สปอยล์ It’s Okay to Not Be Okay ตอนที่ 7

7

คังแทนั่งเฝ้ามุนยองจนหลับไปจนกระทั่งเช้า
เมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นมุนยองนั่งมองเขาอยู่ คังแทจึงบอกว่าเมื่อคืนเธอมีไข้นิดหน่อย
ก่อนจะขอตัวออกไปส่งพี่ซังแท และจะซื้อยามาให้เธอตอนขากลับ..
คังแทไปส่งพี่ซังแทและบอกว่าวันนี้เขาจะโดดงาน

จนท.รพ. ยืนดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนไข้คังอึนจาเมื่อวานนี้ จากนั้น ผอ.โอ จึงสรุปว่าคนไข้เพิ่งตื่นจากภาพหลอน และขอให้ทุกคนเฝ้าสังเกตอาการ จนท .ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าให้จัดการเรื่องมุนยอง เพราะตั้งแต่เธอเข้ามา ก็มีแต่เรื่องเดือดร้อน แต่ ผอ.ยังไม่ตัดสินใจอะไร นอกจากให้ระงับคลาสการเล่านิทานไปก่อน

คังแทขอให้พี่ซังแทเลิกทำงานที่ร้านของแจซู เพราะเป็นห่วงว่าพี่จะป่วยเพราะทำงานหลายอย่าง พี่ซังแทบอกว่าคนเจ็บป่วยจะนอนร้องครางเหมือนหมาในนิทาน เช่นเดียวกับคังแท แต่คังแทเถียงว่าไม่ได้ป่วยไข้อะไร พี่ซังแทจึงบอกว่าป่วยใจ เพราะหัวใจโกหก เวลาเจ็บปวดก็จะทำเป็นเงียบ เวลานอนจึงได้ร้องครางออกมา ทำให้คังแทนึกถึงภาพที่มุนยองร้องไห้เมื่อคืนนี้

เมื่อไปส่งพี่ถึงร้าน แจซูต่อว่าคังแทที่ย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของมุนยอง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร คังแทก็รับสายของประธานอีซะก่อน คังแทบอกว่าสภาพร่างกายของมุนยองไม่ค่อยดีเท่าไร และจะบอกมุนยองให้ติดต่อกลับ จากนั้นเขาก็เข้าไปซื้อยาลดไข้ให้มุนยอง ประธานอีรู้สึกเป็นห่วงมุนยอง จึงรีบไปหาเธอ ปล่อยให้ยูซึงแจนั่งกินข้าวคนเดียว

มุนยองไม่ยอมรับสายของประธานอี เธอยังคงนอนอยู่บนเตียงและนึกถึงตอนที่แม่หวีผมให้ แม่บอกเธอว่าต้องไว้ผมยาวและห้ามตัดเด็ดขาด แต่มุนยองบอกว่าเบื่อ แม่ของเธอสั่งให้เชื่อฟัง และบังคับให้เธอรับปาก

มุนยองลุกจากเตียงมาหากรรไกรเพื่อตัดผม ขณะที่ง้างกรรไกรอยู่นั้น เธอนึกถึงเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ขอความช่วยเหลือ มุนยองจึงขว้างกรรไกรใส่หน้ากระจกจนแตก ประธานอีเพิ่งมาถึงและได้ยินเสียง จึงรีบวิ่งขึ้นไป มุนยองยังคงนั่งอยู่ที่ปลายเตียงและบอกว่า เธอยังตัดแม่ไม่ขาด

ประธานอีคิดว่าเธอหลอนจนผีอำอีก มุนยองจึงบอกว่าเธอเป็นตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาอยู่ที่นี่ ประธานอีรีบเก็บเสื้อผ้าของเธอ เพื่อจะพากลับโซล แต่มุนยองห้ามไม่ให้เขาแตะต้องของของเธอ เขายังคงยืนกรานที่จะพาเธอกลับให้ได้ เพราะไม่ต้องการให้เธอเกิดอาการหลอนอีก อีกทั้งเธอยังพาคังแทและพี่ชายมาอยู่ที่นี่ด้วย มุนยองกำลังจะเอาโคมไฟฟาดหัวประธานอี แต่เขารับไว้ได้ เพราะรู้ทันมุนยอง จากการที่ทำงานร่วมกันมาสิบปี

ประธานอีพยายามจูงมือมุนยองลงบันได แต่เธอขัดขืนและผลักประธานอีจนเกือบตกบันได คังแทมาถึงพอดี จึงรับไว้ได้ทัน และลากเขาออกไปนอกบ้าน

คังแทบอกให้เธอล็อกประตูทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เขามองกระจกที่แตกร้าวและให้ยาลดไข้กับเธอ แต่มุนยองปฏิเสธการกินยา เขาจึงชวนเธอออกไปนั่งรถกินลม ขณะขับรถคังแทถามว่าอยากไปที่ไหน เธอตอบว่าโมเต็ล เมื่อเขาถามอีกว่าอยากกินอะไร เธอตอบว่าอยากกิน “เขา” คังแทไม่พอใจจนจอดรถ มุนยองจึงบอกว่าวันนี้เธอจะยอมตามใจคังแททุกอย่าง ในฐานะหมอประจำตัวของเธอ คังแทพามุนยองไปกินเนื้อย่าง เธอบอกว่าควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาอยู่ต่อหน้าของกิน ยิ่งกินก็ยิ่งหิว และคงเป็นเพราะข้างในเป็น ‘กระป๋องที่ว่างเปล่า” คังแทจึงขอโทษที่เคยว่าเธอแบบนั้น คังแทสำลักน้ำเมื่อมุนยองถามว่า เขาเคยนอนกับผู้หญิงหรือเปล่า เพราะเห็นว่าเขาไม่เคยสนใจอะไรเลยสักอย่าง แต่คังแทบอกว่าเขาแค่ต้องอดทน มุนยองไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องอดทนและอาสาจะปลดสลักนิรภัยให้เขา เธอบอกว่าอยากรู้ เมื่อเขาได้ปลดปล่อยออกมาแล้ว จะเป็นอย่างไร

แจซูตอบข้อความของจูรีว่า พี่ซังแทมาที่ร้านตามปกติ แต่คังแทออกไปเที่ยวกับมุนยองอย่างมีความสุข คังแทพามุนยองมาเดินเล่น แต่เธอบ่นว่าเมื่อยและต้องการขี่หลังคังแท เขาแกล้งเฉไฉและจะโทรหาพี่ซังแท มุนยองจึงแย่งโทรศัพท์ คังแทจะแย่งกลับคืน จนเผลอรั้งตัวเธอเข้ามา ทั้งคู่จึงสบสายตากัน มุนยองแกล้งแหย่ว่าเขากอดเธอ ทันใดนั้นจูรีก็โทรเข้ามา แต่มุนยองเป็นคนรับสายและบอกว่าคังแทลางานเพื่อมาเดินเล่นกับเธอ จากนั้นมุนยองกระเซ้าคังแทว่าหยุดงานเพื่อมาเดตกับเธอใช่ไหม แต่คังแทปฏิเสธ เธอจึงเอ่ยปากขอคบกับเขา เขาบอกว่าทุกครั้งที่เธอไล่เขา ทำให้เขาคิดว่าควรอยู่กับเธอ

ประธานอีไปนั่งดื่มที่หน้ามินิมาร์ทและนั่งบ่นเรื่องของมุนยองกับคังแท จูรีซึ่งนั่งดื่มอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง รู้สึกรำคาญและหนวกหูจนโวยวายออกมา เมื่อประธานอีหันหลังไปมอง จึงเห็นจูรีซึ่งกำลังเมาและบ่นกับตัวเอง เมื่อจูรีหันมาถามเขาว่าคงเพิ่งเคยเห็นผู้หญิงหมดสภาพเพราะรักข้างเดียว ประธานอีจึงนึกออกว่าเคยปิ๊งเธอที่ร้านของแจซู เขานั่งมองจูรีบ่นต่อไปและลุกไปหาเธอ พร้อมทั้งยื่นนามบัตรและแนะนำตัวเอง จากนั้นจูรีก็ตบหน้าเขา ต่อว่าที่ไม่ขัดขวางโกมุนยอง จนทำให้มาพบกับคังแทที่นี่ และทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้ ประธานอีจำเสียงของจูรีได้ จึงหันไปถามเธอ แต่จูรีก็เมาสลบคาโต๊ะไปเสียก่อน

ขณะที่ขับรถกลับ มุนยองบอกคังแทว่า เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งเมื่อฝันร้ายถึงแม่ แต่วันนี้เธอไม่รู้สึกแบบนั้นเลย คังแทแอบยิ้มเมื่อเห็นมุนยองวาดรูปหน้ายิ้มที่กระจกรถ
 
ผอ.โอ บอกคังแทว่าหากมุนยองยังไม่มีแฟน เขาจะแนะนำลูกชายของตนเองให้เธอ เมื่อรู้ว่าคังแทหยุดงานเมื่อวานเพื่อดูแลมุนยองที่ป่วย ผอ.จึงถามว่าสาเหตุจากเรื่องที่คนไข้คังอึนจาอ้างตัวเป็นแม่หรือเปล่า คังแทจึงบอก ผอ.ว่า มุนยองเองก็เผลอคิดไปแว๊บหนึ่งที่เชื่อว่าคังอึนจาเป็นแม่ ผอ.จึงเล่าว่าโดฮีแจ แม่ของมุนยอง หายสาบสูญไป หลังจากส่งต้นฉบับนิยายเล่มสุดท้าย “การสังหารของแม่มดตะวันตก” ต่อมาอีกห้าปีก็มีการแจ้งเสียชีวิต คังแทสงสัยว่าเป็นไปได้ไหมที่โดฮีแจยังมีชีวิตอยู่ ผอ.วิเคราะห์สาเหตุที่มุนยองเผลอคิดว่าคนไข้คังอึนจาเป็นแม่ อาจเป็นเพราะความคิดถึง แต่คังแทค้านว่าอาจเป็นเพราะความกลัวก็ได้

ผอ.เปิดประวัติการรักษาโกแดฮวาน และย้อนนึกไปที่เขาพูดถึงภรรยาที่สวย ฉลาด สง่างาม และรักลูกสาวมากจนน่าขนลุก ทุกคืนเธอจะกล่อมลูกด้วยเพลง “คลีเมนไทน์” โกแดฮวานยังแปลกใจว่าแม่ของมุนยองจะรู้ความหมายของเพลงนั้นบ้างไหม

คังแทนำน้ำดื่มไปให้คนไข้คังอึนจาและถามเรื่องลูกสาวที่จะแนะนำให้เขา แต่คังอึนจาบอกว่าลูกสาวของเธอตายไปแล้ว อาการของคังอึนจาเริ่มคอนเวอร์ชั่นอีกครั้ง เมื่อหมอและพยาบาลเข้ามาดูอาการ เธอบอกว่าผ้าคลุมไหล่ที่เธอกอดอยู่นั้นมีค่ามาก แม้กระทั่งเงินก็ไม่อาจซื้อได้ เพราะมันคือเงินเดือนของลูกสาวที่ซื้อให้เธอเป็นของขวัญ คังอึนจาเล่าเรื่องราวว่า ครั้งสุดท้ายเธอทะเลาะกับลูก จนลูกออกไปโดนรถชนตาย เธอรู้สึกผิดและเสียใจจนกระทั่งทุกวันนี้ คังแทย้อนนึกถึงตัวเองที่ปล่อยมือจากอ้อมกอดของแม่ ตอนที่ฝากให้ดูแลพี่ซังแท

คังแทซื้อเบียร์ไปนั่งดื่มกับแจซูบนดาดฟ้าที่บ้าน และถามแจซูว่าแม่จะรู้สึกผิดและเสียใจต่อเขาบ้างไหม เขาต้องการให้เป็นอย่างนั้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา แจซูจึงตะโกนขึ้นฟ้าและต่อว่าแม่ของคังแทที่รักลูกไม่เท่ากัน แม่ของจูรีบอกให้คังแทเห็นใจหัวอกแม่ ที่เลี้ยงลูกสองคนมาตามลำพัง โดยเฉพาะลูกที่ไม่ปกติอย่างซังแท เมื่อจูรีสร่างเมาและรู้จากแม่ว่าประธานอีเป็นคนแบกเธอมาส่งที่บ้าน ทำให้เธอนึกถึงตอนที่ตบหน้าเขาเมื่อคืนนี้

มุนยองกระหน่ำส่งข้อความหาคังแท ขณะที่กำลังนั่งแท็กซี่กลับ เขาจึงบอกให้เธอรอ เมื่อกลับมาถึง คังแทเห็นมุนยองนั่งหลับอยู่ที่บันได มุนยองต่อว่าเขาที่กลับดึกและได้กลิ่นเบียร์ เธอระแวงว่าเขาไปดื่มกับจูรี แต่คังแทบอกว่าดื่มกับแจซูและเจ้าสาวหอยทาก แม่ของจูรี มุนยองชวนคังแทดื่มต่อด้วยกัน แต่เขาบอกว่าถ้าต่างคนต่างเมาก็จะเป็นเรื่อง มุนยองโดนดีดหัวเมื่อแหย่เขาว่ากลัวเธอจะเป็นฝ่ายรุก มุนยองเห็นว่าคังแทเมาและรับมุกเธอได้ทันควัน จึงพูดออกมาว่า อยากปลดสลักนิรภัยของเขาจริงๆ เขาขอให้เธอหลับตา มุนยองเข้าใจว่าเขาจะจูบ เธอจึงหลับตาและยื่นปากให้ แต่เขากลับมอบตุ๊กตาป้องกันฝันร้ายให้และบอกว่ามันเคยเป็นของพี่ซังแท ซึ่งเขาเย็บเองและตั้งชื่อว่า มังแท คังแทเล่าให้มุนยองฟังว่า พี่ซังแทก็ฝันร้ายมาตลอดหลังจากที่แม่เสียไป ตอนนั้นเขาไม่รู้จะช่วยอย่างไร นอกจากเย็บตุ๊กตาตัวนี้ให้

คังแทขึ้นไปนอนกอดพี่ซังแทและบอกว่าจะพาไปกินจัมปงร้านเดิมที่พี่ชอบ แต่พี่ซังแทบอกว่าที่จริงคังแทชอบร้านนี้ต่างหาก เพราะรบเร้าให้แม่พาไปกินตลอด ถึงเผ็ดแต่ก็อร่อย คังแทนอนน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงตอนที่ไปด้วยกันสามคนแม่ลูก นึกถึงไออุ่นของแม่ เขายังคงนอนกอดพี่ซังแททั้งน้ำตาและบอกพี่ว่า เขาคิดถึงแม่ มุนยองโยนตุ๊กตาไม้ทิ้ง และนอนกอดตุ๊กตามังแทจนหลับไป


มุนยองเพิ่งรู้ว่าคลาสของตนเองโดนยกเลิก เธอจึงเดินตามหา ผอ.เพื่อที่จะต่อว่า ขณะที่ ผอ.กำลังเดินเล่นอยู่กับคังอึนจา เมื่อเห็นมุนยองตรงเข้ามา เขาจึงรีบวิ่งหนีไป ทิ้งให้คังอึนจานั่งอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง คังแทตะโกนเรียกมุนยองขณะที่เธอกำลังเผชิญหน้ากับคังอึนจา คังอึนจาขอโทษกับเหตุการณ์วันก่อนที่ทำให้มุนยองลำบาก แต่มุนยองบอกว่าเธอโดนไล่ออกแล้ว พร้อมทั้งเดินเข้าหาคังอึนจาให้ชดใช้ คังอึนจาตกใจและก้าวถอยหลังจนผ้าคลุมไหล่ผืนโปรดหล่นลงพื้น มุนยองจึงเอ่ยปากขอเพื่อเป็นการชดใช้ คังแทขอคืน แต่คังอึนจายอมยกให้มุนยองและบอกว่าเธอใช้ผ้าผืนนี้มานานมากแล้ว หลังจากที่มุนยองเดินไปแล้ว คังอึนจาบอกคังแทว่าตอนนี้เธอรู้สึกเบาไหล่แล้ว
คังแทเดินไปหามุนยองขณะที่เธอยืนดูภาพวาดที่ผนังข้างบันได เขาบอกว่าตอนนี้พี่ซังแทติดนิทานของเธอเรื่อง “เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ”


“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหมาที่เก็บความรู้สึกเก่งมาก มันถูกผูกไว้อยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มันน่ารักและกระดิกหางเก่ง ชาวบ้านจึงเรียกมันว่า “เจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ” ถึงแม้ตอนกลางวันมันจะเล่นกับเด็กๆอย่างสนุกสนาน แต่พอตกกลางคืนมันก็จะร้องไห้และครางหงิงๆ เพราะมันอยากปลดเชือกและออกไปวิ่งเล่นในทุ่งกว้างของฤดูใบไม้ผลิ แต่เพราะทำไม่ได้ มันจึงแอบร้องไห้ทุกคืน ต่อมาหัวใจจึงถามเจ้าหมาว่าทำไมไม่ปลดเชือกแล้วหนีไปซะ…..คังแทจึงเล่าต่อว่า เพราะฉันโดนผูกมานานมากจนลืมวิธีปลดเชือกไปแล้ว….”

จากนั้นคังแทก็ลูบหัวมุนยองและบอกเธอว่าเก่งมากที่ช่วยปลดเชือกให้ ทั้งคู่สบตาและยิ้มให้กัน เมื่อมุนยองเดินผ่านโกแดฮวานซึ่งนั่งอยู่คนเดียว เขาพูดว่าเธอจะเป็นเหมือนแม่ และไม่มีทางหนีพ้น เธอเถียงว่าไม่เหมือนและเดินจากไป

โกแดฮวานตื่นขึ้นมากลางดึกเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงฮัมเพลง เขาจึงลุกจากเตียงและเดินเอามือปิดหู

เมื่อกลับถึงปราสาท มุนยองหยิบกรรไกรขึ้นมาตัดผมตัวเอง และเดินลงบันไดมาหาคังแทที่เพิ่งกลับมาถึง เธอพูดกับคังแทด้วยรอยยิ้มว่า ตอนนี้เธอตัดเชือกทิ้งแล้ว และทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน จากนั้นคังแทก็ช่วยตกแต่งผมที่เว้าแหว่งให้เธอ มุนยองยืนดูตัวเองที่หน้ากระจกกับทรงผมใหม่และถามคังแท เขาจึงตอบว่าเธอสวยมาก..