สปอยล์ It’s Okay to Not Be Okay ตอนที่ 10

10

มุนยองเห็นอาการของพี่ซังแทแบบนั้น ทำให้เธอนึกถึงนิทานเรื่อง “พระราชาหูลา” ที่ต้องระบายความลับที่อยู่ในใจออกมา หลังจากที่ ผอ.โอให้ยาระงับประสาทซังแทแล้ว เขาบอกคังแทว่า อยากให้ซังแทได้รับการดูแลอยู่ที่โรงพยาบาลสักพัก

ซังแทยังคงหลับอยู่ คังแทจึงออกไปเดินเล่นและขอให้มุนยองกลับบ้าน ไม่ต้องตามเขาอีก มุนยองบอกว่าในตอนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ และไม่ใช่ความผิดของเขา เพราะเธอเห็นคังแทเดินกลับมาช่วยพี่ขึ้นจากน้ำ คังแทจึงบอกว่าพี่ซังแทรู้ดีว่าเขาคิดอย่างไร การที่เดินหนีในตอนนั้นก็เพราะเขาคิดอยากจะให้พี่ตายไปจริงๆ คังแทตำหนิที่มุนยองช่วยชีวิตเขาไว้ และบอกว่าถ้าเขาตายไปตั้งแต่ตอนนั้นก็จะได้ไม่ต้องมีชีวิตแบบนี้

พี่ซังแทยังคงสลึมสลือและเพ้อแต่เรื่องเดิมๆ ว่าคังแททิ้งเขาไป
หัวหน้าพยาบาลขอบันทึกคำปรึกษาของคนไข้พัคอ๊กนันจากนัมจูรี เพราะเห็นว่าช่วงนี้คนไข้อารมณ์แปรปรวนบ่อยๆ และภาวะทางอารมณ์ก็ต่างไปจากปกติ พัคอ๊กนันถามหัวหน้าพยาบาลว่ามุนคังแทคิดจะฆ่าพี่ชายจริงๆ หรือ เธอตอบเพียงว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดระหว่างพี่น้อง พัคอ๊กนันได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มกริ่มและถามต่ออีกว่า หัวหน้าพยาบาลคิดว่าทำไม”โอเทลโล” ถึงฆ่าภรรยาตัวเอง แล้วเธอก็ตอบออกมาเองว่า เพราะ “การเข้าใจผิด” พร้อมทั้งหัวเราะออกมาเบาๆ

นัมจูรีนำกระเป๋าไปให้ซังแทและถามเขาว่าเหงามั้ย หรือถ้าอยากกลับบ้าน…
ซังแทนอนคลุมโปงตอบออกมาทันทีว่าไม่กลับ

โอชายงและนัมจูรีผ่านมาเห็นคังแทนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องพักของซังแท โอชายงแปลกใจที่ซังแทไม่เข้าไป จูรีจึงตอบว่าคนเป็นออทิสติกจะปิดประตูใส่ผู้อื่น และคังแทก็รอให้พี่เป็นคนเปิดประตูให้ก่อน

ผอ.โอเห็นซังแททนร้อนและนอนคลุมโปงอยู่อย่างนั้น จึงบอกว่าพี่น้องดื้อด้านพอๆ กัน ซังแทไม่ต้องการเห็นคังแทมองเขาผ่านช่องกระจกที่ประตู ผอ.จึงบอกว่าเขาจะพาคังแทขึ้นไปข้างบน ซังแทจึงยอมออกจากผ้าห่มและเปิดประตูออกมาดู ผอ.บอกคังแทว่า ตอนนี้ระหว่างพวกเขาเหมือนกับการวิ่งสามขา ซึ่งทุกขาจะต้องพึ่งพากัน เมื่อใครคนหนึ่งล้ม อีกคนก็จะต้องปักหลักให้ดี และไม่ควรล้มไปด้วยกันเด็ดขาด เพราะไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งพี่ซังแทอาจจะเป็นฝ่ายช่วยเขาก็ได้ คังแทคิดว่าพี่ซังแทลืมเรื่องตกน้ำไปแล้ว เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ผอ.โอ จึงบอกว่าคนเป็นออทิสติคมีความจำเป็นเลิศ แต่หลีกเลี่ยงที่จะเปิดเผยความรู้สึก หรือไม่ก็แสดงออกแตกต่างจากคนทั่วไป ผอ.สั่งให้คังแทกลับมาทำงานโดยบอกว่าสามีเก่าของอารึมยอมถอนฟ้องแล้ว

คังแททำแผลที่มือให้โอชายง เพราะโดนจองแทกัดนิ้วขณะป้อนยา คังแทจึงรู้ว่าจองแทไม่พอใจที่โอชายงปากโป้งที่พูดเรื่องของเขากับมุนยองจนพี่ซังแทได้ยิน

แจซูเอาพิซซ่ามาเยี่ยมพี่ซังแทและได้แวะคุยกับคังแท คังแทระบายความในใจว่าเขาผิดเองที่ทิ้งพี่ไปและฝันในสิ่งที่ไม่ควร เมื่อแจซูนำพิซซ่าไปให้พี่ซังแท เขาแกล้งนอนหลับ จนกระทั่งแจซูกลับไปจึงลุกขึ้นมาคลุมโปงกินพิซซ่า ขณะนั้นเองมีคนโยนหนังสือ “การสังหารของแม่มดตะวันตก” เข้ามาในห้อง เมื่อซังแทเปิดดู จึงเห็นกระดาษโน๊ตเล็กๆเขียนว่า “น้องชายฆ่าพี่ชาย” หัวหน้าพยาบาลมองผ่านช่องกระจกห้องของซังแท และเห็นเขากำลังอ่านอะไรบางอย่างอยู่ เมื่อเดินออกมาด้านหน้า ก็เห็นพัคอ๊กนันกำลังยืนมองภาพวาดของซังแทที่ผนังบันได


คังแทไม่กลับบ้าน มุนยองจึงนำชุดชั้นในไปให้ที่โรงพยาบาล เธอลูบหน้าของเขาและบอกว่าซูบเหมือนพุทราอบแห้ง และบอกว่าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว คังแทจะได้ไม่ต้องเป็นเชลยของพี่ไปตลอด เพราะเขาต้องการใช้ชีวิตกับเธอ อยากกอดเธอ และสนุกกับเธอ เมื่อคังแทปฏิเสธ มุนยองจึงบอกว่าแม้ว่าปากจะพูดปด แต่ดวงตาโกหกไม่เป็น เขาบอกเธอว่าเขาผิดเอง และตอนนี้ตื่นจากฝันแล้ว เขาควรมองแค่พี่เท่านั้น และพี่ควรเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา แต่เธอมาทำให้เขาไขว้เขว เขาและเธอคือชะตากรรมที่เลวร้าย และขอร้องให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา มุนยองจึงทวงคำพูดที่ว่าเขาจะไม่ทิ้งเธอไว้คนเดียว คังแทบอกว่ามันเป็นเพียงคำพูดที่เกิดจากความสนุกที่ได้เที่ยวครั้งแรกและบรรยากาศก็พาไป ตอนนี้เขาขอมีแค่พี่คนเดียว มุนยองยังยืนกรานว่าเขาพูดโกหก เพราะเมื่อใดที่โดนไล่ เธอถือว่านั่นเป็นการอ้อนวอน เธอจึงจับมือเขาและขอร้องเขาว่าอย่าไปเลย คังแทเปรียบเธอเสมือนดอกไม้ไฟที่เป็นกิจกรรมชั่วคราว เมื่อเล่นสนุกพอแล้ว ก็สมควรจะหายวับไป เมื่อคังแทเดินจากไป เธอยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นและตะโกนไล่หลังว่า เธอไม่ใช่ดอกไม้ไฟแต่เป็นระเบิดที่เมื่อระเบิดแล้วจะไม่หายไป และจะฆ่าทุกคนให้หมด


พี่ซังแทหลับอยู่ คังแทเข้าไปเยี่ยมและกุมมือของพี่มาแนบไว้ที่หน้า พร้อมน้ำตาที่ไหลพราก ขณะที่มุนยองอยู่ที่ปราสาทคนเดียว เธอนั่งลูบเตียงนอนของคังแทด้วยความเศร้า

ประธานอีสั่งให้ยูซึงแจนั่งเฝ้ามุนยองอยู่ที่หน้าปราสาท เขาอาสาขับรถไปส่งจูรีที่โรงพยาบาล จากนั้นก็จะไปสัมนางานผู้จัดพิมพ์ที่โซล เพื่อวิ่งเต้นหางาน

หัวหน้าพยาบาลนำตุ๊กตาไดโนเสาร์ตัวใหญ่ไปให้ซังแท เขาจึงเปิดหนังสือและเล่าว่าดูลี่เป็นลูกเลี้ยงของไดโนเสาร์อีกตัวหนึ่ง หัวหน้าพยาบาลจึงชมว่าถึงจะเป็นแม่ปลอมๆ แต่ก็เป็นแม่ที่ดี ซังแทบอกว่าของปลอมเป็นสิ่งไม่ดี แต่แม่ดีหมดเลย หัวหน้าพยาบาลถามว่าแม่ของซังแทเป็นคนดีหรือเปล่า เขาหยุดคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบว่า เป็นแม่ที่ดีสำหรับเขา แต่ไม่ใช่แม่ที่ดีสำหรับคังแท
แม่ของจูรีทำอาหารมาให้คังแทกิน และบอกว่าจะพาซังแทกลับบ้านเอง และขอให้คังแทจัดการกับความรู้สึกของตนเองให้เรียบร้อยเสียก่อน เธอบอกว่าเกิดชาติหน้าก็ให้มาเป็นลูกชายของเธอเพื่อทดแทนบุญคุณ แต่คังแทบอกว่าเขาไม่อยากจะเกิดมาอีก จูรีชวนคังแทไปกินมื้อค่ำที่บ้านเพื่อปรับความเข้าใจกับพี่ เพราะตอนนี้เธอเห็นว่าพี่ซังแทอารมณ์ดีแล้ว เธอบอกเขาว่าเมื่อคนเราเหนื่อย ก็ไม่แปลกที่จะเห็นแก่ตัวและหาความสุขให้ตัวเองบ้าง คังแทจึงขอร้องให้เธอทำอะไรบางอย่าง

มุนยองวางแผนถ่ายรูปตัวเองพร้อมกับวิดีโอดูลี่ และไลน์ไปบอกว่า ถ้าไม่รีบกลับบ้าน จะลบวิดีโอดูลี่ออกให้หมด จากนั้นเอาไดร์มาเป่าที่หน้า และบอกว่ามีไข้ อุณหภูมิสูง พร้อมทั้งสั่งให้ซื้อยาลดไข้กลับมาด้วย เมื่อเปิดประตูออกไป จึงเห็นจูรีมาเก็บของของซังแท โดยบอกว่า เขาจะกลับไปอยู่บ้านสักพัก มุนยองจึงบอกว่าที่นี่คงไม่ใช่บ้านสินะ


ก่อนกลับจูรีและมุนยองนั่งดื่มด้วยกัน เธอบอกว่าตอนนี้เธอยังกลัวและเกลียดมุนยอง ทั้งยังอิจฉาอีกด้วย เมื่อจูรีเมา เธอขอตบมุนยองสักฉาดและด่าว่าสันดานเสียที่สุด ที่ตอนเด็กๆรังแกเพื่อนทุกคนจนไม่มีใครกล้าคบกับเธอ และตอนโตก็ยังแย่งผู้ชายที่เธอชอบอีก เมื่อได้ตบมุนยองแล้ว เธอก็หลับคาโต๊ะ เมื่อเห็นประธานอีมาตามจูรี มุนยองจึงถามว่าระหว่างเธอและจูรี เขาชอบใครมากกว่ากัน ประธานอีตอบว่าชอบคนละแบบ ความรู้สึกก็เหมือนสีที่หลากหลาย เธอบอกเขาว่าเมื่อต้องกลับมาอยู่คนเดียว เธอรู้สึกหงุดหงิด น่าเบื่อ กลางคืนก็หนาวกว่าเดิม และหิวบ่อยๆ เขาจึงบอกว่าความรู้สึกแบบนั้น มันคือ “ความคิดถึง” เมื่อประธานอีกลับไปแล้ว มุนยองได้แต่นั่งพูดว่าคิดถึง คิดถึง และนึกถึงแต่ใบหน้าของมุนคังแท


ก่อนกลับบ้าน คังแทแวะซื้อบะหมี่ที่พี่ชอบ ขณะที่ซังแทกำลังระบายลบข้อความ “น้องชายฆ่าพี่ชาย” เมื่อคังแทขึ้นไปและเรียกพี่ พี่ซังแทรีบหยิบกระดาษโน้ตแผ่นนั้นและไปแอบในตู้เสื้อผ้า เมื่อคังแทเข้าไปในห้อง เขาจึงนั่งคุยกับพี่อยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้า เขาขอโทษพี่ซังแทพร้อมทั้งน้ำตาและขอให้เขายกโทษให้ ซังแทจึงถามว่าทำอะไรผิด คังแทตอบว่าเขาทำผิดที่หนีพี่ไปตอนที่ตกน้ำ และคำพูดแย่ๆว่าถ้าพี่ตายก็คงดี ผิดที่คิดอยากจะมีพี่ชายที่เป็นปกติเหมือนคนอื่น พี่ซังแทออกมาจากตู้ คังแทจึงขอร้องพี่ว่าอย่าทิ้งเขาไป ซังแทกอดน้องและบอกว่าอย่าทิ้งพี่ไปเช่นกัน และปลอบใจน้องว่าอย่ารองไห้ ก่อนนอนซังแทบอกน้องว่าเขาเป็นพี่ของคังแท และคังแทเป็นของเขา ชอบมากตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ จากนั้นพี่ซังแทก็หันไปกอดตุ๊กตาไดโนเสาร์และหลับไป คังแทลุกขึ้นมานั่งดูรูปที่ถ่ายคู่กับมุนยองในวันที่ไปเที่ยวและนึกถึงความสุขในวันนั้น
จูรีตื่นขึ้นมาจึงรู้จากซึงแจว่าเมื่อคืนนี้เธออ้วกใส่รถประธานอี และเมื่อนั่งรถเมล์ไปทำงานพร้อมคังแท เขาถามเธอว่าท้องไส้ปั่นป่วนหรือเปล่า จูรีแปลกใจที่เขาพูดจาเป็นกันเองกับเธอ และจำไม่ได้ว่าเธอเจอคังแทตอนที่เมากลับมา แถมยังว่าเขาว่ากลัวมุนยองเหงา จึงส่งเธอไปช่วยเก็บของ เพื่ออยู่เป็นเพื่อนมุนยอง จูรีต่อว่าที่เขาไม่พูดจาเป็นกันเองกับเธอเหมือนที่พูดกับมุนยอง
ประธานอีโทรชวนมุนยองไปกินเนื้อเย็นนี้ และบอกว่าเธอไม่ได้จับมีดมานานแล้ว สาเหตุที่พาไปเลี้ยงก็เพราะเป็น วันเกิดของเธอ


คังแทไม่สบายแต่ก็มาทำงานตามปกติ หัวหน้าพยาบาลถามคังแทว่าพี่ซังแทชอบแม่ดูลี่ที่เธอซื้อให้หรือเปล่า และสงสัยว่าพี่ซังแทสนิทกับพัคอ๊กนันไหม จากนั้นจึงฝากให้คังแทจับตาดูพัคอ๊กนัน เพราะช่วงนี้อารมณ์ไม่คงที่และชอบยั่วยุคนไข้รายอื่น ขณะที่คนไข้กำลังนั่งพักผ่อนในสวน โกแดฮวานได้ยินเสียงฮัมเพลงอีก เมื่อเห็นพัคอ๊กนันนั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง เขาจึงเดินไปหาและเห็นเธอกำลังอ่าน “การสังหารของแม่มดตะวันตก” จึงถามว่าเธอเป็นคนร้องเพลงนั้นหรือ พัคอ๊กนันจึงย้อนกลับไปว่า ทำไมล่ะ ต้องการฆ่าเธออีกหรือ จากนั้นโกแดฮวานก็บีบคอเธอและเรียกเธอว่านังปีศาจ คังแทซึ่งมองดูอยู่ห่างๆจึงรีบเข้าไปช่วย เมื่อถูกจับแยกแล้ว โกแดฮวานได้แต่ตะโกนว่าต้องฆ่าให้ตายทั้งหมดรวมทั้งมุนยองด้วย เพราะทุกคนเป็นปีศาจ แต่คังแทบอกว่ามุนยองไม่ใช่ปีศาจ โกแดฮวานจึงบอกว่า หากเธอไม่ตาย คังแทเองที่จะต้องตาย


ผอ.วิเคราะห์ว่า พัคอ๊กนันร้องเพลง “คลีเมนไทน์” เพื่อกระตุ้นอาการของโกแดฮวาน ส่วนโกแดฮวานหาว่าพัคอ๊กนันเป็นปีศาจและต้องฆ่าให้ตาย คนที่โกแดอวานชอบเรียกว่าปีศาจก็คือโดฮีแจภรรยาของเขาเอง คังแทคิดว่าโกแดฮวานอาจเข้าใจผิดว่าพัคอ๊กนันคือภรรยาของตัวเอง แต่ ผอ.กลับคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะพัคอ๊กนันรู้จักกับโดฮีแจ พัคอ๊กนันก็คือโดฮีแจตัวจริง

แม่ของจูรีแปลกใจที่เห็นมุนยองนั่งรอหน้าบ้าน มุนยองจึงอ้างว่ามากินข้าวตามที่เคยชวนไว้ ก่อนกินอาหารแม่ของจูรีอวยพรวันเกิดให้เธอ เพราะเห็นว่าเธอสั่งให้ทำซุปสาหร่าย และขอให้เธอคิดว่าอาหารเหล่านี้คือของขวัญวันเกิด เมื่อประธานอีกลับมาจึงมอบของขวัญให้มุนยอง เป็นจี้รูปหัวใจที่รวมกันเป็นหนึ่ง หมายถึงว่าเธอเป็นนักเขียน ส่วนเขาเป็นคนขาย มุนยองจึงถามว่าให้ของขวัญเพื่อกดดันให้เธอเขียนงานเล่มใหม่ จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปหาซังแท และคืนตุ๊กตามังแทให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับซังแท เธอบอกว่าเหงาเมื่อไม่มีคู่หูและมารับเขากลับบ้าน วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ จึงอยากได้คู่หูเป็นของขวัญ ระหว่างที่มุนยองพูดอยู่นั้น พี่ซังแทได้แต่พึมพำว่าเธอโกหก หลอกลวง เป็นคนไม่ดี เพราะคู่หูต้องไม่มีความลับต่อกัน เธอโกหกว่าไปเที่ยวเล่นคนเดียว แต่ที่จริงไปกันสองคน จากนั้นเขาก็ขยำรูปรถบ้านทิ้ง และบอกว่าไม่ต้องการอีกแล้ว มุนยองจึงบอกว่าคนไม่ดีก็คือคนที่ไม่เชื่อคำพูดของคนอื่นเหมือนนิทานเรื่อง “เด็กเลี้ยงแกะ”

“เด็กเลี้ยงแกะ” ที่เปิดปากเมื่อไร ก็จะพูดแต่เรื่องโกหก และหลอกคนทั้งหมู่บ้านว่ามีหมาป่าตัวใหญ่มาปรากฏตัว เหตุผลที่ต้องหลอกก็เพราะว่าอยู่คนเดียวมัน “เหงา” แต่เมื่อหมาป่ามาจริงๆ จึงไม่ใครช่วยเด็กเลี้ยงแกะ ตอนนั้นถ้ามีใครสักคนเชื่อเขาและรีบมาช่วย เขาก็คงไม่ตาย

จากนั้นมุนยองก็กลับไป และนำดอกไม้ที่คังแทให้มาใส่แจกัน และดูภาพรถบ้านที่พี่ซังแทขยำทิ้ง
คังแทเตรียมตัวออกเวร แต่ว่าเกิดเรื่องวุ่นวายพอดี เพราะโอชายงโดนพัคอ๊กนันเอาก้อนหินฟาดหัวขณะที่ช่วยหาของที่เธอโกหกว่าทำตกไว้ จากนั้นเธอก็หนีออกจากโรงพยาบาล โอชยงบอกคังแทว่า พัคอ๊กนันพึมพำว่าวันนี้เป็นวันสำคัญและต้องไปหาใครคนหนึ่ง เมื่อคังแทนึกถึงข้อความของมุนยองที่ส่งมาบอกเขาว่าวันนี้เป็นวันสำคัญ และคำพูดของ ผอ.ว่าโดฮีแจจะต้องกลับมาหาลูกและสามี เขาจึงรีบขับรถไปหามุนยองทันที


มุนยองกลับมาที่ปราสาท และนำดอกไม้ที่คังแทให้มาใส่แจกัน และดูภาพรถบ้านที่พี่ซังแทขยำทิ้ง มุนยองได้ยินเสียงบางอย่าง จึงเดินไปเปิดประตู และเห็นพัคอ๊กนันยืนร้องเพลงวันเกิดให้เธอ