สปอยล์ Lovers of the Red Sky ตอนที่ 4
ฮารัมแน่ใจแล้วว่าชอนกีคือเด็กสาวที่เขารู้จักเมื่อสิบเก้าปีก่อน องค์ชายจูฮยางและร่างทรงมีซูแอบซุ่มดูอยู่ มีซูจำได้ว่าฮารัมก็คือลูกชายของฮาซองจินที่ถูกพญามารสิงร่างในพิธีขอฝน
องค์ชายยังมยองมาตามหาฮารัม และแอบมองชอนกีด้วยสายตาอ่อนโยน ชอนกีไม่เชื่อว่าเขาคือองค์ชายและไม่อนุญาตให้เข้าไป และยังล่วงเกินอีกว่าหากเขาคือองค์ชายจริงๆ นางก็คงเป็นชายาขององค์ชายแล้ว พวกเขาถกเถียงกันเสียงดังจนฮารัมเดินออกมา ขณะที่องค์ชายยังมยองและฮารัมทักทายกันนั้น ชอนกีจึงรีบวิ่งไปแอบเมื่อรู้ว่าเขาคือองค์ชายจริงๆ ฮารัมทูลองค์ชายว่าเขาหมดสติอยู่ในเกี้ยวและจำเหตุการณ์ไม่ได้ เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตนเองมาอยู่ที่นี่แล้ว ก่อนที่ฮารัมจะกลับไปพร้อมกับองค์ชายยังมยอง เขาได้เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ชอนกี องค์ชายจูฮยางที่ซุ่มดูเหตุการณ์อยู่กำลังสงสัยว่าพระอนุชาของพระองค์กับฮารัมเป็นเพียงเพื่อนสนิทกันเท่านั้นหรือเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาฮารัมไม่เคยแสดงท่าทีอะไรเลย ร่างทรงมีซูจึงทูลว่าฮารัมทำตัวน่าสงสัยจึงต้องสืบดูเรื่องนี้ต่อไป
รอยแผลเป็นที่หน้าท้องขององค์ชายจูฮยางซึ่งเกิดจากการถูกพญามารทำร้ายเมื่อหลายปีก่อนขณะที่ถูกเข้าสิงร่าง ร่างทรงมีซูเคยทูลว่าไม่อาจรักษาให้หายได้และองค์ชายจะต้องเชื่อมต่อกับวิญญาณที่สร้างมันขึ้นมาอีกครั้ง ถึงอย่างไรองค์ชายจูฮยางก็ตั้งพระทัยว่าจะต้องตามหาพญามารให้เจอ
องค์ชายยังมยองทูลพระเจ้าซองโจว่าสภาพศพพลทหารมิได้เกิดจากฝีมือมนุษย์ พระเจ้าซองโจจึงทรงนึกถึงพญามารในวันทำพิธีผนึกวิญญาณลงในภาพวาด พระองค์ทรงมีเรื่องไหว้วานองค์ชายยังมยองในงานประลองวาดภาพแมจุกฮอนที่กำลังจะมาถึงซึ่งองค์ชายยังมยองเป็นผู้จัดขึ้นนั้น
พระเจ้าซองโจไม่สบายพระทัยเรื่องฝูงนกฮูกเพราะเกรงว่าจะเกิดเรื่องอาเพศ แต่ฮารัมทูลว่านกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งซึ่งหมายความว่าพระองค์จะทรงมั่งคั่งด้วยทรัพย์สินและอำนาจ แต่ฮารัมก็สงสัยว่าพระองค์ทรงกังวลเรื่องใดกันแน่ พระเจ้าซองโจทรงยอมรับว่าพระอาการของพระองค์ทรุดลงทุกวัน จึงทรงกังวลเรื่องการสละราชสมบัติให้องค์รัชทายาท จึงมีพระประสงค์ให้ฮารัมหาฤกษ์สำหรับพิธีนี้
หลังจากเจรจากับคณะทูตจากแคว้นยอนสำเร็จลุล่วงแล้ว ซึ่งมียูชียงพระอนุชาขององค์จักรพรรดิอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ฮารัมทูลแย้งขอให้พระองค์ทรงพิจารณาองค์ชายจูฮยางและองค์ชายยังมยองด้วย เพราะองค์รัชทายาทกำลังประชวรด้วยโรคที่ไม่มีใครรู้จัก แต่พระเจ้าซองโจทรงยืนกรานที่จะให้องค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนในฐานะพระราชโอรสองค์โต ไม่ว่าอนาคตของเขาจะเป็นเช่นไรก็ตาม
อาจารย์ชเววอนโฮไม่ต้องการให้ชอนกีเข้าร่วมการแข่งขันวาดภาพแมจุกฮอน จึงสั่งให้นางวาดภาพให้เสร็จตรงตามเวลาซึ่งเขาคิดว่าชอนกีคงไม่อาจทำได้ ชเววอนโฮไม่ได้ใส่รายชื่อของชอนกีในการแข่งขัน นางจึงแอบใส่รายชื่อตนเองในขณะที่คังชุนบกกำลังนำรายชื่อไปส่งที่แมจุกฮอน แต่คังชุนบกกลัวความผิดจึงให้ชอนกีนำรายชื่อไปส่งเอง ชอนกีไม่อยากสู้หน้าองค์ชายยังมยองเพราะรู้สึกผิดที่เคยล่วงเกินพระองค์ จึงปลอมตัวโดยใส่ชุดสวยและคิดว่าองค์ชายคงจำนางไม่ได้
ขณะที่ชอนกีกำลังนึกถึงและห่วงใยฮารัมและตั้งใจว่าจะขอวาดภาพใบหน้าของเขาหากได้พบกันอีกครั้ง ชอนกีได้พบกับฮารัมที่แมจุกฮอนในขณะที่องค์ชายยังมยองเสด็จไปที่อื่น แม้ว่าชอนกีจะไม่ได้บอกว่านางเป็นใคร แต่ฮารัมก็จำเสียงของนางได้ นางจึงเล่าเรื่องคำพูดที่เคยล่วงเกินองค์ชายยังมยองให้เขาฟัง
ฮารัมหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู ยังไม่ทันที่ชอนกีจะฝากรายชื่อไว้กับฮารัม องค์ชายยังมยองก็เสด็จกลับมาเสียก่อนและจำนางได้ เมื่อองค์ชายรู้ว่าชอนกีมาจากสมาคมจิตรกรแบคยู พระองค์จึงตรัสว่าสนิทกับอาจารย์ชเว ชอนกีจึงไม่ยอมมอบรายชื่อให้พระองค์และเกิดการยื้อแย่งจนกระดาษรายชื่อขาดเป็นสองส่วน ชอนกีเกือบล้มหงายหลังแต่ฮารัมเข้ามารับไว้ได้ทัน รูปผีเสื้อที่ต้นคอของเขาเปล่งประกายอีกครั้งเมื่อทั้งคู่สัมผัสร่างกายกัน
หลังจากนั้นฮารัมช่วยไกล่เกลี่ยเรื่องบาดหมางระหว่างชอนกีกับองค์ชาย องค์ชายจึงพูดหยอกล้อนางว่าหากพระองค์ฆ่านางทิ้ง พระองค์ก็จะทรงเป็นม่ายที่ฆ่าชายาตัวเอง ฮารัมได้ยินดังนั้นจึงแกล้งทำถ้วยน้ำชาหก หลังจากชอนกีกลับไปแล้ว องค์ชายได้มอบบัตรเชิญให้ฮารัมและตรัสว่าพระองค์จะทรงคัดเลือกจิตรกรที่เก่งที่สุด
ฮันกยอนยังไม่พบจิตรกรที่วาดภาพเลียนแบบได้เสมือนตามที่องค์ชายยังมยองมีรับสั่งให้ตามหา แต่องค์ชายทรงคาดหวังว่าจิตรกรผู้นั้นจะเข้าร่วมประกวดในงานครั้งนี้ด้วย ฮันกยองทูลว่าจิตรกรที่จะมาวาดภาพของพระเจ้ายองจงที่เสียหายเพราะถูกไฟไหม้นั้น จะต้องเป็นผู้มีญาณวิเศษเช่นเดียวกับบรรพบุรุษของพวกเขาที่เคยวาดเอาไว้
อาการของฮงอึนโอทรุดหนักลงจนเกือบถึงวาระสุดท้ายของชีวิต หมอจึงแนะนำชอนกีว่าวิธีเดียวที่ยังพอมีความหวังอยู่บ้างก็คือยาชองชิมวอนซึ่งเป็นยาที่ดีที่สุดในการรักษาอาการทางจิต และมีเพียงเชื้อพระวงศ์เท่านั้นที่มียาชนิดนี้ ชอนกีตั้งใจจะชนะการประกวดวาดภาพในครั้งนี้ให้ได้เพื่อจะได้นำยามารักษาท่านพ่อ เพราะได้ยินมาว่าองค์ชายยังมยองจะทำตามคำขอของผู้ที่ชนะการประกวด
กีแซงแมฮยางนำตำราโหราศาสตร์มาให้หฮารัมและขอตัวไปหาองค์ชายจูฮยางที่เสด็จมาหา ฮารัมจึงเตือนนางให้ระวังตัวเพราะองค์ชายจูฮยางเป็นคนขี้ระแวงมาก ฮารัมวางแผนการบางอย่างในงานแมจุกฮอน เพราะคิดว่ามันเป็นโอกาสทองที่จะแก้แค้น แม้มูยองจะเตือนว่าตัวตนที่แท้จริงของฮารัมจะถุกเปิดโปง จากข้อมูลที่มูยองสืบมาได้นั้น ทำให้ฮารัมรู้ว่าชอนกีคือเด็กผู้หญิงคนนั้นจริงๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่านางกลับมามองเห็นได้อย่างไร
เมื่อรู้ว่าพระเจ้าซองโจจะสละราชสมบัติให้องค์รัชทายาทที่กำลังประชวรอยู่ องค์ชายจูฮยางจึงสั่งให้ฮันยองฮเวทำให้องค์รัชทายาทหลับไปตลอดกาล แต่เขาคัดค้านว่ายังเร็วเกินไปและควรทำให้ข้าราชบริพารยอมรับมากกว่านี้โดยดึงองค์ชายยังมยองมาเข้าพวก
ฮารัมที่สวมหน้ากากอิลวอลซองสั่งมูยองให้เปิดวอลซองดังอีกครั้ง และทำให้จองซอนรเยมาเหยียบที่นี่ไม่ได้อีก จองซอนรแอบได้ยินจึงรีบกลับไปที่วอลซองดังเพื่อเก็บข้าวของที่มีค่าและเคียดแค้นชอนกีที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องเป็นแบบนี้
ชอนกีถูกจับได้ว่าแอบใส่ชื่อของตัวเองในการแข่งขันวาดภาพ ชเววอนโฮจึงลงโทษนางโดยการขังไว้ในห้องแห่งความดีและสั่งให้วาดภาพให้เสร็จ องค์ชายจูฮยางเสด็จไปร่วมงานนี้ด้วยตามแผนการที่จะโน้มน้าวองค์ชายยังมยอง ชายลึกลับที่มีดวงตาสีเขียวใช้พลังปลดล็อคห้องแห่งความดีและบอกกับชอนกีว่าเขามาเอารูปภาพมุนแบซึ่งเป็นภาพปัดเป่าวิญญาณและภาพเซฮวาซึ่งเป็นภาพวาดฉลองขึ้นปีใหม่ หลังจากมอบภาพให้เขาแล้ว เกิดพลังบางอย่างระหว่างภาพวาดกับดวงตาของเขา ชอนกีจึงถือโอกาสนี้วิ่งออกไปหาพ่อที่ตลาดและบอกว่าจะนำชัยชนะกลับมาให้ได้
เมื่อไปถึงหน้างาน ชอนกีไม่มีบัตรประจำตัว จองซอนรเยมาดักรอเพื่อที่จะลักพานางไป ฮารัมเข้ามาขัดขวางและแย่งตัวนางมาโอบไว้โดยบอกว่าเขาจะพานางเข้าไปในงานนี้เอง