สปอยล์ Moon Lovers ตอนที่ 13
องค์ชายแพคอาเข้าไปรับคมดาบของอูฮีแทนฝ่าบาทและบอกให้นางรีบหนีไป ในขณะที่อาการประชวรของฝ่าบาททรงทรุดหนักจนหมดสติไป พระองค์ทรงรู้ตัวดีว่าเหลือเวลาอีกไม่มาก จึงรับสั่งให้ชเวจีมงและท่านแม่ทัพพัค ช่วยกันดูแลองค์รัชทายาทมูและองค์ชายสี่
องค์ชายสามต้องการปกปิดอาการประชวรและคำสั่งเสียสุดท้ายของฝ่าบาท มิให้ร่วงรู้ถึงองค์รัชทายาทเพื่อหวังจะครองบัลลังก์เสียเอง องค์ชายแปดจึงตรัสว่าพระองค์ทรงปิดทางเข้าออกซงอัคไว้หมดทุกทางแล้ว
ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าอาการของฝ่าบาท ยกเว้นแฮซูที่จะต้องชงชาถวาย ฝ่าบาทรับสั่งให้แฮซูรีบตามองค์รัชทายาทกลับมาให้ได้ ก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ และทรงเตือนนางให้ระวังบุคคลที่จะถามว่าพระองค์สวรรคตแล้วหรือยัง เพราะบุคคลผู้นั้นคือผู้ที่หวังจะยึดบัลลังก์
ระหว่างที่แฮซูกำลังรีบตามหาองค์รัชทายาทอยู่นั้น นางได้พบกับองค์ชายแปด และเขาคือผู้ที่ถามนางว่าฝ่าบาทสวรรคตแล้วหรือยัง แฮซูจึงนึกถึงคำเตือนของฝ่าบาท จากนั้นองค์ชายแปดทรงบอกแฮซูว่า พรุ่งนี้เขาจะร่วมก่อกบฏกับองค์ชายวังโย และสิ่งที่ทรงทำทุกอย่างก็เพื่อนาง
ในที่สุดพระมเหสียูและพระมเหสีฮวังโบ ก็ได้เข้าเผ้าฝ่าบาทเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะหมดลมหายใจ พระองค์ทรงเอ่ยชื่อโอซังกุง ซึ่งเป็นหญิงที่พระองค์ทรงรัก สองพระมเหสีถูกกักตัวอยู่ในนั้น เพื่อมิให้ข่าวการสวรรคตเล็ดลอดออกไปภายนอก
อูฮีต่อว่าองค์ชายแพคอาที่ทำลายแผนการของนาง เมื่อองค์ชายทรงรู้ว่าเสด็จพ่อเคยฆ่าครอบครัวของนางมาก่อน องค์ชายจึงทรงขอโทษแทนเสด็จพ่อ
แฮซูบอกองค์ชายสี่ว่า ป่านนี้ฝ่าบาทคงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว และเล่าแผนการก่อกบฏขององค์ชายแปดกับองค์ชายสามให้ฟัง นางขอร้องให้องค์ชายสี่รีบพาองค์รัชทายาทกลับมาละต้องหยุดองค์ชายสามให้ได้ แต่ขณะนี้องค์รัชทายาทยังอยู่ที่ฮูแพคเจ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางสองวัน เมื่อซงอัคถูกปิดทางเข้าออกทุกทาง แฮซูจึงขอร้องให้อูฮีช่วย เพราะนางเป็นคนเดียวที่รู้ทางลับ อีกทั้งฮูแพคเจยังเป็นบ้านเกิดของนางอีกด้วย องค์ชายแพคอาจึงเสด็จตามอูฮีไปด้วย ส่วนทางนี้องค์ชายสี่วางแผนเตรียมรับมือกับการก่อกบฏ แฮซูจึงขอร้ององค์ชายสี่อย่าทำให้องค์ชายแปดต้องเจ็บตัว
ขณะที่องค์ชายสี่เข้าเฝ้าพระศพของฝ่าบาท ทรงตรัสให้สองพระมเหสีรู้ว่าองค์ชายวังโยและองค์ชายวังอุคกำลังคิดก่อการกบฏ จากนั้นจึงสั่งให้ชเวจีมงและแม่ทัพพัคเตรียมอาวุธและกำลังทหาร เพื่อเตรียมรับมือในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันต่อมา องค์ชายวังโย องค์ชายวังวอน และองค์ชายวังอุค ทั้งสามคนในชุดเกราะเตรียมการอยู่หน้าตำหนักชอนด๊อกจอนของฝ่าบาท องค์ชายวังโยรู้สึกว่ามันเงียบผิดปกติ ราวกับว่ามีการเตรียมการรับมือไว้แล้ว จากนั้นองค์ชายวังอุคทรงตรัสว่า หากองค์ชายสี่เข้ามาขัดขวาง ก็ขอให้ฆ่าทิ้งได้เลย ซึ่งองค์ชายวังโยทรงต้องการเช่นนั้นอยู่แล้ว
ขณะที่องค์ชายวังอุคและองค์ชายสี่ปะทะดาบกันอยู่นั้น องค์รัชทายาทก็เสด็จกลับมาพอดี และตรัสว่าองค์ชายวังอุคเป็นผู้ส่งจดหมายไปบอกให้พระองค์รีบเสด็จกลับมา ในตอนนั้นองค์ชายวังโยเพิ่งรู้ว่าองค์ชายวังอุคหักหลัง และวางแผนการนี้เพื่อจับพระองค์ เมื่อเห็นองค์รัชทายาทเสด็จกลับมาแล้ว ชเวจีมงจึงประกาศให้ทุกคนได้รู้การเสด็จสวรรคตของฝ่าบาท และองค์รัชทายาทมูก็คือพระราชาองค์ต่อไป ทุกคนจึงถวายพระพร ยกเว้นองค์ชายวังโยที่ถูกจับกุม
แฮซูเพิ่งรู้ว่าองค์ชายแปดทรงปกปิดแผนการนี้กับนางเพื่อต้องการลองใจ องค์ชายแปดทรงคิดว่าแฮซูเลือกองค์ชายสี่ นางตัดพ้อว่าองค์ชายแปดไม่เคยเชื่อใจนางเลย ในเมื่อเปลี่ยนรัชกาลแล้ว แฮซูจึงชวนองค์ชายแปดออกไปใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสงบสุข แต่องค์ชายแปดทรงบอกว่า เดี๋ยวปัญหาอื่นก็ต้องตามมาอีก แฮซูรู้สึกว่าองค์ชายแปดทรงเปลี่ยนไปจึงขอตัดใจจากพระองค์
องค์ชายวังโยทรงหนีการไล่ล่าจนถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง ระหว่างปะทะกับองค์ชายสี่ องค์ชายวังโยพลาดท่าตกหน้าผา จนองค์ชายสี่คิดว่าตนเองฆ่าพี่ชาย องค์ชายวังจองทูลพระมเหสียูว่าองค์ชายวังโยตกหน้าผา ทำให้พระมเหสียูทรงเสียพระทัยและโกรธแค้นองค์ชายสี่