สปอยล์ Moon Lovers ตอนที่ 14
สองปีต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าฮเยจง แฮซูได้เลื่อนตำแหน่งเป็นซังกุง ประจำตำหนักทามีวอน องค์ชายวังโซกำลังสงสัยในพฤติกรรมขององค์ชายวังอุค ซึ่งแจ้งในที่ประชุมว่าฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้จัดกองทัพใหม่ โดยที่ฝ่าบาทไม่ทรงเข้าร่วมประชุมเพราะอาการประชวร
องค์ชายแพคอาและอูฮีได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ต่างฝ่ายก็สารภาพว่าคิดถึงกัน ขณะที่แชรยองกำลังนำสมุนไพรไปถวายฝ่าบาท องค์ชายเก้าได้ติดสินบนนาง โดยอ้างว่าเพื่อให้นางดูแลฝ่าบาทเป็นอย่างดี แม้แชรยองไม่ต้องการรับไว้ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธองค์ชายได้ ในถุงสมุนไพรที่ฝ่าบาททรงใช้ในการสรงน้ำนั้น ทำให้พระองค์มีอาการอ่อนเพลียและจำอะไรไม่ได้
องค์ชายแพคอา มอบน้ำหอมให้แฮซูเป็นของขวัญวันเกิด และหยอกองค์ชายวังโซว่ามามือเปล่า แต่หารู้ไม่ว่า ในคืนนั้นองค์ชายวังโซทรงพาแฮซูไปดูดาวด้วยกัน ขณะที่แฮซูกำลังอธิบายเรื่องดวงดาวอยู่นั้น องค์ชายวังโซทรงมองนางด้วยสายตาที่อ่อนโยน จากนั้นจึงทรงตรัสว่า พระองค์ทรงมีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอนาง และไม่อาจตัดใจจากนางได้ องค์ชายวังโซทรงนัดแฮซูในอีกสองวันข้างหน้า เพื่อบอกสิ่งสำคัญกับนาง
อาการขอฝ่าบาทไม่สู้ดีนัก แม้จะเข้าหน้าร้อน แต่พระองค์ก็ยังคงหนาวสั่นและมีอาการนอนไม่หลับ องค์ชายวังอุคจึงทูลขอให้สละบัลลังก์ให้แก่ตนเอง เพราะรู้ความลับบางอย่างของฝ่าบาท องค์ชายวังอุคทรงรับปากว่า หากมอบบัลลังก์ให้แก่เขา เขาจะดูแลฝ่าบาทให้อยู่สุขสบายไปตลอดชีวิต
ฝ่าบาททรงเริ่มมีอาการหวาดระแวง จึงทรงคิดว่าจะส่งองค์หญิงซึ่งยังทรงพระเยาว์นัก เพื่อให้ไปสมรสที่เมืองชีตัน เพราะทรงห่วงองค์หญิงจะไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังทรงหวังว่า ชีตันจะส่งกองทัพมาช่วยในเวลาที่ลำบาก องค์ชายสี่วังโซเห็นเหตุการณ์นี้ จึงทัดทานไว้ ฝ่าบาทจึงเสนอให้องค์ชายวังโซอภิเษกกับองค์หญิง เพื่อจะได้ปกป้องพวกเขาได้
ในวันหยุดของแฮซู นางตั้งใจใส่ชุดสวยและปักผมด้วยปิ่นที่องค์ชายวังโซทรงมอบให้ และไปรอองค์ชายที่หอภาวนาตามที่นัดกันไว้ แฮซูคาดหวังว่าองค์ชายจะทรงขอแต่งงาน แต่ทว่าองค์ชายอ้างว่าพระองค์ทรงลืมว่าเรื่องสำคัญที่จะบอกนั้นคืออะไร หลังจากที่ทรงทราบดีว่าตนเองจะต้องอภิเษกกับองค์หญิงตามที่ฝ่าบาททรงขอร้อง แฮซูรู้สึกเสียใจเมื่อรู้ในภายหลังว่าองค์ชายวังโซกำลังจะอภิเษกกับองค์หญิง
องค์ชายวังอุคไม่พอใจ เมื่อฝ่าบาทรับสั่งว่า องค์ชายวังโซกำลังจะอภิเษกกับองค์หญิง และพระองค์ประสงค์จะสละบัลลังก์ให้องค์ชายวังโซ เพราะเป็นทั้งพระอนุชาและราชบุตรเขย
หลังจากตกหน้าผา วังชิกรยอมได้ช่วยชีวิตองค์ชายวังโยไว้ เขากลับมาหาพระมเหสียูอย่างลับๆ องค์ชายวังจองจึงจะทูลขอให้ฝ่าบาททรงอภัยโทษข้อหากบฏและคืนตำแหน่งให้ แต่องค์ชายวังโยต้องการพียงบัลลังก์เท่านั้น แม้องค์ชายวังจองจะไม่เห็นด้วยที่ฝ่าบาทจะยกบัลลังก์ให้องค์ชายวังโซ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้องค์ชายวังโยก่อกบฏอีก
องค์ชายวังโซไม่พอใจเมื่อเห็นองค์ชายวังจองไปหาแฮซูที่ทามีวอน แต่แฮซูไม่ยอมให้ค้นห้อง โดยอ้างว่านางเป็นคนของฝ่าบาท และหากจะบุกเข้าไปค้นจริงๆ นางยอมตายเสียดีกว่า องค์ชายวังโซจึงยอมกลับไป องค์ชายวังจองทรงถามแฮซูว่า หากวันหนึ่งพี่น้องแตกคอกัน นางจะเลือกอยู่ฝ่ายใด แฮซูไม่ขอเลือกและจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นหรือมีใครต้องเจ็บตัว จากนั้นนางก็นั่งหลับ โดยที่องค์ชายวังจองนั่งมองแฮซูอยู่อย่างนั้น
องค์ชายวังโซบอกเหตุผลกับแฮซูว่าหากพระองค์ไม่อภิเษก องค์หญิงจะต้องถูกส่งไปเป็นเชลยที่ชีตัน แฮซูจึงยอมบอกว่าเมื่อคืนนี้องค์ชายวังจองอยู่ในห้องของนาง แต่ไม่มีอะไรเกินเลย เมื่อทั้งคู่เข้าใจกันดีแล้ว องค์ชายวังโซจึงบอกรักแฮซูและจุมพิตนาง
องค์ชายวังอุคยอมร่วมมือก่อกบฏกับองค์ชายวังโย เพราะไม่ต้องการให้องค์ชายสี่ได้ครองบัลลังก์ องค์ชายวังโยนำกำลังทหารบุกตำหนักชอนด๊อกจอนของฝ่าบาท ขณะที่ทรงประชวรหนักจนกระอักเลือด องค์ชายวังโยจึงผลักพระองค์ตกสระน้ำจนสิ้นพระชนม์ต่อหน้าแฮซู แชรยองแอบดูอยู่ตรงนั้นด้วยความตกใจ องค์ชายสี่และชเวจีมงตามาช่วยไม่ทัน องค์ชายวังโยบอกว่าเขาไม่ได้ฆ่าฝ่าบาท แต่พระองค์ทรงโดนยาพิษ เพราะแฮซูใส่ปรอทในน้ำอาบ องค์ชายวังโยให้องค์ชายสี่เลือกระหว่าง ตายไปพร้อมนาง หรือช่วยชีวิตนางโดยการยอมรับเขา ขณะที่องค์ชายเก้ากำลังใช้ดาบจ่อที่คอของแฮซู