออกมาจากใจจริง เพราะเธอรู้ดีว่าตอนนี้น้องชายของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว

คิมอินซอ เข้าไปที่บริษัทจัดหางานจากใบปลิวที่เขาอ่าน ประธานยอมซังชอลนึกขำที่เห็นเขาเป็นเด็กหนีออกจากบ้าน ก่อนที่จะให้เขาเขียนเรซูเม่

แบคมันอูดูข่าวว่าจะมีการรื้อคดีโทฮยอนซู แต่ยังหาตัวไม่พบ เขาจึงหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งขึ้นมา แต่ยังไม่ทันได้โทรออก ก็ได้รับข้อความจากแม่บ้านซะก่อนว่ากงมีจาไม่ยอมออกมาจากห้องของแบคฮีซองเลย เขาเป็นห่วงลูกชายจึงรีบกลับบ้านทันที
จีวอนบอกทุกคนว่าเธอรู้ดีว่าโทฮยอนซูไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิด สายสืบชเววิเคราะห์ว่าผู้สมรู้ร่วมคิดลักพาเหยื่อโดยใช้รถของโทมินซอกและขังเหยื่อไว้ท้ายรถและทิ้งรถไว้ที่นั่น จากนั้นโทมินซอกก็มาขับรถคันนั้นพาเหยื่อไปขังไว้ที่ห้องใต้ดินเวิร์กชอป ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเจอกันสองครั้งเพื่อส่งมอบกุญแจรถ แปลว่าโทฮยอนซูต้องเห็นผู้สมรู้ร่วมคิดแน่นอน จู่ๆจีวอนก็ขอตัวออกไปข้างนอกเพื่อรีบไปบอกสามีของเธอ เพราะคิดว่าฮีซองอาจจะพบกับผู้สมรู้ร่วมคิดโดยที่เขาไม่รู้ตัว

ฮีซองบอกมูจินและพี่แฮซูว่าเขาไม่อยากสูญเสียชีวิตแบบนี้ไป และอยากเป็นแบคฮีซองอยู่แบบนี้ ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น มูจินตัดสินใจจะนัดสายสืบอิมโฮจุนเพื่อหลอกถามข้อมูล แต่จีวอนโทรเข้ามาซะก่อน มูจินจึงโกหกว่าป่วย เมื่อคิดว่าพิซซ่ามาส่ง เขาจึงออกไปเปิดประตูและพบว่าเป็นจีวอน จีวอนสังเกตเห็นมีรองเท้าหลายคู่ และพิซซ่ามาส่งสามถาด มูจินจึงอ้างว่าเขากำลังคุยกับสายข่าวอยู่และขอให้จีวอนไปรอเขาที่ร้านกาแฟก่อน ฮีซองจึงเรียกหามูจินและเดินออกมาเจอกับจีวอน..

กงมีจาเฝ้ามองดูลูกทั้งน้ำตา และสงสารที่เขาอดทนมานานจนถึงตอนนี้ เธอจึงตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจเพื่อต้องการให้ลูกไม่ต้องทรมานและจากไปก่อน และเธอก็จะตายตาม แบคมันอูวิ่งเข้ามาถึงในขณะที่กงมีขวางเอาไว้ และตอนนั้นเองแบคฮีซองตัวจริงก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา..