สปอยล์ If You Wish Upon Me ตอนที่ 3

3


คุณตายงโฮกำลังจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต คุณป้ายอมซุนจาทำอาหารอย่างดีหลายชนิดตามที่คุณตาขอร้อง เพื่อให้ทุกคนในทีมจีนี่ได้อยู่กินข้าวด้วยกันรวมทั้งฮีซุกลูกสาวของท่านที่เพิ่งมาพร้อมกับสามีฝรั่งและลูกสาวเพื่อดูใจท่านเป็นครั้งสุดท้าย กยอเรเยไม่ร่วมกินข้าวด้วย ทุกคนจึงคิดว่าเขาออกไปกินอาหารหรูตามลำพัง มีเพียงคุณป้ายอมที่คิดว่าเป็นเพราะกยอรเยไม่เคยได้กินอาหารดีๆ ต่างหาก ดงโฮแวะกลับมาเอาสายชาร์จและอยู่ร่วมกินข้าวกับพวกเขาตามคำชวนของคังแทชิก ทำให้เขาเห็นถึงความรักความผูกพันในครอบครัวของคุณตาและลูกสาว เขาจึงเข้าใจแม่ของตัวเองมากขึ้นจากที่เคยเย็นชากับท่าน ในคืนนั้นขณะที่ทุกคนกำลังหลับอยู่ กยอรเยเก็บลูกพลับมาฝากคุณตาแต่ว่าท่านจากไปแล้วอย่างสงบ

ฮเยจินเล่าให้ดงโฮฟังว่า กยอรเยคือคนที่ทำให้เธอเปลี่ยนใจไม่ฆ่าตัวตายและให้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อย้ายออกจากบ้านชั่วคราวเพื่อให้คุณตายงโฮได้กลับมาอยู่เป็นครั้งสุดท้าย แม้ภายนอกของกยอรเยจะดูเป็นคนแข็งกระด้างแต่จิตใจของเขาต่างจากบุคลิก

คุณป้ายอมซุนจาเป็นห่วงกยอรเยเมื่อไม่เห็นเขามาทำงาน แต่คังแทชิกคิดว่าเขาคงทำใจลำบากเพราะคุณตายงโฮคือเคสแรกของเขา กยอรเยไปนั่งดื่มโดยมีจินกูนั่งเป็นเพื่อน เขาเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ไม่เคยหัวเราะเยอะกยอรเยตอนที่เจอกันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

อิมเซฮีเด็กสาวที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อาการของเธอรุนแรงขึ้นและจะร้องเสียงดังเมื่อเจ็บปวดและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จนทำให้รบกวนผู้ป่วยที่อยู่ร่วมห้องและก้าวร้าวกับพยาบาลซอยอนจูขณะที่เข้ามาดูแล ต่อมาเซฮีขอโทษยอนจู เธอจึงสอนเซฮีและตั้งใจให้กยอรเยได้ยินว่าอย่าทนทรมานเพราะหากเจ็บปวดก็ต้องบอกให้คนรู้ คังแทชิกรู้ว่าเซฮีชอบนักแสดงละครเวทีพโยกยูแทและอยากจะแสดงร่วมกับเขาสักครั้งหนึ่งก่อนตาย แทชิกจึงอยากจะทำความปรารถนาของเธอให้เป็นจริง แต่คังแทชิกต้องผิดหวังเมื่อไปพบพโยกยูแทครั้งแรกที่เป็นคนอารมณ์ร้อนและไม่สนใจคำขอร้องของเขา

คุณป้ายอมซุนจามาเป็นแม่ครัวจิตอาสาในทีมจีนี่ ก็เพราะลูกสาวที่เคยป่วยและรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ได้ขอร้องแม่ให้ทำอาหารเพื่อคนอื่นต่อไปแม้เธอจะจากไปแล้วก็ตาม กยอรเยกินอาหารของคุณป้ายอมได้เพียงคำเดียวโดยบอกว่าตนเองไม่ได้ชอบกินอะไรเป็นพิเศษเพราะกินเพื่ออยู่เท่านั้น ขาของคังแทชิกหายเป็นปกติแต่เขาขออนุญาตหมอที่จะใส่เฝือกต่อไป โดยให้เหตุผลว่าเป็นข้ออ้างเพื่อเหนี่ยวรั้งให้กยอรเยทำงานกับเขาอีก

ในการออดิชั่นหานักแสดงที่โรงละครฮัลโทรัน คังแทชิกนำบันทึกเสียงการร้องเพลงของเซฮีไปเปิดให้พโยกยูแทและคณะกรรมการฟัง โดยบอกว่าเธอเป็นนักแสดงหน้าใหม่และเรียนการแสดงมาห้าปีหลังจากที่ได้ดูการแสดงของพโยกยูแท แทชิกขอร้องพโยกยูแทให้เห็นใจในอาการป่วยระยะสุดท้ายของเธอที่ปรารถนาจะแสดงคู่กับเขาสักครั้ง พโยกยูแทไม่สนใจและให้เจ้าหน้าที่ลากตัวแทชิกออกไป คังแทชิกอดทนและทุ่มเทตั้งใจทำความปรารถนาสุดท้ายของผู้ป่วยให้เป็นจริง แม้จะเป็นงานอาสาที่ไม่ได้เงินและบางครั้งก็ต้องเจอกับความรุนแรงจากคนอื่นก็ตาม

กยอรเยเห็นคนในทีมเถียงกันบ้างห่วงใยกันบ้าง แต่เขาก็รู้สึกมีชีวิตชีวาและคิดว่าหากสักวันหนึ่งที่เขาเจ็บป่วย คนในทีมนี้ก็คงจะช่วยดูแลและบรรเทาความเจ็บปวดให้เขาเช่นกัน ความรู้สึกสุขสงบในการอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้แตกต่างจากชื่อกยอรเยและการใช้ชีวิตที่ผ่านมาของเขาโดยสิ้นเชิง

คุณป้ายอมซุนจาเข้าไปที่ห้องพัก403 และรายงานคังแทชิกว่าทุกอย่างยังคงปกติดีอยู่ ในขณะที่เขาดูรูปคู่ของตัวเองกับลูกชายที่พลัดพรากจากกันไป