สปอยล์ It’s Okay to Not Be Okay ตอนที่ 8
คังแทเพิ่งเข้าใจว่า สาเหตุที่มุนยองตัดผม เพราะต้องการอิสระและไม่ต้องการเชื่อฟังแม่อีกต่อไปแล้ว เขาลูบผมเธอชมว่าเก่งและเขาภูมิใจในตัวเธอมาก มุนยองชวนคังแทไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็ได้ เหมือนเจ้าหมาน้อยในฤดูใบไม้ผลิ
ขณะกินอาหารเช้าร่วมกัน พี่ซังแทไม่ชอบผมทรงใหม่ของมุนยอง คังแทจึงใช้เท้าสะกิดพี่ซังแทใต้โต๊ะหลายครั้งเพื่อให้เขาหยุดตำหนิมุนยอง มุนยองใช้ตะเกียบคีบไข่ไม่ได้ จนคังแทต้องคีบให้ และเธอยังอ้อนให้คังแทตักอาหารจานอื่นให้อีก จนพี่ซังแทเอ่ยปากว่าโตแล้วก็ต้องตักกินเอง มุนยองออกมาส่งคังแทไปทำงาน โดยเอากุญแจให้กับเขาและกำชับให้รีบกลับมาเล่นกับเธอ ก่อนไปเธอบอกว่า ต่อไปเขาต้องตัดผมให้เธออีกเพราะไม่ต้องการให้ใครแตะต้องตัวเธอยกเว้นเขา และยังถามอีกว่าเธอสวยจริงๆ หรือ คังแทตอบว่าใช่และบอกเธอให้อยู่กับพี่ซังแทดีๆ อย่าทะเลาะกัน
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ผู้ดูแลโอชายงเล่าให้คังแทฟังถึงอาการของโกแดฮวานเมื่อคืนนี้ว่าเขาชักกระตุกและน้ำลายฟูมปาก ระหว่างที่เปลี่ยนชุดคนไข้ โกแดฮวานเล่าให้คังแทฟังว่าผู้หญิงคนนั้นฮัมเพลง “คลีเมนไทน์” ทั้งๆ ที่ตายไปแล้ว และยังบอกอีกว่าเธออยู่ที่นี่
มุนยองเช็กข่าวของตัวเองและรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นแต่คอมเม้นท์ในด้านลบ เธอแปลกใจที่แฟนคลับหายไปเกือบหมด จนกระทั่งเงยหน้ามองพี่ซังแทและบอกว่าเขาคือแฟนคลับตัวจริง ซังแทบอกเธอว่าที่เป็นแฟนคลับก็เพราะความสวยของเธอ
ยูซึงแจได้ข้อมูลของนัมจูรีตามที่ประธานอีให้ไปสืบ และรู้ว่าคังแทเคยเช่าบ้านของเธออยู่ ประธานอีจึงมีแผนที่จะไปเช่าบ้านของเธอบ้าง
ผอ.โอได้ข้อมูลจากคนไข้ของเขาว่า โกแดฮวานมักจะพูดแต่เรื่องเดิมๆ เช่นเพลง “คลีเมนไทน์” เมื่อ ผอ.โอ ดูคลิปที่เกิดกับโกแดฮวานเมื่อคืนนี้ เขาเห็นคนไข้หญิงพัคอ๊กนันอยู่ในภาพนั้นด้วย จึงให้คังแทพาเธอมาพบ เธอบอกว่าเธอไปเข้าห้องน้ำแต่ไม่เจอกับโกแดฮวาน และไม่ได้ฮัมเพลง แต่คนไข้หญิงอีกคนหนึ่งที่ชื่อยูซอนแฮชอบพูดว่า ตกกลางคืนจะมีผีร้องเพลงตรงสุดทางเดิน ขณะที่คงแทเดินไปส่งพัคอ๊กนัน เขาแปลกใจเมื่อพัคอ๊กนันบอกว่าอยู่ที่นี่มาสองสามเดือนแต่ไม่มีใครสนใจเธอเลย และตอนนี้เธอเริ่มสนุกเพราะมีคนให้ความสนใจเธอแล้ว ผอ.ดูคลิปซ้ำอีกครั้งและร้องเพลงตามปากของพัคอ๊กนันในคลิป แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเธอโกหกทำไม เขาขอให้คังแทปิดเรื่องนี้เป็นความลับ และช่วยกันสืบเรื่องของพัคอ๊กนัน โดยให้มุนยองกับมาสอนคลาสนิทานตามเดิม เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน
มุนยองขอตามพี่ซังแทไปด้วย เมื่อรู้ว่าเขานัดไปกินจัมปงกับคังแท เธอแปลกใจที่เห็นพวกเขามากินอาหารที่ร้านโทรมๆ คังแทจึงเล่าว่าเป็นร้านโปรดของเขาที่แม่ชอบพามากิน ระหว่างที่คังแทกำลังกิน มุนยองสังเกตว่าคังแทเศร้าใจ เพราะเขากำลังคิดถึงแม่ เมื่อมุนยองกินเข้าไปคำแรก เธอรู้สึกเผ็ดมากจึงกินแคปไซซินตามไป พี่ซังแทจึงบอกว่าแคปไซซิน ช่วยการหลั่งของสารเอนโดรฟินและทำให้ถ่ายเป็นเลือดจนแสบก้น ทำให้คังแทหัวเราะออกมา
เมื่อกินอาหารเสร็จแล้ว คังแทกางร่มไปกับพี่ซังแท มุนยองจึงรีบวิ่งตามไปแล้วเดินไปพร้อมๆกันทั้งสามคนด้วยร่มสองคัน เมื่อซังแทขึ้นรถเมล์ไปแล้ว เขาหันกลับมามองและเห็นมุนยองกับคังแทเดินควงแขนกัน ทำให้พี่ซังแทรู้สึกน้อยใจอยู่ลึกๆ
คังแทไปดื่มกาแฟต่อกับมุนยอง ทั้งๆ ที่เขาต้องรีบกลับไปทำงานในช่วงบ่าย ระหว่างที่คังแทยืนรอกาแฟอยู่นั้น มุนยองนั่งมองปากกาที่ผู้ชายคนหนึ่งกำลังเขียนอะไรบางอย่าง เธอพูดออกมาว่า “อยากได้” ผู้ชายคนนั้นลุกมาหาเธอเพราะจำได้ว่าเธอคือนักเขียนโกมุนยอง เขาคือแดเนียลเป็นซีอีโอของบริษัทที่เคยจัดงานอีเวนต์ให้เธอ คังแทเริ่มไม่พอใจที่มุนยองบอกว่า เขาเป็นแค่คนรู้จัก และยอมรับนัดของแดเนียล โดยจดเบอร์โทรให้ลงในสมุดโน๊ตของเขา แดเนียลวานให้คังแทถ่ายรูปคู่ให้ แต่คังแทไม่ต้องการให้แตะต้องตัวมุนยอง มุนยองจึงแกล้งคว้ามือแดเนียลมาโอบเอวของเธอเพื่อถ่ายรูป
คังแทต่อว่ามุนยองที่ให้ความสำคัญกับแฟนเซอร์วิส แต่มุนยองอ้างว่าประธานอีเคยบอกไว้ หากยิ้มหนึ่งครั้ง หนังสือก็จะขายดีเพิ่มขึ้นหนึ่งเล่ม และการให้เบอร์โทรก็ถือเป็นความเท่ ก่อนแยกไปทำงาน มุนยองยังกระเซ้าคังแทอีกว่าเขาหึงเธอใช่ไหม เมื่อคังแทไปแล้ว มุนยองก็หยิบปากกาที่เธอจิ๊กไว้ขึ้นมาดู
ประธานอีไปหาแม่ของจูรีที่โรงพยาบาล เพื่อขอเช่าบ้าน เธอบอกจูรีว่าจะให้เขาอยู่ครึ่งห้องกับแจซู ส่วนยูซึงแจก็ให้อยู่ห้องของจูรี ประธานอีบอกจูรีว่า เขาขอมาเช่าบ้านก็เพราะเธอ แต่เธอบอกว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เมื่อแจซูรู้ว่าจะถูกแบ่งครึ่งห้อง เขาก็บ่นโวยวายให้พี่ซังแทฟัง แต่พี่ซังแทมัวแต่นึกถึงภาพที่มุนยองเดินควงแขนกับคังแท ขณะที่เกามือของตัวเองไปด้วย
เมื่อคังแทเดินกลับเข้ามาทำงานและได้พบประธานอีซึ่งกำลังจะกลับ ด้วยอารมณ์หึงหวงมุนยองกับแดเนียล คังแทจึงระเบิดอารมณ์ใส่ประธานอี ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าคังแทเป็นอะไร
คนไข้ชายกับอารึมแอบคบกันทั้งๆ ที่ผิดกฎของโรงพยาบาล พวกเขาแอบพบกันในห้องผ้า ซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด เมื่อคังแทรู้เรื่องนี้จึงตักเตือนพวกเขา และขอให้รักษาตัวให้หายเร็วๆ เมื่อได้ออกจาก รพ.ก็จะสามารถคบกันได้โดยไม่มีใครขัดขวาง
มุนยองไม่มีอารมณ์เขียนหนังสือ จึงชวนพี่ซังแทเล่นโป๊กเกอร์ เมื่อพี่ซังแทเห็นมุนยองถือตุ๊กตามังแทซึ่งเคยเป็นของเขา พวกเขาจึงทะเลาะกันและแย่งตุ๊กตาจนขาด และตบตีกันจนหมอนแตกกระจุยกระจัดกระจาย เมื่อซังแทกลับมาเห็นจึงขอตุ๊กตาคืน พี่ซังแทโกรธและไปแอบในตู้เสื้อผ้า ขณะที่มุนยองเดินไปกรีดร้องที่ห้องของตัวเอง
คังแทเกลี้ยกล่อมพี่ ขอให้ยกตุ๊กตาให้มุนยอง เพราะมังแทไม่สามารถจับผีเสื้อได้ และเห็นว่าพี่เก็บไว้ในด้านในของลิ้นชัก คังแทบอกให้พี่รู้จักแบ่งปัน แต่พี่ซังแทบอกว่าถ้าแบ่งปันทุกอย่าง แล้วเขาจะเหลืออะไร คังแทจึงบอกว่าพี่ซังแทยังเหลือเขา พี่ซังแทจึงยอมยกมังแทให้มุนยอง แต่ไม่ยอมยกคังแทให้เธอ
มุนยองลงมาโวยวายใส่คังแท ขณะที่เขากำลังเย็บตุ๊กตาให้เหมือนเดิมและบอกว่าพี่ซังแทยอมยกให้แล้ว คังแทขอให้เธออดทนและอย่าสู้กับพี่ซังแท มุนยองจึงถามว่าเขาอดทนได้อย่างไรกับหลายๆเรื่อง เขาตอบว่าก็แค่ต้องอดทนเพราะจะได้ไม่เกิดเรื่อง และเป็นหนทางเดียวที่เขาจะได้อยู่ดูแลพี่ชาย มุนยองจึงบอกว่า เรื่องระหว่างเขาและเธอคือโชคชะตาและเซ็ตคู่ เพราะเขาอดทนได้เก่ง และเธอก็ระเบิดเก่ง เมื่อคังแทพูดประชดถึงเรื่องแดเนียล มุนยองจึงหยิบปากกาขึ้นมาดูและพูดว่าเท่ เธอโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูคังแทว่าเขาเท่กว่าปากกาซะอีก ฉะนั้นไม่ต้องหึง และเอนตัวลงนอนบนตักของคังแท เมื่อมุนยองหลับแล้ว คังแทจึงหยิบหมอนและผ้าห่มมาให้เธอ และเอามังแทใส่มือเธอไว้ เขานั่งมองเธออยู่ข้างๆ และสัมผัสมือของเธอเบาๆ
ประธานอีตื่นขึ้นมาและพบว่าหนวดของตัวเองถูกโกนจนเกลี้ยง มารู้ภายหลังว่าแจซูเป็นคนโกนให้ ตอนที่เขานอนกรนเมื่อคืนนี้ ระหว่างที่ประธานอีช่วยทำอาหารเช้า แม่ของจูรีออกปากชมว่าดูดีกว่าตอนไว้หนวด แต่จูรีกลับบอกว่าไว้หนวดดูดีกว่า
ระหว่างที่ขับรถไปทำงาน จูรีบ่นไม่อยากให้แม่เปิดทางให้ประธานอี แต่แม่บอกว่าเขาเป็นคนอารมณ์ดี ขยันขันแข็ง และไม่อยากให้ลูกไปสนใจผู้ชายที่ไม่เคยมีใจให้ จูรีและแม่ไปถึง รพ.พร้อมกับมุนยอง คังแท และพี่ซังแท แม่ของจูรีสังเกตผมของมุนยอง เธอจึงบอกว่าคังแทเป็นคนตัดให้ จากนั้นแม่ของจูรีจึงเอ่ยปากชวนพวกเขาให้ไปกินข้าวที่บ้าน
มุนยองเพิ่งรู้จาก ผอ.ว่าคังแทเป็นคนขอให้เธอกลับมาสอน และคงอยากเห็นเธอที่ รพ.ด้วย เธอแปลกใจเมื่อผอ.ถามเรื่องคนไข้พัคอ๊กนัน เธอจึงตอบเพียงว่าเป็นคนไข้ในคลาสนิทานเท่านั้น
คนไข้ชายได้พูดคุยกับคังแท และบอกว่าจะทำตามกฎและอดทน เมื่อได้ออกไปข้างนอกแล้ว ก็จะรักกับอารึมให้เต็มที่ แต่เขาบอกคังแทว่าความอดทนเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อเห็นเธอก็อยากสัมผัส เวลาหลับตาก็เอาแต่คิดถึง แม้สมองจะสั่งห้าม แต่สายตาก็ยังคงมองหา คังแทได้ฟังดังนั้นก็นึกถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อมุนยอง
วันนี้มุนยองเล่านิทาน “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” ให้คนไข้ฟัง เธอโบกมือให้คังแทเมื่อเห็นเขามายืนดูที่หน้าห้อง แต่คังแทไม่สนใจและเดินจากไป คนไข้พัคอ๊กนัมแอบยิ้มเยาะอยู่ในใจ มุนยองจึงเล่านิทานต่อ
“อสูรที่โดนสาปและใช้ชีวิตตามลำพังอยู่ในปราสาท พาสาวงามเบลล์เข้ามาอยู่ในฐานะเชลยและเลี้ยงดูเพื่อให้เธอเชื่อง อสูรมีนิสัยเห็นแก่ตัวและก้าวร้าว นานๆทีถึงจะมีน้ำใจและรอยยิ้มสักครั้ง แต่สาวเบลล์ก็ยังประทับใจในตัวเขา และคิดไปเองว่า เธอจะต้องโอบกอดอสูรด้วยความรัก เพื่อจะเปลี่ยนแปลงเขาให้เป็นเจ้าชาย...” จู่ๆอารึมก็แย้งขึ้นมาว่า มันไม่ใช่เรื่องชั้นต่ำที่จะเลี้ยงใครให้เชื่องได้ แต่มันคือรักแท้ของสาวเบลล์ที่จะลดความดุร้ายของอสูร ปลอบโยนจิตใจที่มีบาดแผล มันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่เรียกว่า ความรัก มุนยองได้ยินดังนั้น ก็นึกถึงภาพที่คังแทเข้าไปกอดและปลอบโยนเธอ ในคืนที่ฝันร้าย และพึมพำออกมาว่า ความรัก
คนรักเก่าของอารึมมาง้อเธอที่ รพ. แต่เธอปฏิเสธและบอกว่าพบรักใหม่แล้ว ทำให้เขาไม่พอใจและเงื้อมมือจะตบอารึม มุนยองซึ่งนั่งฟังอยู่นานแล้ว จึงเขวี้ยงกระป๋องกาแฟใส่เขา พวกเขามีปากเสียงกัน จนกระทั่งมุนยองโดนตบหน้า คังแทจึงพุ่งเข้าไปชกหน้าชายคนนั้นอย่างสุดแรงจนเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยกันห้ามไว้ คังแทเดินไปประคองมุนยองให้ลุกขึ้น ขณะที่เขาลูบแก้มของเธอด้วยความเป็นห่วง มุนยองจึงทิ้งก้อนหินที่แอบถือไว้ในมือ
คังแทแอบดีใจ เมื่อ ผอ.ลงโทษเขาด้วยการสั่งพักงานและงดจ่ายเงินเดือน เขาจึงทวงสัญญากับมุนยองว่าจะพาหนีเมื่อเขาต้องการ คังแทยื่นมือไปให้มุนยอง และบอกว่าตอนนี้เขาอยากไปเที่ยวเล่นกับเธอ..