สปอยล์ Moon Lovers ตอนที่ 17
องค์ชายสิบสี่ฝากข้อความถึงแฮซูว่า เขาหาทางช่วยนางให้ออกจากวังได้แล้ว อูฮีเป็นสายให้ฝ่าบาทและทูลรายงานว่า องค์ชายวังโซร่วมกับเหล่าขุนนางเพื่อยับยั้งการก่อสร้างวังใหม่ที่ซอกยอง อูฮีหวังเพียงข้อแลกเปลี่ยนที่ทรงสัญญาเรื่องปากท้องและอิสรภาพของชาวอูแพคเจ แต่ฝ่าบาทไม่ทรงรักษาสัญญาและขู่นางด้วยว่า ตอนนี้องค์ชายแพคอายังไม่รู้ว่านางคือสุนัขรับใช้ของฝ่าบาท
ฝ่าบาททรงตื่นบรรทมด้วยอาการฝันร้ายและหวาดระแวง ภาพหลอนขององค์ชายวังอึนและพระเจ้าแทโจยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด ทรงมีอาการคุ้มคลั่งจนกระทั่งหมดสติไป เช้าวันต่อมาองค์ชายแปดพบว่าฝ่าบาทไม่ได้สติ จึงคิดว่าเป็นโอกาสดีของตนเองที่จะยึดบัลลังก์
แฮซูมิอาจขัดขวางการก่อกบฏขององค์ชายสี่ได้ จึงขอร้องไม่ให้พระองค์เข่นฆ่าพี่น้องตัวเอง จากนั้นก็เตือนทุกคนไม่ให้ออกจากตำหนักทามีวอนเพื่อความปลอดภัย แม้จะได้ยินเสียงอึกทึกอะไรก็ตาม
แฮซูถวายชาตามรับสั่งด้วยความตระหนกและหวาดกลัวจนมือสั่น แต่ฝ่าบาททรงระแวงว่านางใส่ยาพิษในน้ำชา และโทษว่าแฮซูคือต้นเหตุของเรื่องเลวร้ายทั้งหมด ในขณะที่พระพันปียูเข้ามาทูลว่าองค์ชายวังโซกำลังก่อกบฏและบุกมาที่วัง พระนางจึงขอให้ฝ่าบาทรีบลงพระนามเพื่อยกบัลลังก์ให้องค์ชายวังจอง แต่ฝ่าบาทไม่ทรงยินยอมและเสียพระทัยที่พระพันปีทรงห่วงองค์ชายวังจองมากกว่า ด้วยความกริ้วและอาการที่ทรุดหนักลง จึงมีรับสั่งให้นำตัวพระพันปีออกไป แฮซูเห็นเหตุการณ์ดังนั้นจึงรู้สึกหวาดกลัวฝ่าบาท แต่ก็ไม่อาจออกไปจากห้องนั้นได้ จนกระทั่งเห็นฝ่าบาทพระทัยวายต่อหน้า
องค์ชายสี่พร้อมด้วยองค์ชายแพคอาและท่านแม่ทัพพัคซูกยอง เตรียมพร้อมที่จะบุกเข้าไปที่ตำหนักของฝ่าบาท แต่ทว่าเบื้องหลังประตูนั้น องค์หญิงยอนฮวาเป็นผู้เปิดประตูให้ นางคาดหวังจะได้เป็นพระมเหสี หากองค์ชายสี่ได้ครองบัลลังก์จริงๆ ในขณะที่องค์ชายแปดถูกส่งไปที่เมืองซอกยอง เมื่อกลับมาจึงได้รู้ว่าเป็นแผนก่อกฎขององค์ชายสี่
องค์ชายสี่เข้ามาถึงห้องฝ่าบาทเป็นคนแรก และหยิบกระดาษในมือของพระองค์ที่ไม่ได้ระบุชื่อใครไว้เฉพาะเจาะจง และแฮซูก็ยังไม่ได้อ่านกระดาษแผ่นนั้น องค์ชายสี่จึงฉีกทิ้ง เมื่อทุกคนเข้ามา แฮซูจึงคุกเข่าถวายพระพรองค์ชายสี่ ซึ่งจะขึ้นเป็นพระราชาองค์ใหม่ ท่ามกลางความมึนงงของทุกคน องค์ชายสี่จึงสัมทับว่า ก่อนสิ้นใจ ฝ่าบาทได้ทรงยกบัลลังก์ให้แก่เขา
หลังจากที่องค์ชายสี่ได้ขึ้นครองราชย์ในพระนามใหม่ว่าพระเจ้าควางจง ท่านแม่ทัพพัคขอทูลลาไปใช้ชีวิตอย่างสงบที่บ้านเกิด และขอให้ฝ่าบาททรงเป็นพระราชาที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา จากนั้นแฮซูก็ย้ายมาอยู่ที่ตำหนักชอนด๊อกจอนกับฝ่าบาท
พระพันปียูไม่ทรงเชื่อว่า องค์ชายวังโยที่จากไป จะยกบัลลังก์ให้องค์ชายวังโซ จึงทรงมีรับสั่งให้องค์ชายวังจองตรวจสอบเรื่องนี้ จากนั้นจึงมีรับสั่งให้แฮซูเข้าเฝ้า เพื่อทรงถามถึงเศษกระดาษที่ถูกฉีกในวันนั้น และฝ่าบาททรงยกบัลลังก์ให้องค์ชายวังโซจริงหรือไม่ แม้แฮซูจะโกหว่าจริง แต่พระพันปีก็ไม่ทรงเชื่อและคาดคั้นแฮซูอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งฝ่าบาทเสด็จมา
เมื่อเริ่มมีข่าวลือว่าพระองค์ก่อกบฏและแย่งชิงบัลลังก์ จึงมีรับสั่งให้ฆ่าทุกคนที่กล่าวหาเช่นนี้ รวมทั้งบริวารของพระราชาองค์ก่อนด้วย แม้แต่นางในและกองทัพที่ชอนด๊อกจอนก็ห้ามละเว้น
องค์ชายแพคอาตั้งใจหาตระกูลดีๆเพื่อรับอูฮีเป็นบุตรบุญธรรม ก่อนที่พระองค์จะทรงขอนางแต่งงาน ในการเฉลิมฉลองพระราชาองค์ใหม่ จะมีการอภัยโทษนางในและปล่อยกลับบ้าน แต่องค์ชายเก้าวังวอน ต้องการให้แชรยองอยู่รับใช้เขาต่อไป จึงวางแผนให้แฮซูทูลขอฝ่าบาท เพื่อให้นางได้อยู่ต่อไป แต่แชรยองต้องการอยู่กับองค์ชายเก้า ในขณะที่องค์ชายเก้าต้องการให้นางอยู่ที่ทามีวอนเท่านั้น
องค์ชายแปดเสียใจที่แฮซูเลือกองค์ชายวังโซ นางจึงให้เหตุผลว่า เพราะเขาเป็นคนซื่อสัตย์และสารภาพความต้องการของตนเองทุกอย่าง โดยจะไม่ยอมเสียทั้งนางหรือบัลลังก์ไป อีกทั้งเขายังมีดวงดาวแหงพระราชาอีกด้วย ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นโชคชะตาและพรหมลิขิตทั้งสิ้น จากนั้นจึงทรงตัดใจจากนางและตัดสินใจที่จะช่วยองค์หญิงยอนฮวาให้ได้ตำแหน่งพระมเหสี
ฝ่าบาททรงอยากมีลูกกับแฮซู จึงขอให้หมอมาตรวจสุขภาพของนาง แต่แฮซูอยากให้ฝ่าบาททรงขอนางแต่งงานอย่างเป็นทางการเสียก่อน หลังจากตรวจสุขภาพแล้ว แฮซูจึงรู้ว่าอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า จากการถูกทำโทษเมื่อหลายปีก่อน อาจเป็นสาเหตุให้นางเดินไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งนางจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงสิบปี
ในท้องพระโรงมีเพียงชเวจีมงและองค์ชายแพคอาเท่านั้น แต่ไม่มีเสนาบดีแม้สักคนเดียว เมื่อองค์ชายแปดเข้าเฝ้า จึงทูลเสนอว่าให้แต่ละตระกูลเป็นผู้ดูแลโรงคลังและภาษีด้วยตนเอง แต่ฝ่าบาททรงคิดว่าองค์ชายแปดมีจุดประสงค์จะยึดท้องพระคลัง จากนั้นองค์ชายแปดในฐานะตัวแทนตระกูลฮวังโบ จึงทูลขอให้ฝ่าบาททรงอภิเษกกับองค์หญิงยอนฮวา และทุกตระกูลจะเข้าร่วมการสนับสนุนฝ่าบาท เมื่อฝ่าบาททรงยืนกรานที่แจะแต่งงานกับแฮซู องค์ชายแปดจึงเตือนเรื่องแผลเป็นที่ข้อมือของนาง ซึ่งไม่อาจเป็นพระมเหสีได้
องค์หญิงยอนฮวาบอกแฮซูว่านางจะอภิเษกกับฝ่าบาทและรับตำแหน่งพระมเหสี โดยจะยอมรับแฮซูในฐานะผู้หญิงของฝ่าบาทเท่านั้น