สปอยล์ The King's Affection ตอนที่ 9
จีอุนตื่นสายเพราะมัวแต่ฝันถึงรอยจูบเมื่อคืนนี้ เขาจึงรีบเข้าวังเพื่อทำการสอน ในขณะที่องค์รัชทายาททรงเตรียมตัวเข้าเรียนแต่ก็ยังนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเช่นกัน จีอุนขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยอ้างว่าเป็นเพราะฤทธิ์สุราและพระพักตร์ของพระองค์ก็งดงามยิ่งนักภายใต้แสงจันทร์ แต่องค์รัชทายาทไม่ทรงถือสาและเข้าพระทัยโดยมองเป็นเรื่องขบขัน นอกจากนั้นพระองค์ยังทรงประทานขนมหวานเป็นรางวัลสำหรับความเหน็ดเหนื่อยในการต้อนนรับคณะทูตจีน
ต่อมาเมื่อรู้ว่าทุกคนได้รับของประทานจากองค์รัชทายาทเช่นกัน เขาจึงรู้สึกน้อยใจและไปปรึกษาผู้ช่วยสองพี่น้องคนสนิทของเขาพร้อมกับคำถามที่ว่าเมื่ออีกฝ่ายถูกจูบแต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลยและยังมีน้ำใจให้กับคนอื่นๆ เหมือนกันอีก ยองจีจึงตอบว่าเป็นอาการของคนแอบชอบจึงรู้สึกน้อยใจเมื่อตั้งความหวังว่าตนเองสำคัญเพียงผู้เดียว
ฝ่าบาททรงปรึกษากับท่านชอนกุนเพื่อให้เตรียมรับมือกับท่านซังฮอนที่ขอสิทธิการพัฒนาที่ดินในยอยอนจากจีน เพราะทรงเกรงว่าท่านซังฮอนกำลังจะสร้างกองทัพของตนเอง ท่านซังฮอนรู้ว่าฝ่าบาทเสด็จออกนอกวังในตอนกลางคืน จึงสอบถามกับขันทีคนสนิทซึ่งปกปิดว่าฝ่าบาทบรรทมทั้งคืนและไม่ได้เสด็จออกไปไหน ท่านซังฮอนจึงทวงบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตภรรยาของเขาไว้เมื่อสิบปีก่อนและข่มขู่เรื่องจดหมายลับที่ซ่อนไว้ในบ้านอาจารย์หลวง
บัณฑิตพัคบอมดูรับรู้อาการจีอุน จึงสรุปว่าเขาเป็นไข้ใจ ไม่ว่าจีอุนจะไปที่ไหน เขาก็มองเห็นแต่ใบหน้าขององค์รัชทายาท และเมื่อพบองค์รัชทายาทในห้องเก็บตำรา เขาก็ยังคงคิดว่าเป็นภาพหลอน ชินโซอึนต้องนำของไปให้พ่อของนางในวังหลวง จึงแวะรับโนฮากยองซึ่งเป็นเพื่อนสนิทไปด้วยกัน พระพันปีเสด็จผ่านแถวนั้นและทอดพระเนตรเห็นสตรีสองนางนั้นอยู่ไกลๆ เมื่อทรงทราบว่าพวกนางเป็นลูกของขุนนางชั้นสูง จึงทรงคิดเรื่องการอภิเษกขององค์รัชทายาท ระหว่างที่ยืนรอชินโซอึน โนฮากยองเดินเล่นตามกลิ่นของดอกไม้ไปและหยุดอยู่หน้าประตูลับซึ่งเป็นทางเข้าเรือนเก่าของดัมอี องค์รัชทายาทเสด็จมาทางนั้นพอดีจึงประคองฮากยองไว้เมื่อนางเดินสะดุดจนเกือบหกล้ม จากนั้นพระองค์จึงทรงตรัสให้นางไปเดินเล่นที่อื่น ฮากยองหลงรักองค์รัชทายาทตั้งแต่แรกเห็นและคิดว่าจะต้องเป็นชายาของพระองค์ให้ได้
ฝ่าบาทไม่ทรงเห็นด้วยกับการอภิเษกขององค์รัชทายาทและขอให้พระพันปีทรงเลื่อนไปก่อน ท่านซังฮอนรู้ดีว่าฝ่าบาททรงต้องการสนับสนุนองค์ชายเจฮยอนให้เป็นองค์รัชทายาทจึงทรงขัดขวางการอภิเษกทุกครั้ง พระพันปีทรงตรัสว่าจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้เองเพราะเป็นเรื่องของสตรีฝ่ายใน ขณะที่ฝ่าบาทเสด็จออกจากรพะตำหนักของพระพันปี พระองค์สังเกตเห็นพู่ที่ดาบของคิมกาอนซึ่งกำลังรอองค์รัชทายาทเสด็จออกมา
จันอีซึ่งเป็นบ่าวรับใช้ของชินโซอึนเดินชนองค์ชายชางอุนที่ตลาด ทำให้พระองค์ไม่พอพระทัยและต้องการสั่งสอนคนชั้นต่ำ จีอุนเข้ามาห้ามไว้และขอให้องค์ชายวางตัวให้เหมาะสม องค์ชายชางอุนยิ่งไม่พอพระทัยมากขึ้นจนกระทั่งองค์ชายวอนซานเข้ามาช่วยห้ามและขอให้จีอุนพาสตรีทั้งสองนางกลับไปก่อน
องค์ชายจาอึนทรงทราบว่าพระพันปีกำลังจะจัดงานอภิเษกสมรสให้องค์รัชทายาท จึงทรงถามองค์รัชทายาทหากเคยมีใครอยู่ในพระทัยหรือไม่ องค์รัชทายาททรงเล่าว่าในตอนเด็กเคยทะเลาะกับเด็กคนหนึ่งจนตกลงไปในสระน้ำทั้งคู่ แต่พระองค์ทรงช่วยไว้เพราะเขาว่ายน้ำไม่เป็น และถึงแม้จะเป็นการพบกันในช่วงเวลาสั้นๆ แต่พระองค์ทรงคิดว่านั่นอาจจะเป็นรักแรกของพระองค์ก็ได้ องค์รัชทายาททรงเล่าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มในขณะที่องค์ชายจาอึนทรงฟังด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย
จีอุนนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะคิดถึงแต่เรื่องขององค์รัชทายาท เขาจึงไปหาพระองค์ในตอนเช้าตรู่ขณะที่กำลังเสด็จไปซ้อมยิงธนู เขาขอให้พระองค์ทรงสวมกอดเขาสักครั้ง เพราะเขากำลังป่วยและทรมานมาก องค์รัชทายาททรงกอดจีอุนและบอกให้เขาเข้มแข็ง ต่อมาองค์รัชทายาททรงบอกขันทีฮงว่าพระองค์ทรงชอบเขาแต่อีกไม่นานก็ต้องตัดใจ และการสวมกอดเขาก็เป็นสิ่งที่พระองค์ต้องการทำเป็นครั้งสุดท้ายก่อนถึงพิธีอภิเษกสมรส
จีอุนพยายามตัดใจจากองค์รัชทายาทเมื่อรู้ข่าวการอภิเษก องค์ชายจาอึนทรงรู้แล้วว่าจีอุนคือรักแรกขององค์รัชทายาท เพราะเขาคือคนที่พระองค์ทรงช่วยชีวิต จีอุนนึกได้ว่าทำลูกเต๋าของดัมอีหายไป จึงกลับไปหาที่เรือนของนาง ลูกเต๋าสองลูกนั้นทำให้เขาจำเหตุการณ์ในคืนก่อนได้และรู้ว่าไม่ได้ฝันไปที่องค์รัชทายาททรงโน้มตัวมาจูบในขณะที่เขาเมาหลับ จากนั้นเขาจึงรีบไปหาพระองค์เพื่อทูลว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อพระองค์นั้นคือความรักและความถวิลหา