สปอยล์ Memorist ตอนที่ 3-4
ยุนเยริมหนีออกมาจากชั้นใต้ดินได้ แต่เมื่อขึ้นก็มาก็เจอกับฆาตกรที่รออยู่
ทงแบคสืบหาจนเจอธงที่มีหมูสีแดงอยู่ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าไป อัยการก็บุกมาจับตัวไปซะก่อน
ซอนมีขับรถเข้ามาสืบในหมู่บ้าน จนถึงฟาร์มแห่งหนึ่งน่าสงสัย เธอเดินหาเบาะแสไปเรื่อยๆจนเจอทางลงชั้นใต้ดิน
ซอนมีตัดสินใจลงไปสำรวจคนเดียวจนไปเจอกับฆาตกรที่อยู่ด้านล่าง ซอนมียิงสู้กับคนร้ายแต่สู้ไม่ไหว คนร้ายเงื้อมือจะใช้ค้อนทุบ แต่ทงแบคมาช่วยไว้ได้ทัน
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้
ทงแบคถูกอัยการจับขึ้นรถตู้ไป แต่ระหว่างทาง ทงแบคพูดความลับของแต่ละคนบนรถจนทะเลาะกันเอง สุดท้ายรถเสียหลักคว่ำ ทงแบคเลยย้อนกลับมาที่ฟาร์มนี้
พอทงแบคมาช่วยซอนมี ฆาตกรจึงวิ่งหนี ทงแบคมัวแต่เป็นห่วงซอนมีเลยไม่ได้ตามฆาตกรไป
เมื่อเห็นว่าซอนมีไม่เป็นไร ทั้งคู่ก็เดินตามรอยเลือดจนเจอฆาตกรกำลังพึมพัมอะไรอยู่ แล้วทิ้งตัวไปด้านหลังซึ่งเป็นหลุมลึก จนตาย
ทั้งคู่สำรวจชั้นใต้ดิน เจอเหยื่อสองคน คนหนึ่งไม่ถูกฆ่า แต่ยุนเยริมถูกฆ๋าตายคาเตียงไปแล้ว
เรื่องนี้ทงแบคสะเทือนใจมากจนแค้นฆาตกรอย่างมาก
อัยการย้อนกลับมาตามจับทงแบคอีกรอบ แต่เห็นเหยื่อที่่ตายก็เลยรู้แล้วว่าทำไมทงแบคถึงรีบมาขนาดนี้
...
อัยการร่วมมือกับนักข่าว ให้พยายามทำให้ตำรวจเป็นฝ่ายผิด ที่ไปช้าเกินไป ทำให้เหยื่อตาย
แต่ทางผู้บัญชาการตำรวจ ก็ใช้ข่าวที่หัวหน้าอัยการซื้อบริการทางเพศเด็กผู้หญิงมาทำให้คนมุ่งเป้าไปที่อัยการแทน
...
ซอนมีมั่นใจว่า มันต้องผู้สมรู้ร่วมคิดกับฆาตกรแน่ๆ และน่าจะเป็นผู้บงการที่มีชื่อเสียง เป็นคนมีอำนาจด้วย
ฆาตกรที่ตายไปน่าจะเป็นแค่คนทำตามคำสั่งหรือเป็นคนที่ถูกล้างสมองมา
ซอนมีใช้ไหวพริบคิดและสืบข้อมูลจนเจอข้อมูลที่สัมพันธ์กันคือ เหยื่อทุกรายคือ ผู้หญิงที่เคยได้รับทุนจากลัทธิแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าลัทธิก็คือ พัคกีดันช ซอนมีจึงไปที่โบสถ์ของลัทธินี้
ภายในโบสถ์กำลังทำพิธีให้พรกับคนที่มาเป็นลูกศิษย์ โดยพัคกีดันจะจับหัวและพูดคำศักดิ์สิทธิ์ แต่จู่ๆคนที่กำลังรับพร ก็จับข้อมือพัคกีดัน แล้วเปิดหน้าตัวเองขึ้นมา เป็น ทงแบค
...
ทงแบคเห็นความทรงจำของพัคกีดันแล้วเลือดขึ้นหน้า จะซัดพัคกีดันแต่ซอนมีเข้ามาห้ามไว้ซะก่อน
พัคกีดันยั่วโมโหทงแบค เพื่อให้ทงแบคทำร้ายตน ทงแบคก็พยายามระงับอารมณ์แต่ก็ไปหักนิ้วเขาจนได้
จากนั้น ทงแบคกับซอนมีก็ออกจากโบสถ์ไป
...
ซอนมีพยายามขอหมายค้นจากอัยการ แต่ไม่สำเร็จ เพราะอัยการกลางรับเงินจากพัคดงกันทั้งนั้น
ทงแบคไปคุยกับหัวหน้าอัยการเขตตะวันตก ขอให้ออกหมายค้นบ้านพัคกีดัน เพื่อแลกกับการมอบตัว และถ้าได้หลักฐานมัดตัวพัคกีดัน อัยการก็จะได้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ซึ่งอัยการก็ตอบตกลง
อัยการกับทีมไปบ้านพัคกีดันด้วยตนเอง ซอนมีกับทีมสืบสวนภาคก็ไปด้วย ส่วนทงแบคต้องแอบดูอยู่ห่างๆไม่งั้นจะผิดกฎหมาย
อัยการกับซอนมีเข้าบ้านไม่ได้เพราะบ้านมีระบบความปลอดภัย แม่บ้านภายในก็ไม่ยอมตอบ จนกระทั่งมีอัยการจากสำนักงานกลางมา ซึ่งเป็นคนของพัคกีดันทั้งหมด เข้ามาถ่วงเวลาซักพัก พอได้สัญญาณก็เปิดให้ตำรวจเข้าไป ซึ่งที่ถ่วงเวลาก็เพื่อให้แม่บ้านภายใน เผาหลักฐานทุกอย่างให้หมด
พอตำรวจเข้าไปก็ไม่พบหลักฐานใดๆเลย และต้องกลับบ้านมือเปล่า
...
เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ทงแบคมีคดี แต่ยังทำให้ทีมของซอนมีถูกยุบอีกด้วย เพราะไปเล่นกับพัคกีดัน
...
ซอนมียังไม่ยอมแพ้ เธอเรียกทงแบคกับเพื่อนทงแบคมาประชุมนอกรอบ เพื่อหาว่า มีอะไรที่พัคกีดันลืมทำลายทิ้ง ซึ่งนั่นคือไม่อยู่ในความทรงจำและทงแบคก็ไม่เห็นด้วย
มีจุดน่าสงสัยที่หายไปก็คือ ถุงมือยาง ยังไม่ถูกทำลาย ทงแบคกับซอนมีเลยกลับไปที่ชั้นใต้ดินนั้นแล้วหาใช้กล้องส่องตามท่อ จนเจอสิ่งของที่มีลักษณะคล้ายถุงมือยาง แต่ทั้งคู่ไม่สามารถเอามาได้ต้องให้ทางพิสูจน์หลักฐานมาช่วย แต่ยังไม่ทันที่จะทำอะไร ก็มีเสียงรถใหญ่ๆอยู๋ด้านบน ทั้งคู่จึงออกมาดู
ปรากฏว่าเป็นรถเทปูน จะมาเทปูนปิดชั้นใต้ดิน ซอนมีโวยวายว่านี่เป็นที่เกิดเหตุทำแบบนี้ได้ไง จนมีคนๆหนึ่งลงจากรถมา เป็นหัวหน้าอัยการที่โดนข่าวฉาวจนต้องออกจากการเป็นอัยการ ตอนนี้เขาเป็นทนายที่ไปรับใช้พัคกีดันแทนแล้ว
ทนายคนนั้นจับซอนมีและทงแบคไว้ แล้วให้คนเทปูนลงไปในชั้นใต้ดินเพื่อฝังให้ราบคาบ
...
ทงแบคฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาล หมอและพยาบาลเข้ามาและเอาคลิปจากกล้องให้ดูว่า ทงแบคลุกขึ้นมาอยู่บ่อยๆ บางทีก็ไปนั่งอยู่ข้างนอกเป็นชั่วโมง ต้องไปตามเข้ามา แต่ทงแบคกลับไม่รู้และจำอะไรไม่ได้เลย
ทงแบคต้องถูกสอบสวนต่อหน้าสื่อมวลชน แต่ระหว่างสอบสวนทงแบคทนไม่ไหว พูดหมดว่าตัวการใหญ่หลอกเด็กไปข่มขืนและฆ่า และเขาก็คือ พัคกีดัน
อัยการออกหมายจับทงแบคแต่ถูกยกเลิกเพราะมีประชาชนเข้าข้างทงแบคเป็นจำนวนมากไม่แพ้กัน
...
ซอนมีให้ทีมไปรับทงแบคมาที่โบสถ์ของพัคกีดัน
มีคนถูกฆ่าตายในโบสถ์ ซึ่งคนที่ถูกฆ่าคือ พัคกีดัน
ซอนมีให้ทงแบคสแกนความทรงจำของพยานที่อยู่ในโบสถ์ทุกคน แต่ทงแบคสแกนจนเหงื่อตกกลับไม่พบภาพตอนพัคกีดันถูกฆ่าเลย มันถูกลบเฉพาะฉากนั้นออกไป