สปอยล์ Lovers of the Red Sky ตอนที่ 15
เมื่อฮารัมไปเข้าเฝ้าพระเจ้าซองโจ เขาจึงได้รู้ความจริงว่าพระองค์ทรงรู้มาตลอดว่าเขาคืออิลวอลซองและกำลังคิดแก้แค้นราชวงศ์ด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นผู้สั่งฆ่าพ่อของเขา พระเจ้าซองโจทรงเล่าว่าพ่อของเขาถูกพญามารในร่างของฮารัมฆ่าตายและมันไม่ใช่ความผิดของเขา หลังจากนั้นพระองค์จึงทรงพาฮารัมเข้าวังเพื่อปกป้องเขาและคนนรอบตัวของเขาด้วยและทรงมีรับสั่งจัดพิธีผนึกพญามารขึ้นอีกครั้ง พระองค์ทรงสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายจากพญามารอีกตลอดพระชนม์ชีพที่ยังเหลืออยู่ของพระองค์
ชอนกีรีบไปที่ลานประหารก่อนที่สมาชิกของสมาคมจิตรกรแบคยูจะถูกฆ่า นางต่อว่าองค์ชายจูฮยางต่างๆนาๆ พระองค์จึงทรงตรัสว่าทุกอย่างเป็นเพราะนางไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์ จึงทำให้ทุกคนต้องตายรวมทั้งพ่อของนางด้วย ก่อนที่เพชรฆาตจะบั่นคอผู้ใด พระเจ้าซองโจเสด็จมาพร้อมกับองค์ชายยังมยองและฮารัม สมาชิกของสมาคมจิตรกรทุกคนจึงรอดชีวิตและได้รับการปล่อยตัว แมฮยางที่เห็นเหตุการณ์คิดว่าตอนนี้ฮารัมเปลี่ยนใจไปเข้าข้างศัตรูอย่างพระเจ้าซองโจเสียแล้ว นางจึงถอนตัวจากฮารัมและทำลายวอลซองดังทิ้ง ต่อมาพระเจ้าซองโจจึงมีพระบัญชาให้ขังองค์ชายจูฮยางและพวก องค์ชายจูฮยางทรงโทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะเสด็จพ่อทรงลำเอียงและรักแต่องค์ชายยังมยองเท่านั้น
ฮารัมพาชอนกีไปโปรยอัฐิของพ่อที่ริมทะเลซึ่งเป็นสุสานของตระกูลฮาที่มีพลังแห่งวารี จากนั้นเขาได้มอบแหวนหยกให้นางอีกครั้งและบอกว่าขอให้จับมือของเขาไว้เมื่อใดที่เกิดอันตรายขึ้นกับเขา และเขาก็สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างนางตลอดไปไม่ว่าหิมะจะตกหรือฝนจะโปรยปราย
ในคืนนั้นฮารัมพาชอนกีไปพักค้างคืนที่บ้านเดิมของเขาซึ่งยังมีบ่าวรับใช้อยู่ที่นั่น ขณะที่ชอนกีหลับ พญามารในตัวของฮารัมได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับกรงเล็บที่แหลมคมและพยายามจะเอาดวงตาคืนจากชอนกี ฮารัมพยายามต่อสู้กับตัวเองเพื่อไม่ให้ชอนกีถูกทำร้ายจนกรงเล็บไปขีดข่วนผนังจนเป็นรอย จากนั้นเขาจึงตัดสินใจไปจากนางเพื่อหาหนทางที่พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันโดยไม่ให้นางตกอยู่ในอันตราย ขณะที่ชอนกีก็คิดจะวาดภาพเหมือนกษัตริย์อีกครั้งเพื่อผนึกพญามาร
พระเจ้าซองโจทรงมีรับสั่งให้องค์ชายยังมยองดำเนินการพิธีผนึกพญามารอีกครั้งอย่างเป็นความลับโดยไม่ให้คนขององค์ชายจูฮยางรู้อย่างเด็ดขาด ชอนกีไม่รู้สาเหตุที่ภาพกษัตริย์ขาดวิ่นและขาดสิ่งสำคัญอะไรไปจึงทำพิธีไม่สำเร็จ จนกระทั่งฮวาชาหรือภูตแห่งภาพวาดปรากฎตัวและบอกว่าเป็นเพราะนางไม่ได้ทำข้อตกลงกับเขา จากนั้นจึงขอให้นางทำข้อตกลงก่อนจะลงมือวาดภาพใหม่เพราะข้อตกลงนั้นจะทำให้พลังชองเขาเข้าไปอยู่ในภาพจนทำให้เป็นภาพเหมือนศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์โดยบอกว่าเขาไม่ได้ต้องการชีวิตของนางนอกจากภาพวาด
วอลซอนพาจิตรกรชิมแดยูซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตจิตรกรผู้มีญาณคันยุนกุกหรือฮวาชามาเข้าเฝ้าองค์ชายยังมยองและทูลว่าฮวาชามาบอกนางว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะทำพิธีปิดผนึกและหากจะวาดภาพเหมือนศักดิ์สิทธิ์ให้เสร็จก่อนพิธี จิตรกรชิมแดยูและชอนกีจะต้องร่วมมือกัน แต่เพราะข้อมือของชอนกียังบาดเจ็บและยังมีพลังของพญามารหลงเหลืออยู่ นางจึงจะต้องเริ่มวาดและเสร็จสิ้นในวันทำพิธี
ฮารัมมีอาการกำเริบและหมดสติไปขณะที่พลังพญามารในตัวของเขาพยายามจะปรากฏอีกครั้ง เขาได้เจอกับชายชราที่อยู่ในคุกหิน ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือท่านปู่ของเขา
ท่านได้บอกว่าวิธีเดียวที่จะผนึกพญามารให้สำเร็จ จะต้องผนึกไว้ในถ้วยโถอันศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นซึ่งก็คือภาพเหมือนกษัตริย์นั่นเอง และหากฮารัมไม่ผนึกพญามารไว้มันจะกัดกินเขาและโลกนี้ก็จะเกิดการนองเลือด ท้ายที่สุด ฮารัมก็จะฆ่าหญิงที่รัก ฮารัมจะต้องทำลายแหวนหยกวงนั้นและเข้าร่วมพิธี เพราะตราบใดที่ยังเก็บแหวนไว้มันจะทำให้เขาต้องอยู่ร่วมกับพญามารไปตลอด
พระเจ้าซองโจทรงขอให้ร่างทรงมีซูกลับใจและทำพิธีปิดผนึกพญามารในคืนพระจันทร์สีเลือดที่กำลังจะมาถึง ฮารัมรับปากกับองค์ชายยังมยองว่าเขาจะมาร่วมพิธีและฝากให้พระองค์ทรงดูแลชอนกีหากว่าเขามาไม่ได้หรือทำพิธีไม่สำเร็จ แมฮยางไปหาองค์ชายจูฮยางที่คุกเพื่อทูลว่านางถูกฮารัมหักหลังและต่อไปนี้นางจะอยู่ฝ่ายพระองค์และจะสนับสนุนให้พระองค์ได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป
ในคืนพิธี ฮารัมนำแหวนไปทำลายทิ้งและพยายามต่อสู้กับพญามารไม่ได้ควบคุมเขา ในขณะที่ร่างทรงมีซูไม่สามารถสัมผัสพลังแห่งวารีได้แต่องค์ชายยังมยองขอให้ร่างทรงทำพิธีต่อไปเพราะทรงเชื่อว่าฮารัมจะต้องมาร่วมพิธี พระเจ้าซองโจประทับในท้องพระโรง ชอนกีและจิตรกรชิมแดยูเตรียมเริ่มวาดภาพเหมือนในพิธี ชอนกีเพิ่งรู้ว่าแหวนวงนั้นหายไปและเป็นห่วงฮารัมที่กำลังเดินทางไปร่วมพิธี..