สปอยล์ It’s Okay to Not Be Okay ตอนที่ 4

4

ควอนกีโดถูกอุ้มลงจากเวทีปราศรัย ขณะที่มือยังถือไมค์และตะโกนร้องเพลง มุนยองถามคังแทว่าอยากไปเที่ยวเล่นที่ไหน แต่เขากลับบอกว่าเขาแค่ถามตัวเองเท่านั้น

ขณะที่ถกเถียงกันอยู่นั้น สมาชิกพรรคของ ส.ส.ควอนมันซู ก็เดินมาต่อว่ามุนยองและคังแท และขู่ว่าให้เตรียมรับมือให้ดี หากว่าท่าน ส.ส.เป็นอะไรไป นัมจูรีมาตามคังแทให้ไปหาควอนกีโด คังแทจึงบอกให้มุนยองรอเขาอยู่ตรงนี้ก่อน

ควอนกีโดบอกคังแทว่าวันนี้เขามีความสุขที่สุด และอย่าต่อว่ามุนยอง ขณะที่ท่าน ส.ส.กำลังถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลจากอาการช็อก โดยมีครอบครัวตามไปด้วย นัมจูรีจึงขอให้คนในครอบครัวตามไปส่งควอนกีโดด้วย แม่ของเขาจึงเดินเข้าไปต่อว่าและตบหน้ากีโดต่อหน้าจูรีและคังแท กีโดบอกคังแทว่า เขารับรู้ได้ว่าแม่รักและเป็นห่วง เพราะเขาไม่รู้สึกแย่ที่โดนแม่ตบ

เมื่อได้ยินควอนกีโดพูดเช่นนั้น ทำให้คังแทนึกถึงตนเองในวัยเด็กเมื่อถูกแม่ตีเพราะไม่ดูแลพี่ซังแทให้ดี เขารู้สึกน้อยใจทุกครั้งที่เห็นแม่ดูแลใส่ใจพี่ซังแทมากกว่า เมื่อตอนเป็นเด็ก คังแทตื่นมากลางดึกและเห็นแม่กำลังนั่งดื่มต่อหน้ารูปของพ่อ แม่จึงกอดเขาและบอกให้ดูแลและปกป้องซังแทให้ดี เพราะแม่คลอดคังแทมาเพื่อปกป้องพี่ซังแท คังแทรู้สึกน้อยใจในคำพูดของแม่ เขาจึงปล่อยมือที่กำลังสวมกอดแม่อยู่..

จูรีแอบน้อยใจเมื่อคังแทบอกว่าเขาจะนั่งรถของมุนยองกลับไปที่โรงพยาบาล ขณะที่มุนยองกำลังขับรถ เธอบอกว่าหากวันนี้คังแทไม่ยอมนั่งรถไปกับเธอ เธอจะลักพาตัวเขา และยังบอกว่าเธอเห็นสีหน้าก็รู้ว่า เขาแอบอิจฉาควอนกีโดที่ได้เล่นสนุก และเมื่อใดที่คังแทต้องการเล่นสนุกแบบนี้บ้างก็ขอให้บอก เธอจะลักพาตัวเขาและไปเล่นสนุกให้เต็มที่

มุนยองเลื่อนปิดกระจกหน้าต่างรถ เพราะไม่ชอบกลีบดอกไม้ที่กำลังปลิวร่วง เธอบอกคังแทว่าชอบดอกแมกโนเลีย เพราะมันร่วงหลุดมาทั้งยวง ไม่เป็นกลีบเล็กกลีบน้อย เมื่อถามคังแทถึงดอกไม้ที่เขาชอบ เขากลับตอบว่าไม่ชอบดอกอะไรเลย เพราะเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิทีไร ก็ต้องย้ายบ้านทุกที มุนยองรู้สึกแปลกใจในคำพูดนั้น

ยุนซึงแจบอกประธานอีว่า คำร้องระงับการจำหน่ายหนังสือเรื่อง “เด็กน้อยซอมบี้” ได้รับการอนุมัติแล้ว เขาจึงสั่งให้เธอเรียกสินค้ากลับคืนให้หมด และจากนั้นประธานอีก็รีบออกไปหามุนยองที่ต่างจังหวัดทันที

ระหว่างที่มุนยองและคังแทแวะกินบะหมี่สำเร็จรูปอยู่นั้น คังแทขอตัวออกไปด้านนอกเพื่อรับสายของประธานอี เขาถามคังแทว่ามุนยองเคยพูดกับเขาไหมว่า “งดงาม” “อยากได้” เพราะนั่นแปลว่าเธอกำลังหิวและประกาศสงครามว่าเธอจะจับเขากิน ประธานอียังบอกอีกว่า “เด็กน้อยซอมบี้” ถูกระงับการจำหน่าย และมุนยองต้องรีบกลับมาเขียนหนังสือเล่มใหม่ เขาขอให้คังแทอดทนรับมือกับมุนยองไปก่อน จนกว่าเขาจะไปรับเธอกลับ

 เมื่อคังแทกลับเข้าไปในร้านและกำลังกินบะหมี่กับมุนยองอยู่นั้น เขาถามถึงหนังสือที่ถูกระงับจำหน่าย เพราะคิดว่าสาเหตุมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับพี่ชายของเขา แต่เธอบอกว่าการด่าหรือจิกหัวคนไม่มีผลกับการจำหน่าย แต่เพราะภาพประกอบในหนังสือมันดูโหดเกินไปสำหรับเด็ก มุนยองยังสบถอีกว่าคนโง่ไม่เห็นสารที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ในตัวหนังสือ คังแทอยากรู้ว่าสารอะไร มุนยองจึงบอกให้คังแทลองไปอ่านดู แต่เขาบอกว่าไม่ใช่เด็กแล้ว ที่จะไปนั่งอ่านนิทาน ในสายตาของมุนยอง เธอมองเขาว่ายังเป็นเด็ก เธอสบตาคังแทขณะที่ลูบผมของเขาและพูดว่าน่าเอ็นดู ภาพที่ปรากฏต่อหน้ามุนยองตอนนี้คือ เด็กน้อยคังแทที่เคยเดินตามเธอในวัยเด็ก


ผอ.และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลร่วมประชุมกัน ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ต้องการให้ไล่โกมุนยองออกไป เพราะเป็นตัวการลักพาตัวคนไข้ แต่ ผอ.แย้งว่าควอนกีโดเป็นคนโดดขึ้นรถของเธอไปเอง ถึงกระนั้นพยาบาลคนอื่นก็ยังอ้างว่ามุนยองไม่เคยพาพ่อของเธอไปเดินเล่นเลย แม้กระทั่งนัมจูรีซึ่งเคยเป็นเพื่อนของมุนยอง เธอก็เห็นด้วยที่จะให้มุนยองออกไป แต่ ผอ.เห็นว่ายังไม่มีเรื่องด่วนอะไรเกิดขึ้น จึงให้รอดูไปก่อน

คังแทต้องการทำลายความเงียบโดยการเปิดวิทยุในรถ แต่มุนยองอยากให้เขาคุยกับเธอมากกว่า เพราะไม่ชอบฟังเสียงคนคุยกันในวิทยุ คังแทจึงถามว่าทำไมเธอถึงไม่เคยพาพ่อไปเดินเล่น เธอให้เหตุผลว่าคนเป็นโรคสมองเสื่อม ก็เหลือเพียงร่างกายเท่านั้น เพราะจิตวิญญาณได้ตายไปแล้ว และไม่มีความจำเป็นต้องเข็นไปเข็นมา ควรจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ จากนั้นเธอจึงถามถึงสาเหตุที่ทำให้พ่อแม่ของเขาเสียชีวิต คังแทไม่พอใจเมื่อรู้ว่ามุนยองแอบสืบประวัติของเขาและมองว่าคนเป็นเพียงแค่ “สิ่งของ” เขาจึงขอให้เธอจอดรถ มุนยองไม่เข้าใจว่าคังแทโกรธเรื่องอะไร คังแทบอกเธอว่า เขาลืมตัวไปชั่วขณะที่คิดว่ามุนยองจะแตกต่างจากคนอื่นและคาดหวังบางอย่างจากเธอโดยที่เขาไม่รู้ตัว คังแทไม่ยอมกลับไปขึ้นรถ มุนยองจึงตะโกนไล่หลังว่า เธอรักเขา แต่คังแทก็ยังคงเดินต่อไปโดยไม่สนใจเธอ

คังแทไปรับพี่ชายที่โรงเรียนอาชีวะ วันนี้พี่ซังแทไม่สนุกกับการเรียนวิชาทำแยมผลไม้ แต่อยากวาดรูปมากกว่า คังแทจึงพาพี่ไปซื้ออุปกรณ์ นอกจากอุปกรณ์วาดรูปแล้ว ซังแทยังถูกใจตัวต่อไดโนเสาร์อีกด้วย ขณะที่ซังแทกำลังเลือกของอยู่นั้น คังแทก็กำลังนึกถึงคำบอกรักของมุนยอง

ประธานอีจอดรถรอมุนยองที่หน้าปราสาท เขาพยายามโน้มน้าวให้เธอกลับโซลและเขียนหนังสือเล่มใหม่ แต่เธอยังอยากเที่ยวเล่นอยู่ที่นี่ จึงชวนประธานอีให้อยู่ด้วยกัน แต่เขาหวาดกลัวปราสาทแห่งนี้จึงขอตัวออกไปที่อื่น ขณะที่มุนยองกำลังแปรงผมอยู่ที่หน้ากระจก เธอนึกถึงคำพูดของคังแทที่คิดว่าเธอจะแตกต่างจากคนอื่น ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงภาพตัวเองในวัยเด็ก ที่แม่มายืนแปรงผมให้และพูดว่าเธอเป็นลูกที่พิเศษและต่างจากคนอื่น มุนยองยังนึกถึงภาพที่ตนเองยืนถือกุญแจห้องที่แม่ของเธออยู่ในนั้นและมีเลือดไหลนองออกมา


ประธานอีไปกินพิซซ่าที่ร้านของแจซูและนั่งคิดว่าจะหลอกมุนยองให้กลับโซลได้อย่างไร ขณะที่นัมจูรีเดินเข้ามาในร้านพอดี ประธานอีรู้สึกถูกใจเธอ เมื่อเห็นว่าจูรีสั่งเบียร์มาดื่ม เขาจึงชวนให้เธอมานั่งด้วยกัน แต่เธอปฏิเสธ ทั้งจูรีและประธานอี ต่างคนต่างก็นั่งพูดคนเดียวถึงเรื่องของมุนยอง จนแจซูแปลกใจว่าทำไมพวกเขาสองคนจึงพูดจาสอดคล้องตอบรับเหมือนเป็นเรื่องเดียวกัน

ส.ส.ควอนมันซูพร้อมทั้งบอดี้การ์ดมาที่โรงพยาบาลเพื่อเอาเรื่อง และขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องมาคุกเข่าขอโทษ คังแทห้ามนัมจูรีไม่ต้องโทรตามมุนยอง เพราะเขาต้องการรับผิดคนเดียว ผอ.บอก ส.ส.ว่า ควอนกีโดอาการดีขึ้นมากหลังจากเหตุการณ์วันนั้น เพราะได้ปล่อยอารมณ์ที่เก็บกด แต่ ส.ส.ไม่ต้องการให้ควอนกีโดออกจากโรงพยาบาลอีกต่อไป เพราะมองว่าเป็นลูกที่ไร้ประโยชน์ คังแทไม่พอใจที่ได้ยินเช่นนั้น จึงเกิดปากเสียงกับ ส.ส. จนโดนตบหน้า

ผอ.นั่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่คังแทโดนตบหน้า เขาปรึกษาหัวหน้าพยาบาลว่าจะเอาภาพนี้ไปให้นักข่าว เพื่อเรียกเงินสนับสนุนโรงพยาบาลจาก ส.ส. มุนยองตั้งใจมาโรงพยาบาลเพื่อพาพ่อไปเดินเล่นเพื่อให้คังแทหายโกรธ เธอพบซังแทที่บันไดซึ่งกำลังจินตนาการถึงรูปที่จะวาด เธอจึงชวนเขาถ่ายรูปเซลฟี่ แต่นัมจูรีเข้าใจผิดคิดว่าคังแทโทรไปหาตามมุนยอง มุนยองและซังแทออกไปนั่งเล่นที่ด้านนอก และให้เขาวาดรูปเธอ คังแทรู้สึกเก็บกดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ เมื่อเห็นซังแทกำลังนั่งคุยกับมุนยอง เขาจึงเดินเข้าไปหาและขอให้ซังแทไปรอที่ล็อบบี้ แต่ซังแทต้องการอยู่กับมุนยอง เขาจึงโดนน้องชายตวาด มุนยองแปลกใจที่เห็นคังแทตวาดพี่

 เมื่อเธอเห็นรอยแดงบนใบหน้าของคังแท จึงอยากรู้ว่าใครเป็นคนตบเขา คังแทจูงมือมุนยองเพื่อออกไปคุยอีกด้านหนึ่ง มุนยองยังคงถามด้วยความโมโห คังแทจึงบอกว่าแม้แต่ตัวเธอเองยังไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไร ได้แต่โวยวาย ก็เหมือนกระป๋องที่ว่างเปล่า ฉะนั้นอย่าคิดไปเองว่าจะเข้าใจเขาทุกเรื่อง ต่อให้ตายเธอก็จะไม่มีวันเข้าใจเขา

ซังแทคิดว่าน้องชายโกรธและเกลียดเขาแล้ว จึงไปแอบอยู่ใต้โต๊ะในห้องครัวของโรงพยาบาล แม่ของนัมจูรีจึงเอากระเป๋าของซังแทออกมาให้และบอกว่าจะพากลับบ้านเอง นัมจูรีพาโกแดฮวานออกมาหามุนยองเพื่อให้พาเดินเล่น โดยในครั้งแรกนี้จะมีพยาบาลเดินเป็นเพื่อนด้วย มุนยองถามพ่อว่าลืมไปหมดแล้วหรือว่าแกล้งลืม แต่นัมจูรีขอร้องไม่ให้พูดยั่วยุคนไข้ มุนยองจึงกระซิบข้างหูพ่อและถามว่าลืมแล้วหรือว่าเธอเป็นเด็กยังไง โกแดฮวานถามมุนยองว่าทำไมยังไม่ตาย จากนั้นก็พยายามบีบคอเธอและเรียกเธอว่าสัตว์ประหลาด เจ้าหน้าที่พยาบาลจึงรีบเข้ามาช่วย และเห็นมุนยองนอนหัวเราะอยู่ที่ตรงนั้น มุนยองเดินออกจากโรงพยาบาลและสมน้ำหน้าตัวเองที่มาที่นี่

คังแทนั่งรถเมล์กลับบ้านและเห็นมุนยองเดินเรื่อยเปื่อยไปตามถนน ขณะที่คังแทกำลังทำความสะอาดบ้าน เขารู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่พูดกับมุนยอง มุนยองยังคงเดินเรื่อยเปื่อยและหยุดพักข้างทางเพราะเจ็บเท้า ระหว่างนั่งพักเธอนึกถึงคำพูดของคังแทและรำพึงออกมาว่าต่อให้ตายเขาก็ไม่มีวันเข้าใจเธอเช่นกัน จากนั้นเธอจึงถือรองเท้าและเดินต่อไป

คังแทหยิบหนังสือ “เด็กน้อยซอมบี้” ออกมานั่งอ่าน และนึกถึงเรื่องราวของตนเองในวัยเด็ก ที่นอนกอดแม่และได้รับไออุ่น ทำให้เขาน้ำตาไหลออกมา แจซูกลับมาถึงและเห็นคังแทนั่งหดหู่ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล เมื่อได้ยินแจซูเล่าเรื่องที่มุนยองโดนพ่อบีบคอ คังแทจึงขอยืมรถของแจซูออกไปตามหาเธอท่ามกลางสายฝนที่กำลังตก เมื่อพบเธอแล้ว คังแทรีบถอดเสื้อคลุมเพื่อให้มุนยองใส่ มุนยองทิ้งรองเท้าและล้มตัวเข้าหาคังเท ที่รับมุนยองเอาไว้ในอ้อมกอดท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา