สปอยล์ Military Prosecutor Doberman ตอนที่ 9
โนฮวายองบอกกับทนายยงมุนกูว่าเธอลงมือตัดขาของวอนกีชุนด้วยตัวเอง และรู้มานานแล้วด้วยว่าชาอูอินคือลูกสาวของประธานชาโฮชอลที่ตายไปแล้ว ยงมุนกูเตือนฮวายองไม่ให้ไว้ใจอูอินและแบมันเพราะเขาเชื่อว่าสองคนนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกัน
อูอินและแบมันต้องการแฉธาตุแท้ของโนฮวายอง จ่ากูซึ่งเป็นพยานในคดีวอนกีชุนเตรียมพร้อมแถลงข่าวในวันเดียวกับพี่ชายของคิมฮันยงจะผ่าตัดสมอง แบมันกดดันวอนกีชุนให้เอ่ยชื่อผู้บงการ โดยรับปากว่าจะขอลดหย่อนโทษให้ แต่กีชุนเอ่ยได้เพียงชื่อโนเท่านั้น เพราะพยาบาลเดินเข้ามาในห้องเสียก่อน แค่ชื่อโนคำเดียวก็ทำให้แบมันมั่นใจได้แล้วว่าฮวายองคือคนบงการ วอนกีชุนโทรบอกโนฮวายองว่าแบมันน่าจะรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วและเตรียมจัดแถลงข่าวพร้อมกับพยาน รวมทั้งเรื่องที่เธอตัดขาของเขาด้วย
อูอินทำรายงานความผิดของวอนกีชุนเสนอให้นายทหารพระธรรมนูญซอจูฮยอกเพื่ออนุมัติออกหมายจับ แต่จูฮยอกไม่อ่านรายงานของเธอและกล่าวว่าเธอไม่มีหลักฐาน อูอินจึงให้เวลาจูฮยอกสามสิบนาทีก่อนที่จ่ากูจะแถลงข่าว เพราะจ่ากูคือพยานคนเดียวในเหตุการณ์ที่วอนกีชุนยิงลูกน้องตัวเอง หากจูฮยอกไม่ยอมออกหมายจับวอนกีชุน อูอินก็จะเอาผิดจูฮยอกในฐานสอบสวนเหตุการณ์ในครั้งนั้นผิดพลาดจนทำให้เรื่องวีรบุรุษทุ่นระเบิดกลายเป็นเรื่องหลอกลวงประชาชน นอกจากนั้นอูอินยังขอให้ยกเลิกการพักงานของแบมันซึ่งจูฮยอกขอตัดสินใจหลังจากดูการแถลงข่าว
แบมันอยู่ที่ห้องแถลงข่าวและโทรติดต่อกับจ่ากูที่กำลังขับรถมอเตอร์ไซค์มาที่งาน แต่ระหว่างทางจ่ากูโดนลูกน้องของวอนกีชุนตามประกบและลักพาตัวไป โดยที่ยังไม่ได้วางสายจากแบมัน อูอินปลอมตัวเป็นทหารหญิงอันยูราเพื่อออกจากฐานและขอให้แบมันถ่วงเวลานักข่าวไว้เพราะเธอจะไปตามหาจ่ากูกลับมาให้ได้ ขณะที่วอนกีชุนและลูกน้องกำลังซ้อมจ่ากู อูอินปลอมเป็นสาวผมแดงเพื่อเข้าไปช่วยจ่ากูและให้เขารีบขับรถไปที่ห้องแถลงข่าวทันที คังฮาจุนนำกระสุนที่เพิ่งผ่าตัดออกจากหัวของผู้บังคับกองร้อยหน่วยลาดตระเวนซึ่งเป็นพี่ชายของสิบโทคิมฮันยงมามอบให้แบมันซึ่งเขายืนยันต่อหน้านักข่าวทุกคนว่ามันคือกระสุนจริงและไม่ใช่เศษระเบิดตามที่เคยเป็นข่าวออกไป การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีและเมื่อผู้บังคับกองร้อยหายดีเมื่อไร เขาก็จะให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนเรื่องขาของวอนกีชุน แบมันขอให้นักข่าวติดตามต่อไปว่ากีชุนตัดขาตัวเองเพื่อเป็นวีรบุรุษหรือมีผู้ชักใยบงการอยู่เบื้องหลังกันแน่
อูอินเผชิญหน้ากับวอนกีชุนตัวต่อตัวเพื่อให้เขาสารภาพว่าโนฮวายองคือคนบงการให้เขาให้การเท็จในคอกพยานเมื่อหกปีก่อนเพื่อไล่พ่อของเธอออกจากไอเอ็มดีเฟนส์ วอนกีชุนไม่ยอมพูดความจริงจึงโดนอูอินซ้อมจนหมดสติไป รมต.อีแจชิกไม่พอใจกับการแถลงข่าวที่เกิดขึ้นและโทรไปต่อว่าโนฮวายอง วอนกีชุนได้รับความกดดันหลายทางจึงไปทวงบุญคุณและข่มขู่โนฮวายองที่เขายอมเป็นหุ่นเชิดให้เธอมายี่สิบปี เพราะเขาไม่ยอมที่จะตกที่นั่งลำบากเพียงคนเดียว วอนกีชุนขอให้โนฮวายองกู้ชื่อเสียงของเขากลับคืนมาให้ได้ โนฮวายองไม่พอใจพฤติกรรมของวอนกีชุน เธอจึงสั่งซอจูฮยอกให้ออกหมายจับวอนกีชุนทันทีโดยอ้างว่ากีชุนเพิ่งมารับสารภาพกับเธอเอง การลงโทษโดแบมันและชาอูอินถูกยกเลิกตามคำสั่งของ ผบ.ทบ.ฮง
คำสั่งจับกุมวอนกีชุน ทำให้อูอินคิดว่าโนฮวายองไม่ได้ยอมแพ้ง่ายๆแต่เธอกำลังตัดเนื้อร้ายทิ้งต่างหาก ซังกีและอันยูราไปที่บ้านพักของวอนกีชุนเพื่อจับกุม แต่พวกเขาพบว่ากีชุนกลายเป็นศพโดยถือปืนของตนเองอยู่ในมือ ทุกคนจึงสรุปว่าวอนกีชุนฆ่าตัวตาย โดแบมันยึดทรัพย์สินบางอย่างในบ้านพักของวอนกีชุนเพื่อนำมาเลือกใช้เป็นหลักฐาน
แบมันและอูอินสอบปากคำโนฮวายองเกี่ยวกับการตายของวอนกีชุนซึ่งเธอพบเขาเป็นคนสุดท้าย โนฮวายองอ้างว่าวอนกีชุนมารับสารภาพผิด เธอจึงสั่งซอจูฮยอกให้ออกหมายจับ หลังจากนั้นเธอก็กลับไปพักผ่อนที่บ้าน ทนายยงมุนกูโทษแบมันและอูอินที่การสืบสวนของพวกเขาเป็นสาเหตุให้วอนกีชุนตัดขาตัวเองและฆ่าตัวตายในที่สุด หลังจากการสอบปากคำ ยงมุนกูมอบนามบัตรของเขาให้กับอูอินและบอกว่าต่อจากนี้ไปชื่อไอเอ็มจะหายไปตลอดกาลเพราะเขากำลังจะเปลี่ยนชื่อบริษัทและลบเงาอดีตให้หมดเนื่องจากอดีตประธานชาโฮชอลและโนแทนัมทำลายชื่อเสียงของบริษัทจนย่อยยับ
ภาพที่โนฮวายองยิงกรอกปากวอนกีชุน ทำให้เธอยิ้มกริ่มออกมา แบมันนำของกำนัลไปพบ ผบ.ทบ.ฮง เพื่อขอบคุณที่ยกเลิกการลงโทษของเขาและรับปากว่าเขาจะภักดีต่อท่าน ผบ.และภรรยาของเขาตลอดไป