สปอยล์ It’s Okay to Not Be Okay ตอนที่ 6

6

พี่ซังแทเมาหลับอยู่ที่โซฟา เมื่อคังแทเดินเข้ามาในปราสาท
เขาจึงเดินขึ้นไปหามุนยองซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม เธอถามคังแทว่า
ตั้งแต่เมื่อไรที่รู้ว่าเธอคือเด็กผู้หญิงคนนั้น เขาตอบว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน
มุนยองต่อว่าเขาที่แสดงเก่งจนน่าขนลุก และกล้าดีอย่างไรจึงได้หลอกเธอ คังแทกำลังจะต่อว่าเธอเช่นกัน แต่มุนยองขัดขึ้นมาก่อนว่า เธอไม่ได้แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก คังแทจึงตอบว่าเขารู้ว่าเธออยากให้เขาจำเธอได้ แต่เขาอยากเลี่ยงและทำเป็นไม่สนใจอีกต่อไป เพราะเขาโทษตัวเองที่หนีเธอไปอย่างขี้ขลาดทั้งๆ ที่เธอช่วยชีวิตเขาไว้จากธารน้ำแข็ง มุนยองอยากรู้ว่าทำไมถึงมาเปิดเผยเอาตอนนี้ คังแทจึงตอบว่าเพราะเขาต้องการให้มันจบๆ ไปเสียที และขอบคุณที่เธอช่วยชีวิต พร้อมทั้งขอโทษที่ชอบเธอแต่ก็หนีเธอไป เขาเสียใจมาตลอด และรู้สึกค้างคาใจหากไม่ได้พูดเรื่องนี้ แต่พอปล่อยไว้ก็กลับทำให้เขาลืมเธอไม่ได้

มุนยองต้องการรู้ว่าตอนนี้เขายังมีเยื่อใยกับเธออยู่หรือไม่ คังแทตอบว่าดูแลพี่ซังแทคนเดียวก็เกินพอแล้ว มุนยองไม่เข้าใจว่าทำไมจึงดูแลเธอด้วยไม่ได้ เธอต้องการเขาเช่นกัน แต่คังแทไม่ต้องการเป็นคนที่ใครๆ ต้องการอีกแล้ว มุนยองจึงลำเลิกว่าเขาไม่อาจปฏิเสธเธอได้ เพราะเธอเป็นคนทำให้เขาได้มีชีวิตอยู่ต่อ คังแทจึงตอบโต้ไปว่าเพราะการช่วยชีวิตในวันนั้น ทำให้เขามีชีวิตที่น่าสมเพชแบบนี้ มุนยองยังขู่อีกว่าหากทิ้งเธอไป เธอจะฆ่าเขา เพราะเขาเป็นของเธอ ขณะที่ทั้งคู่กำลังถกเถียงกัน มุนยองเกือบพลาดตกบันได แต่คังแทคว้าไว้ได้ทัน มุนยองขอให้เขามาอยู่กับเธอที่นี่

พี่ซังแทตื่นขึ้นมาพอดี เมื่อคังแทชวนกลับบ้าน พี่ซังแทไม่ยอมกลับและบอกว่าที่นี่คือบ้านของเขา ต่อไปนี้ต้องอยู่ที่นี่เพราะทำสัญญาไว้แล้ว เพียงแค่เห็นเอกสารที่มุนยองว่าจ้างให้เขาวาดภาพประกอบนิทาน แต่ยังไม่ทันได้อ่านรายละเอียด คังแทก็ขึ้นเสียงใส่พี่ด้วยความไม่พอใจและฉีกสัญญานั้น ทำให้พี่ซังแทโกรธมากและพูดว่าชีวิตเป็นของเขา ไม่ใช่ของคังแท มุนซังแทเป็นของมุนซังแท จากนั้นเขาก็ทุบตีคังแทอย่างไม่ยั้ง จนกระทั่งมุนยองมาขอร้องให้หยุดและเข้าไปรอในบ้าน คังแทยังคงนอนนิ่งด้วยความเจ็บปวดใจ มุนยองบอกคังแทว่า ตอนนี้พี่ซังแททิ้งเขาแล้ว ต่อไปนี้ก็ต้องเลือกว่า จะทิ้งพี่เช่นกันหรือจะตามติดกันแบบนี้ไปตลอดชีวิต

ระหว่างทางกลับบ้าน คังแทคิดถึงเรื่องในวัยเด็กที่ถูกแม่ตีเพราะไม่ดูแลพี่คังแท ขณะที่เขาสอบเลื่อนสายได้และกำลังจะเอามาไปอวดแม่ เขาเถียงแม่ว่าไม่ใช่คนดูแลพี่ และชีวิตเขาไม่ใช่ของของพี่ มุนคังแทเป็นของมุนคังแท มุนซังแทหัวเราะชอบใจเมื่อได้ยินคังแทพูดเช่นนั้น คังแทจึงตะโกนใส่พี่ว่า คนอย่างพี่ ตายไปซะได้ก็ดี และวิ่งหนีไปโดยทิ้งสายเลื่อนขั้นกับชุดไว้ตรงนั้น พี่ซังแทจึงหยิบขึ้นมาและวิ่งตามคังแทออกไป เมื่อตามจนทันพี่ซังแทจึงคืนของให้คังแทและพูดว่า ของคังแท ของมุนคังแท สองพี่น้องจึงวิ่งเล่นด้วยกันต่อที่ลานหิมะ โดยที่มุนยองนั่งมองอยู่ห่างๆ เมื่อพี่ซังแทพลัดตกลงไปในธารน้ำแข็งและขอให้คังแทช่วย เขากลับวิ่งหนีและพูดว่าคนอย่างพี่ตายไปซะก็ดี คังแทหยุดวิ่งเพราะลังเล ขณะที่มุนยองนั่งลุ้นให้คังแทวิ่งต่อไปและทิ้งพี่ไว้อย่างนั้น แต่คังแทเปลี่ยนใจวิ่งกลับไปช่วยพี่ คังแทช่วยพี่ไว้ได้แต่ตัวเขาเองไม่สามารถขึ้นมาจากน้ำได้ ขณะที่พี่ซังแทรีบเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองคังแท มุนยองนั่งมองเหตุการณ์และฉีกกลีบดอกไม้ จนตัดสินใจที่จะช่วยคังแท หลังจากช่วยแล้วเธอก็เดินจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย


พี่ซังแทยังคงรอว่าคังแทจะกลับมาหาเขา แต่มุนยองบอกว่าไม่ต้องกังวล เพราะถึงอย่างไรคังแทก็ไม่ทิ้งพี่หรอก เมื่อกลับถึงบ้านและได้อ่านรายละเอียดในสัญญาจ้างแล้ว คังแทถึงกับน้ำตาไหลเพราะเพิ่งรู้ว่าพี่ซังแททำเพื่อเขา โดยในสัญญาระบุว่า ลูกจ้างจะต้องวาดภาพและอยู่ที่ห้องทำงานของผู้ว่าจ้าง โดยจะซื้อรถบ้านให้เป็นค่าตอบแทน

เมื่อแม่ของจูรีรู้เรื่องนี้ เธอดีใจที่มีคนเห็นฝีมือของซังแท จึงขอให้คังแทผลักดันพี่ชายในสิ่งที่เขาชอบแทนที่จะขัดขวาง ประธานอีและยูซึงแจแวะซื้อเบเกอรี่เพื่อไปเอาใจมุนยอง เพราะต้องการอยู่กับเธอ ประธานอีแปลกใจเมื่อคนเปิดประตูคือพี่ซังแท แต่ยูซึงแจจำได้ว่าเป็นพี่ชายของคังแท ซังแทแนะนำตัวเองว่าจะมาเป็นนักวาดรูปให้หนังสือของมุนยอง และจะอยู่ที่นี่เพราะเป็นบ้านของเขา ประธานอีพยายามห้ามมุนยองเพราะกลัวว่าสักวันจะเกิดเรื่อง แต่มุนยองบอกว่าเธอมีสลักระเบิดทันทีที่เห็นคังแทหิ้วกระเป๋าเดินเข้ามา ทั้งประธานอีและยูซึงแจต้องเดินกลับไปเพราะมุนยองขอกุญแจรถคืน

คังแทมีเงื่อนไขกับมุนยองสามข้อ โดยพี่ซังแทจะทำงานให้เฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น เสาร์อาทิตย์จะต้องกลับบ้าน เมื่อใดที่พี่ไม่ต้องการทำ สามารถกลับบ้านได้ทุกเวลา และขอให้เธอเคารพพี่ซังแทให้มากที่สุด มุนยองแปลกใจที่เธอไม่ใช่เหตุผลของเงื่อนไขเหล่านั้นเลย แต่เธอก็รับปากว่าจะรักษาสัญญาตามเงื่อนไขของคังแท

ซังแทถูกใจมากเมื่อมุนยองเลือกห้องหนังสือให้เป็นที่ทำงานของเขา เพราะเขาชอบอ่านหนังสือมาก มุนยองเข้าใจว่าคังแทชอบเที่ยวเพราะพี่ซังแทขอให้เธอซื้อรถบ้านให้ ทันใดนั้นพี่ซังแทก็พูดขึ้นมาว่าไม่เคยไปเที่ยวแต่ย้ายบ้านบ่อยมาก และนี่คือครั้งที่ 18 แล้ว มุนยองอยากรู้เหตุผลที่ต้องย้ายบ่อยๆ พี่ซังแทพยายามจะบอก แต่คังแทห้ามไว้ มุนยองพาพวกเขามาที่ห้องนอนซึ่งเคยเป็นห้องของเธอตอนเด็ก พี่ซังแทเดินเข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้า คังแทถามถึงการทำความสะอาดห้องครั้งสุดท้าย มุนยองตอบว่าเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว พี่ซังแทออกมาจากตู้และกระโดดขึ้นเตียงที่มีฝุ่นคลุ้งไปทั่ว ขณะที่พูดว่าอยู่ในตู้สามารถมองเห็นด้านนอกได้ด้วย

ผอ.โอ นัดพบกับคนไข้ชายรายหนึ่งที่ห้องผ้าของโรงพยาบาล เพราะเขาวานให้เป็นสายสืบดูคนไข้รายอื่นๆ ให้ คนไข้ชายเล่าว่าขณะที่เดินออกมาพบ ผอ. คนไข้โกแดฮวานทักทายเขาเหมือนเช่นคนปกติทั่วไป และถามว่าเขาจะไหน
ซังแทลุกขึ้นมากลางดึกและเห็นความเคลื่อนไหวของประตูห้องใต้ดิน ด้วยความอยากรู้จึงเดินไปดู แต่ยังไม่ทันเดินลงไป มุนยองเข้ามาทักเขาซะก่อนและเล่านิทาน “เคราน้ำเงิน” ให้เขาฟัง

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีขุนนางเคราน้ำเงินอาศัยอยู่ในปราสาทเพียงลำพัง ถึงแม้จะร่ำรวยเพียงใด ทุกคนต่างก็พากันหวาดกลัวและหนีเขา เพราะมีเคราสีน้ำเงิน ต่อมามีหญิงสาวผู้ยากจนมาหาที่ปราสาทเพื่อมาเป็นเจ้าสาวของเขา เขาดีใจมากและยกของมีค่าทั้งหมดให้เธอในทุกๆห้องที่เข้าไป ยกเว้นเพียงห้องเดียวที่อยู่ใต้ดิน และสั่งห้ามเข้าไปโดยเด็ดขาด แต่ด้วยความอยากรู้เธอจึงแอบเข้าไป และได้เห็นศพของผู้หญิงแขวนโชว์เรียงรายตามผนังห้อง นั่นคือศพของภรรยาทุกคนที่แอบเข้าไป…” ขณะที่เล่า มุนยองนึกถึงภาพตัวเองตอนเด็กที่ไขกุญแจเข้าไปในห้องนั้น

หลังจากที่คังแทได้ฟังพี่ซังแท เขาจึงบอกพี่ชายไม่ให้ลงไปที่นั่นอีกเพราะเป็นบ้านของคนอื่น ซังแทถามน้องว่าทำไมคนถึงกลัวเคราสีน้ำเงิน เพราะความแตกต่างจากคนอื่นจึงต้องอยู่ในปราสาทด้วยหรือ คังแทตอบว่า เขาอาจจะรอเจ้าสาวตัวจริงที่เข้าใจและยอมรับตัวตนที่แท้จริง ถึงจะมีเคราสีน้ำเงินก็ไม่เป็นไร โดยที่มุนยองยืนฟังอยู่หน้าห้อง

เช้านี้ ผอ.โอ เข้าเยี่ยมคนไข้โกแดฮวาน และถามชื่อเขา แต่เขาไม่ตอบคำถามใดๆ เลย จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่จับตาดูอาการ หลังจาก ผอ.ไปแล้ว เหลือเพียงหัวหน้าพยาบาล เขาจึงพูดชื่อตัวเองขึ้นมา โก..แดฮวาน เมื่อหัวหน้าพยาบาลถามอีกครั้ง เขาก็พูดต่อไปอีกว่า สวย..มาก..เหมือน..นางฟ้า และตอบหัวหน้าพยาบาลว่า แม่ของมุนยอง เมื่อหัวหน้าพยาบาลปรึกษา ผอ. เขามีความเห็นว่าโกแดฮวานเกิดภาพหลอน เห็นภาพคนอื่นซ้อนทับลูกสาวตัวเอง จึงได้บีบคอลูก

มุนยองตื่นขึ้นและได้ยินเสียงปึงปังด้านล่าง เมื่อลงไปดูจึงเห็นซังแทกำลังทำความสะอาดบ้าน เขารายงานกิจกรรมทุกอย่างที่ทำตั้งแต่หกโมงเช้า เมื่อเดินมาห้องครัว คังแทซึ่งทำอาหารเสร็จพอดีจึงถามเธอว่าจะกินขนมปังมั้ย เพราะเขาทำแค่อาหารเรียบง่ายธรรมดา แต่เธอขอข้าวและบอกให้เขาตักเยอะ ๆ

คนไข้คังอึนจาโทรศัพท์ขอให้ลูกสาวมาเยี่ยม เพราะเธอต้องการจับคู่ให้กับมุนคังแทซึ่งเธอแอบปลื้ม มุนยองขับรถมาโรงพยาบาลพร้อมกับคังแทและพี่ชาย วันนี้เธอมีตารางสอนคนไข้ ขณะที่ซังแทกำลังวาดรูปดอกไม้ที่ผนังข้างบันได ผอ.แปลกใจที่ไม่มีรูปผีเสื้อเลย เลยคิดจะวาดซะเอง แต่ซังแทไม่ยอมและบอกว่าผีเสื้อเข้ามาที่นี่ไม่ได้เด็ดขาด

ขณะที่มุนยองนั่งรอเวลา เธอเห็นคนไข้ลึกลับคนหนึ่งจึงเดินตามไป เมื่อคังแทรู้ว่าเธอไม่ได้เข้าสอน จึงออกตามหา และยืนแอบฟังขณะที่เห็นมุนยองกำลังคุยกับคนไข้คังอึนจา เธอบอกมุนยองว่าเธอคือแม่ของมุนยองซึ่งรออยู่ที่นี่นานแล้ว อึนจาสัมผัสใบหน้าของมุนยองและบอกว่าเธอผอมไป แต่กระนั้นก็ยังคงสวยเสมอในสายตาของแม่ มุนยองยืนอึ้งโดยไม่พูดอะไรเลย อึนจาคิดว่ามุนยองจำเธอไม่ได้จึงบอกว่าไปทำศัลยกรรมใบหน้ามานิดหน่อย มุนยองจึงถามเธอว่าเป็นแม่ของเธอจริงหรือ กลับมาแล้วใช่ไหม แต่อึนจากลับต่อว่ามุนยองที่ไปทำการแสดงมาไม่กี่เดือน แต่จำเธอไม่ได้ เมื่อเห็นมุนยองไม่เข้าใจ คังอึนจาจึงบอกว่าที่โทรศัพท์ไปหาเมื่อเช้า เพราะต้องการแนะนำผู้ชายดีๆให้ เมื่อมุนยองรู้ตัวว่าเข้าใจผิด จึงเกิดความโมโหและพยายามจะบีบคอคังอึนจา แต่คังแทเข้ามาห้ามไว้และพาคังอึนจาไปกินยา
หัวหน้าพยาบาลบอกคังแทว่าอึนจาเป็นโรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน เพราะคิดว่าตัวเองเป็นเมียน้อยประธานใหญ่ แต่ที่จริงแล้วเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวซึ่งเสียลูกไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อไม่นานมานี้

มุนยองบอกให้คนไข้อารึมอ่านนิทาน ขณะที่มุนยองนึกถึงเสียงของคังอึนจาที่บอกว่าตัวเองเป็นแม่ มุนยองจึงตวาดเสียงดังบอกให้อารึมเงียบ ทำให้คนไข้ในห้องนั้นตกใจกันหมด เมื่อคังแทรู้เรื่อง จึงรู้สึกเป็นห่วงมุนยอง ประธานอีและยูซึงแจมาหาคังแทที่โรงพยาบาลเพื่อขอร้องให้เขาและพี่ซังแทออกจากบ้านของมุนยอง โดยบอกว่าที่ตรงนั้นเป็นของเขา และคังแทไม่สามารถรับมือมุนยองได้ ประธานอียังอวดอ้างบุญคุณสารพัดที่มีต่อมุนยอง แต่คังแทก็ตอบโต้ไปว่า หนังสือของมุนยองก็ทำเงินให้ประธานอีได้ไม่น้อย และไม่เข้าใจว่าเขายังต้องการอะไรจากมุนยองอีก คังแทไม่ต้องการให้ประธานอีใช้มุนยองเป็นเครื่องมือหากินอีกต่อไป เขาจึงบอกว่าจะไม่หลีกทางให้ประธานอี
คังแทและพี่ชายไปร่วมกินอาหารกลางวันที่แม่ของจูรีนำมาให้ ขณะที่ใจก็ยังคงเป็นห่วงมุนยอง คนไข้คังอึนจายังคงเดินตามประกบมุนยอง จนกระทั่งมุนยองเดินมาเห็นคังแทกำลังกินข้าวอยู่กับจูรีและแม่ คนไข้คังอึนจาจึงเสนอตัวที่จะช่วยกำจัดจูรี มุนยองรู้สึกรำคาญที่อึนจายังคงเรียกตัวเองว่าแม่ เธอจึงขึ้นเสียงและบอกว่าแม่ของเธอตายไปแล้ว ในสภาพที่หัวแตก นอนจมกองเลือด แขนขาบิดเบี้ยว เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง และรอยเลือดก็ยัคงติดอยู่ที่พื้นห้อง มุนยองบอกให้คังอึนจาตื่นจากความฝันซะที คังอึนจาทนฟังไม่ไหวจนสลบไป

คังแทนำโทรศัพท์มาคืนมุนยอง แต่มุนยองไม่เปิดประตูให้ เขาจึงวางไว้ที่หน้าห้อง คังแทยังคงนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมุนยองวันนี้ มุนยองหลับไปและฝันเห็นแม่กำลังหวีผมให้ เธอจึงถามแม่ว่าทำไมเคราน้ำเงินจึงต้องฆ่าภรรยาตัวเอง แม่ของเธอตอบว่าเพราะพวกเขาไม่ยอมเชื่อฟัง และบอกให้มุนยองเชื่อฟังแม่จึงจะเป็นลูกที่น่ารัก จู่ๆ แม่ของเธอก็จิกผมและตวาดเธอที่พาพวกเขาเข้ามาในปราสาทแห่งนี้ มุนยองตกใจตื่นและเห็นวิญญาณของแม่ลอยอยู่ตรงหน้าพร้อมทั้งบอกว่าจะฆ่าเจ้าชายที่มาช่วยเธอ

คังแทได้ยินเสียงมุนยองสะอึกสะอื้นจึงรีบวิ่งมาดู เธอกรีดร้องเสียงดังและบอกให้เขารีบหนีไป โดยที่มือของเธอจิกเสื้อเขาไว้แน่น คังแทโอบกอดเธอไว้และปลอบใจว่าเป็นเพียงความฝัน มุนยองยังคงบอกให้เขารีบหนีไป คังแทกุมมือเธอและบอกว่าเขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น มุนยองยังคงจิกเสื้อของคังแทและหลับในอ้อมกอดของเขา..