สปอยล์ Kkondae Intern ตอนที่ 7-8
ทุกคนต่างตกใจที่เห็นอาการของยอลชัน แต่ตัวเขาเองกลับตกใจยิ่งกว่า เมื่อเห็นมันชิกกำลังจะช่วยหายใจด้วยวิธีปากต่อปาก เขาพอจะมีสติจึงได้ฉีดยาแก้แพ้ให้ตัวเอง จากการช่วยชีวิตสุนัข ทำให้นางแบบอึนฮเยซูรับพิจารณาการถ่ายโฆษณาให้ เพราะเห็นแก่ยอลชัน
ในเช้าวันทำงาน ได้มีชายแปลกหน้ามาด้อมๆมองๆอยู่ที่หน้าตึกและเดินจากไป ทุกคนในทีมต่างดีใจเมื่อได้เห็นผลงานการโฆษณารวมทั้งท่านประธาน เขาชมเชยยอลชันและคิดว่ามันชิกน่าจะมีส่วนร่วมในผลงานนี้ด้วย มันชิกถามไถ่อาการของยอลชันด้วยความเป็นห่วง
แม้ว่ามันชิกไม่สามารถทำลายโปรเจ็กต์โฆษณาของยอลชันได้ แต่นัมกุงจุนซูก็ยังขอให้เขาร่วมมือต่อไป โดยบอกว่าจะทำออฟฟิศชั้นบนให้ ยอลชันประชุมลูกทีมให้เขียนแผนงานผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเปิดโอกาสให้เด็กฝึกงานได้มีส่วนร่วมรวมทั้งมันชิกด้วย มันชิกรู้สึกดีใจที่ตัวเองจะได้แสดงฝีมือสักที ในที่สุดเขาก็โดนโอดงกึนขโมยความคิดไป และไม่ยอมไปร่วมโต๊ะในมื้อกลางวัน ยอลชันจึงได้สั่งให้เขาปริ้นงานจากคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะของเขา มันชิกเผลอไปกดข้อความลับ ซึ่งเป็นอีเมล์ค่าไถ่ทำให้โดนไวรัสไปทั้งระบบ ซึ่งการแก้ไขจะต้องมีค่าใช้จ่าย ยิ่งดำเนินการช้า ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นไปในแต่ละวัน
มันชิกรู้สึกเสียใจที่ได้ยินสมาชิกในทีมต่อว่าเขาลับหลังและไม่ต้องการให้เขาร่วมทีมอีกต่อไป เขาจึงออกไปหาเพื่อนเก่าที่เป็น รปภ ทุกคนในทีมไม่สามารถติดต่อมันชิกได้ ยอลชันเริ่มรู้สึกกังวล แต่เมื่อกลับมาพูดคุยกัน มันชิกบอกยอลชันว่าจะขอลาออก แต่กลับโดนยอลชันต่อว่าว่าไม่มีความรับผิดชอบ ยอลชันคิดว่าการลาออกของมันชิกอาจทำให้อะไรดีขึ้นก็ได้ ระหว่างที่ใช้ความคิดอยู่นั้น เขานึกได้ว่าเปิดไฟล์ทิ้งไว้ก่อนที่จะสั่งให้มันชิกพิมพ์งาน จนตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่าต้นเหตุของไวรัสอาจเป็นเพราะเขาเองก็ได้
นัมกุงจุนซูและอันซังจงพยายามเกลี้ยกล่อมให้มันชิกกลับไปทำงานอีก แต่เขายืนกรานปฏิเสธจนกระทั่งนัมกุงจุนซูเรียกเขาว่า ท่านรองประธานคนใหม่
ยอลชันกำลังจะบอกลูกทีมถึงเรื่องการลาออกของมันชิก ทันใดนั้นเองมันชิกก็เดินเข้ามา เขาอาสาที่จะไปซื้อกาแฟให้ทุกคนเพื่อเป็นการไถ่โทษ และเช่นเคยเขาอัดคลิปเสียงของยอลชันเพื่อเปิดให้ที่ร้านฟัง
หลังจากที่ได้ฟังคลิปเสียงลับ ทุกคนจึงรู้ความจริงว่าโอดงกึนเป็นคนขโมยความคิดของมันชิกไปจริงๆ แต่ถึงกระนั้นยอลชันก็ยังไม่ยอมรับ เพราะมันชิกไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งที่จริงเขาเองก็รู้แต่แรกแล้วว่าเป็นแผนงานของมันชิก โอดงกึนไม่ยอมลดละที่จะหาคนปล่อยคลิปเสียง จนไปพบปากกาอัดสียงในโต๊ะของอีแทลี จึงเข้าใจว่าเป็นเธอ วันต่อมาโอดงกึนจึงแกล้งใช้งานเธอสารพัดจนมันชิกสงสัย เมื่อเขารู้ว่าอีแทลีเป็นคนอัดคลิปเสียงเพื่อช่วยเขา เขาจึงนัดพนักงานฝึกหัดออกมากินข้าวด้วยกันเพื่อตอบแทน ระหว่างทางกลับอีแทลีรู้ความจริงจากจูยุนซูว่า มันชิกเข้าใจผิดว่าเธอเป็นคนปล่อยคลิปเสียง แท้ที่จริงแล้วเธอตั้งใจอัดเสียงชายลึกลับที่โทรมาหาเธอ แต่มันชิกและโอดงกึนกำลังคุยกันอยู่ตรงนั้นพอดี เสียงจึงถูกบันทึกไปด้วยโดยบังเอิญ
อีแทลียังคงทำงานต่ออยู่คนเดียว และบังเอิญยอลชันกลับเข้าไปพบ จึงถามเธอแบบอ้อมๆ ด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่ได้ฟังเสียงบันทึกในโทรศัพท์ ทำให้อีแทลีแอบปลื้มยอลชันอยู่ลึกๆ
มันชิกไปเข้าคอร์สที่สถาบันคอมพิวเตอร์เพื่อทำแผนงานให้สำเร็จ และคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับเขา ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ลดละความพยายาม จนกระทั่งได้นำผลงานไปเสนอยอลชัน แต่กลับถูกเขาต่อว่าอีก ต่อมามันชิกได้รู้ความจริงว่ายอลชันคือคนปล่อยไวรัส
มันชิกมีอาการเลือดออกทางจมูก ยอลชันคิดว่าตนเองเป็นต้นเหตุจึงพยายามที่จะช่วยเขา และสารภาพว่ากำลังจะบอกมันชิกเรื่องโปรแกรมไวรัส มันชิกถามยอลชันว่าทำแบบนี้เพราะเรื่องราวในอดีตใช่ไหม และยังบอกยอลชันอีกว่าคุณลุงเจ้าของสูตรซุปข้าวหัววัวยังมีชีวิตอยู่