สปอยล์ The King's Affection ตอนที่ 7

7

เพื่อเป็นการทำตามคำพูดที่จะเดินตามทางที่ท่านตาปูไว้ให้และเป็นการช่วยจีอุน องค์รัชทายาทจึงทูลต่อฝ่าบาทว่าพระองค์ทรงเคลื่อนย้ายนักโทษออกจากคุกเพราะไม่ต้องการให้พวกเขาหนาวเหน็บหรืออดอยากตายอยู่ในนั้น โดยก่อนหน้านี้องค์รัชทายาทได้ทรงปรึกษากับท่านชินยองซู พระองค์จึงมีทั้งพยานและหลักฐานว่าจีอุนไม่ได้เป็นหมอที่เรียกเก็บค่ายาราคาแพงหรือละเมิดชนชั้นแต่กลับช่วยเหลือคนยากไร้ด้วยสมุนไพรอื่นที่มีฤทธิ์ใกล้เคียงกับสมุนไพรแท้ที่ท่านบัณฑิตชเวกว้านซื้อและเก็บไว้ในโกดังของตัวเอง ทำให้ราคาสมุนไพรตกฮวบและเกิดเป็นข้อกล่าวหาขึ้น แต่ฝ่าบาททรงตรัสว่าถึงอย่างไรจองจีอุนก็ไม่ได้แจ้งตัวตนให้ทราบก่อนที่จะมาเป็นอาจารย์หลวง องค์รัชทายาททรงแย้งว่าพระองค์เคยทูลถึงตัวตนของอาจารย์แล้วแต่ฝ่าบาทไม่เปิดพระทัยรับฟังและบีบบังคับให้เขามาเป็นอาจารย์

ด้วยความช่วยเหลือขององค์รัชทายาท จีอุนจึงไม่ได้รับการลงโทษใดๆและรีบไปหาสองพี่น้องผู้ช่วยของเขาที่รอดปลอดภัยแล้ว จองซอกโจบอกกับจีอุนว่าเขาจะไม่บีบบังคับให้ลูกต้องทำงานหลวง แต่อย่าคิดอวดอ้างเป็นหมอต่อหน้าเขาอีก เพราะการทนรับฟังเรื่องของลูกชายคนเดียวจากขี้ปากชาวบ้าน มันไม่ใช่เรื่องง่าย

องค์รัชทายาททรงแปลกพระทัยที่เห็นจีอุนกลับมาสอนหนังสือเหมือนเดิมเพราะทรงคิดว่าเขาลาออกจากวังไปแล้ว เขาจึงทูลว่าตัดสินใจจะอยู่ต่อเพื่อทำตามหัวใจเรียกร้องเพราะน้ำพระทัยขององค์รัชทายาทที่ได้ช่วยเหลือเขาไว้ จีอุนทัดดอกไม้ราวกับสตรีที่อารมณ์ดีเพื่อตามเสด็จไปสอนตำรานอกตำหนัก แต่เขาเดินซุ่มซ่ามจนเกือบตกน้ำ องค์รัชทายาทจึงทรงคว้าเขาไว้ จีอุนเขียนบทกวีถวายองค์รัชทายาทว่า “ฝนที่ดีย่อมรู้ว่าควรตกในฤดูใด” เปรียบเสมือนองค์รัชทายาทที่ทรงช่วยเหลือเขาในยามที่ต้องการและเขาก็จะเป็นคนเช่นนั้นสำหรับพระองค์เช่นกัน

แม้ว่าพระพันปีจะทรงเห็นด้วยกับท่านซังฮอนที่จะให้องค์รัชทายาทเป็นผู้ต้อนรับคณะทูตจีนแทนฝ่าบาท แต่พระนางไม่พอพระทัยที่ช่วงนี้ท่านซังฮอนทำอะไรเป็นการล้ำเส้นไปหน่อย ท่านซังฮอนจึงแย้งว่าเขาคือคนที่นำบัลลังก์นี้มาสู่ฝ่าบาทและต่อว่าพระพันปีที่ทรงแต่งตั้งผู้รับตำแหน่งสำคัญทุกวัน ท่านซังฮอนประกาศกร้าวว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เหล่าผู้จ้องโค่นบัลลังก์องค์รัชทายาทได้สมความปรารถนา

องครักษ์หลวงทูลองค์รัชทายาทว่าฝ่าบาททรงพระประชวรด้วยโรคที่เท้าอีกแล้วเพราะทรงงานหนัก เขายังเป็นห่วงองค์รัชทายาทที่มีคิมกาอนคอยตามเสด็จอยู่ใกล้ตัวซึ่งพระองค์ตรัสว่าต้องทำใจให้ชิน เพราะคิมซังกุงและขันทีฮงคงไม่อาจดูแลพระองค์ได้ตลอด

องค์รัชทายาทกราบทูลขออนุญาตเป็นผู้ดูแลต้อนรับคณะทูต พระองค์ทรงทราบดีว่าท่านตาซังฮอนคือเหตุผลที่ฝ่าบาททรงคัดค้านการแต่งตั้งองค์รัชทายาท แต่องค์รัชทายาททรงรับปากกับเสด็จพ่อว่าในการต้อนรับคณะทูตครั้งนี้ พระองค์จะไม่ทำให้ผิดหวัง

องค์รัชทายาททรงวางแผนเตรียมการต้อนรับคณะทูตจีนร่วมกับองค์ชายจาอึน ระหว่างเดินอยู่ที่ตลาดทั้งสองพระองค์ได้พบกับจีอุนและชินโซอึนโดยบังเอิญ องค์รัชทายาททรงมีสีหน้าไม่พอพระทัยเมื่อเห็นทั้งสองคนคุยกันอย่างสนิทสนม

ระหว่างที่องค์รัชทายาทติดภารกิจต้อนรับคณะทูตจีนและต้องหยุดพักการเรียน จีอุนจึงใช้เวลาปลูกดอกไม้ที่เรือนร้างของดัมอี คณะทูตจีนมาถึงพร้อมกับท่านเสนาที่จีอุนเคยช่วยชีวิตไว้เมื่อครั้งอยู่ที่อาณาจักรหมิง ท่านซังฮอนเรียกจีอุนมาพบเพื่อให้ร่วมโต๊ะน้ำชาต้อนรับหัวหน้าขันที จางจองซอกขอตัวกลับไปทำธุระที่สำนักตรวจการ หลังจากนั้นหัวหน้าขันทีจึงตามไปและรับสินบนจากจองซอกเพื่อแลกกับสิทธิ์พัฒนาที่ดินในยอยอน

ในคืนงานเลี้ยงต้อนรับ หัวหน้าขันทีกล่าวติติงฝ่าบาทที่ใส่พระทัยจัดงานเลี้ยงมากกว่าบำรุงถนนหนทางที่จะเข้ามาโชซอนซึ่งทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง ฝ่าบาททรงให้เหตุผลว่าหากซ่อมบำรุงถนนอย่างบุ่มบ่าม จะเป็นการเปิดหนทางให้กับพวกป่าเถื่อนจากทางเหนือ หัวหน้าขันทีทูลฝ่าบาทว่าเขาจะทูลเสนอองค์จักรพรรดิเรื่องสิทธิที่ดินในยอยอน ฝ่าบาททรงแปลกพระทัยเพราะไม่ทรงทราบเรื่องนี้มาก่อน

ขณะที่หัวหน้าขันทีกำลังเพลิดเพลินกับการรำฟ้อน เสนาท่านหนึ่งจึงเข้าไปเอาอกเอาใจหากเขาสนใจสตรีนางใดเป็นพิเศษ แต่หัวหน้าขันทีไม่พอใจและชกต่อยเสนาท่านนั้นต่อหน้าทุกคน องค์รัชทายาททรงเข้ามาขัดขวางและตรัสว่าจะทำการสอบสวนและลงโทษเสนาท่านนี้เองตามข้อกำหนดของโชซอน

จากนั้นองค์รัชทายาทจึงมีรับสั่งให้เสนาท่านนั้นรีบออกไป หัวหน้าขันทีไม่พอใจองค์รัชทายาทและเดินปรี่เข้าไป จีอุนที่เห็นท่าไม่ดีจึงเข้าไปหาหัวหน้าขันทีและบอกว่าจะรินสุราให้กับเขา แต่หัวหน้าขันทีกลับเอาสุราจอกนั้นสาดหน้าจีอุน ท่านเสนาจีนขอร้องใหหัวหน้าขันทีหยุดการกระทำที่หยาบคายเช่นนี้ เพราะเป็นการหมิ่นพระเกียรติขององค์จักรพรรดิ คนสนิทของหัวหน้าขันทีจึงพาเขากลับไปนอนเมื่อเห็นว่าเมามากแล้ว องค์รัชทายาททรงต่อว่าจีอุนที่เขาทำในสิ่งที่พระองค์ไม่ได้สั่งซึ่งเขาทูลว่าทำไปด้วยความเป็นห่วงเพราะเกรงว่าเรื่องจะบานปลาย แต่องค์รัชทายาททรงตรัสว่าการเป็นห่วงพระองค์ไม่ใช่หน้าที่ของเขา แม้จะเห็นก็ต้องแสร้งทำเป็นไม่เห็น หรือแม้ได้ยินก็ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ มีดพกสั้นทีหัวหน้าขันทีพกติดตัวนั้น เขาได้มาจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกจับไปเป็นเชลยที่จีนพร้อมกับเขาในตอนนั้น

หัวหน้าขันทีไม่พอใจอาหารตรงหน้า แม้ว่าจะเป็นอาหารโปรดของเขาที่องค์รัชทายาททรงจัดไว้ให้ องค์รัชทายาทจึงมีรับสั่งให้นางในไปจัดสำรับมาใหม่ ระหว่างนั้นหัวหน้าขันทีตก็พูดจาก้าวร้าวต่อองค์รัชทายาท แต่คิมซังกุงส่ายหน้าเพื่อเป็นการห้ามพระองค์ไม่ให้ถกเถียงกับเขา หัวหน้าขันทีไม่พอใจคิมซังกุงเพราะคิดว่านางบังอาจเสียมารยาทกระซิบกระซาบต่อหน้าเขา จากนั้นเขาก็สั่งสอนด้วยการตัดมวยผมของคิมซังกุงต่อหน้าทุกคน องค์รัชทายาททรงอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป จึงชกใบหน้าของหัวหน้าขันทีหลายครั้งจนพระหัตถ์ของพระองค์บาดเจ็บ