สปอยล์ The King's Affection ตอนที่ 12

12

องค์รัชทายาททรงตกพระทัยเมื่อทราบว่าฝ่าบาททรงแอบดูอยู่หน้าห้องและเสด็จกลับโดยไม่ตรัสอะไรเลย หลังจากนั้นฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยที่จะปลดองค์รัชทายาทตามคำร้องของเหล่าบัณฑิตขงจื๊อ

ฝ่าบาททรงรู้ความจริงมาตลอดว่าองค์รัชทายาทคือสตรี ตั้งแต่ตอนที่พระชายาทรงสั่งเสียกับดัมอีกก่อนสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงตรัสให้องค์รัชทายาทออกจากวังเพื่อไปใช้ชีวิตของตนเอง

จีอุนกลับเข้าวังอีกครั้งเมื่อรู้ข่าวว่าองค์รัชทายาทถูกปลดจากบัลลังก์ เขาตามพระองค์ไปที่เรือนร้าง จีอุนเข้าสวมกอดพระองค์และทูลว่าจะไม่ปล่อยพระองค์ไว้เพียงลำพังอีกแล้วและจะขออยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องพระองค์ตลอดไป จากนั้นทั้งคู่ก็จุมพิตกัน องค์รัชทายาทขอให้เขากลับไปใช้ชีวิตตามเดิม ส่วนพระองค์ก็จะไปตามทางของพระองค์เอง และถือว่านี่เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายจากพระองค์

ของซอกโจรายงานท่านซังฮอนว่ากองทหารของท่านเสนาบดีชางชอนพร้อมด้วยยุทโธปกรณ์อยู่ที่ละแวกเขาโอแด ท่านซังฮอนมีคำสั่งให้ซอกโจพาองค์รัชทายาทกลับวังทันทีเมื่อได้รับข่าวจากเขา

ก่อนเสด็จออกจากวัง องค์รัชทายาททรงสอนองค์ชายเจฮยอนให้วางพระองค์อย่างสง่าผ่าเผยและห้ามไม่ให้ผู้ใดเห็นน้ำตาเด็ดขาด พระองค์ทรงทูลลาฝ่าบาทที่หน้าพระตำหนัก หัวหน้าราชองครักษ์เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมในการส่งเสด็จตามพระบัญชาของฝ่าบาท พระองค์ทรงฝากเขาให้ดูแลองค์รัชทายาทและขอบใจที่รักษาความลับนี้มาโดยตลอด

องค์ชายจาอึนและจองซอกโจนำขบวนส่งเสด็จ ยกเว้นคิมกาอนที่ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน ท่านซังฮอนสั่งซอกโจให้ดูแลองค์รัชทายาทเป็นอย่างดี องค์รัชทายาททรงสังเกตเห็นเศษผ้าสีแดงผูกไว้ที่ตันไม้ตามทางที่เสด็จ ทรงทราบดีว่าเป็นฝีมือของจีอุน จึงเก็บผ้าเหล่านั้นมาผูกไว้ที่ข้อมือของพระองค์ จีอุนตามขบวนเสด็จอยู่ห่างๆ และเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังซุ่มอยู่เพื่อรอฟังคำสั่งจากหัวหน้าองครักษ์ที่จะชิงตัวองค์รัชทายาทไปยังที่กบดานซึ่งองค์ชายจาอึนร่วมมือกับแผนการนี้ด้วย จู่ๆ องค์ชายก็สั่งพักระหว่างทางและบอกคิมซังกุงหาน้ำดื่มมาถวายองค์รัชทายาทรวมทั้งเสื้อผ้าหลายๆชุดเพื่อใช้เปลี่ยน จองซอกโจแปลกใจเพราะอีกไม่นานก็จะถึงลำธาร หัวหน้าองครักษ์ปลอมตัวเป็นโจรป่าและจับองค์รัชทายาทเป็นตัวประกัน เขากระซิบรายงานตัวกับพระองค์โดยบอกว่าเป็นโองการของฝ่าบาท จากนั้นจึงรีบพาองค์รัชทายาทวิ่งหนีไปโดยปล่อยให้ลูกน้องของเขาต่อสู้กับคนของจองซอกโจ จองซอกโจตามไล่ล่า จีอุนเข้ามาขัดขวางและต่อสู้กับพ่อของตนเองเพื่อให้องค์รัชทายาทกับหัวหน้าองครักษ์หนีไป

เมื่อถึงที่กบดาน หัวหน้าราชองครักษ์จึงขอให้องค์รัชทายาททรงเปลี่ยนชุดและถวายสิ่งของที่ฝ่าบาททรงฝากมาให้ซึ่งก็คือชุดของสตรีและจดหมายของพ่อที่บอกว่ามันเป็นหนทางเดียวที่ลูกจะปลอดภัยจึงได้มีรับสั่งให้ออกจากวัง และเหตุผลที่คัดค้านการอภิเษกก็เพราะพระองค์ทรงทราบว่าลูกเป็นสตรี พระองค์ทรงเสียพระทัยมาตลอดที่ทำตามราชโองการในวันที่ให้กำเนิด แต่พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้เกิดเรื่องน่าเสียใจเช่นนั้นอีก แม้อีฮวีจะเป็นชื่อของพระเชษฐา แต่ชื่อนี้จะเป็นขององค์รัชทายาทซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของพระองค์ตลอดไป

จองซอกโจค้นหาองค์รัชทายาทตามด่านต่างๆ และท่าเรือ พระองค์ทรงแต่งกายเป็นสตรี หัวหน้าราชองครักษ์ส่งพระองค์ที่ท่าเรือและทูลว่าจะตามไปทีหลัง เมื่อซอกโจเจอหัวหน้าราชองครักษ์ จึงสั่งลูกน้องให้ค้นหาสตรีทุกคนบนเรือ จองอุนสวมรอยว่านางคือภรรยาของตนเพื่อให้รอดพ้นสายตาคนของซอกโจ ทั้งคู่จึงโดยสารมาด้วยกันอย่างปลอดภัย จองอุนอยู่กับองค์รัชทายาทเพื่อรอหัวหน้าราชองครักษ์ที่จะพาพระองค์ไปยังบ้านที่ฝ่าบาททรงเตรียมไว้ให้

องค์รัชทายาทกำลังจะสารภาพความจริงกับจีอุน แต่ต้องหลบหนีจองซอกโจและลูกน้องของเขาเสียก่อน ซอกโจยิงธนูโดนที่ต้นแขนของพระองค์ ซอกโจมองหน้าและนึกถึงดัมอีที่เขาเคยสังหารในตอนนั้น จีอุนพาพระองค์หลบหนีไปได้จนปลอดภัยและหายาสมุนไพรเพื่อมาทำแผล องค์รัชทายาทยังคงต้องการสารภาพความจริงให้เขารู้ จึงปลดเสื้อเพื่อทำแผลเอง จีอุนจึงได้รู้ว่าพระองค์คือสตรี