สปอยล์ Moon Lovers ตอนที่ 19

19

หลังจากที่แชรยองตาย แฮซูเศร้าโศกเสียใจจนตัวเองล้มป่วย และหมางเมินต่อฝ่าบาท นางทูลว่าอยากจะออกไปจากวังนี้ แต่ฝ่าบาทรับสั่งว่าจะไม่มีวันปล่อยนางไปเด็ดขาด แฮซูให้ความช่วยเหลือครอบครัวของแชรยองตามที่นางได้สั่งเสียไว้ในจดหมาย

พระมเหสียอนฮวาตัดสินพระทัยที่จะละทิ้งครอบครัวตามที่ฝ่าบาททรงเสนอ เพราะหวังจะมีโอรสซึ่งจะเติบโตเป็นพระราชาแห่งโครยอในอนาคต

แฮซูไม่พอใจองค์ชายเก้าที่แชรยองหลงรักและถูกหลอกใช้ นางต่อว่าองค์ชายโดยไม่เคารพและบอกว่า สักวันหนึ่งองค์ชายจะต้องเสียใจที่ปฏิบัติต่อแชรยองเยี่ยงนั้น องค์ชายเก้าโมโหจึงพูดจาดูถูกแฮซูว่าเป็นเพียงเมียเก็บของฝ่าบาท เมื่อฝ่าบาททรงทราบเรื่องนี้ จึงคิดจะแต่งตั้งแฮซูเป็นสนม ซึ่งเป็นชายาคนที่สองรองจากมเหสี แต่แฮซูไม่ต้องการ และยังคงยืนกรานที่จะไปจากวังนี้

เมื่อองค์ชายแปดทรงทราบว่าฝ่าบาทจะอ่านตำราจองกวันจองโย ซึ่งเป็นตำราล่าสัตว์ องค์ชายแปดจึงคิดว่าฝ่าบาทต้องมีแผนการอะไรสักอย่าง ดังนั้นองค์ชายแปดจึงวางแผนที่จะหาเหยี่ยวนักล่ามาถวาย แต่องค์ชายเก้าทักว่าไม่ควรไว้ใจฝ่าบาท นอกเสียจากตัดแขนตัดขาของพระองค์ทิ้ง ซึ่งก็คือองค์ชายแพคอาที่กำลังสนิทสนมกับอูฮี องค์หญิงแห่งฮูแบคเจ

อูฮีเห็นทาสฮูแบคเจจำนวนมากถูกฆ่าตาย จากเรื่องบาดหมางระหว่างเหล่าขุนนางผู้มีอำนาจและทาสตระกูลแบคเจ องค์ชายแปดทูลเสนอให้ฝ่าบาทส่งกองทัพไปช่วยตระกูลเหล่านั้นก่อน ฝ่าบาทจึงมีรับสั่งให้ใช้หอกไร้ใบมีดและดาบไม้เท่านั้น เพราะพระองค์ไม่ต้องการให้เกิดการนองเลือด หลังจากที่เพิ่งครองราชย์ได้ไม่นาน องค์ชายแปดททรงทำตามแผนขององค์ชายเก้า จึงทูลเสนอให้องค์ชายแพคอาเป็นหัวหน้ากองทัพในครั้งนี้ แต่ชเวจีมงค้านว่าองค์ชายแพคอาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการรบเลย ฝ่าบาทไม่ทรงอนุมัติ แต่องค์ชายแพคอาเสนอตัวเอง เพื่อขจัดข้อกังขาของผู้อื่นที่มีต่ออูฮีที่มาจากฮูแบคเจ อูฮีรับปากจะแต่งงานกับองค์ชายแพคอา

เมื่อเขากลับมาจากกองทัพ ฝ่าบาททรงติดประกาศเพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้แก่ทาสแบคเจ แต่พวกเขาไม่เชื่ออีกต่อไปแล้ว จึงลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน องค์ชายวังจองไม่ยอมกลับไปอยู่บ้านเกิดตามที่โดนเนรเทศ แต่พร้อมที่จะไปช่วยองค์ชายแพคอาในการรบครั้งนี้ แต่ทว่าเขาต้องเปลี่ยนใจกลับไปหาแฮซู เมื่อได้รับข้อความจากองค์ชายแพคอาว่า นางเต็มใจ องค์ชายวังจองตัดพ้อว่าฝ่าบาททรงทำให้องค์ชายแพคอาต้องตกอยู่ในอันตราย และแปลกใจที่อูฮีไม่ออกมาส่ง ขณะที่ทาสแบคเจบุกเข้ามา พวกเขาเห็นอูฮีเตรียมที่จะกระโดดลงมาจากหอสูง องค์ชายแพคอารีบขึ้นไปห้าม แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจนางได้ องค์ชายแพคอาเสียใจมาก แฮซูจึงช่วยปลอบใจ หลังจากนั้นองค์ชายแพคอาจึงทูลลาฝ่าบาท

องค์ชายแปดนำเหยี่ยวล่ามาถวายฝ่าบาท เมื่อเปิดผ้าคลุมกรงออก ปรากฏว่าเป็นเหยี่ยวที่ตายแล้ว ถือเป็นการสาปแช่งฝ่าบาท องค์ชายแปดจึงถูกลงโทษข้อหากบฎและต้องชดใช้ด้วยชีวิต โดยที่พระมเหสียอนฮวาไม่ยอมช่วยพี่ชาย เพราะพระนางทรงละทิ้งครอบครัวแล้ว แม้เสด็จแม่จะทูลขอร้องก็ตาม

แฮซูอ้อนวอนฝ่าบาทให้ทรงไว้ชีวิตองค์ชายแปด และทวงสัญญาที่พระองค์เคยให้ไว้ว่าจะไม่เข่นฆ่าพี่น้อง นางรู้ดีว่าฝ่าบาทเป็นผู้ฆ่าเหยี่ยวล่าตัวนั้นเพื่อให้ร้ายองค์ชายแปด ฝ่าบาททรงยอมรับว่าทำไปเพราะเคียดแค้นที่องค์ชายแปดทำให้องค์ชายวังมูและองค์ชายวังอึนต้องตาย อีกทั้งยังขัดขวางความรักของพระองค์กับแฮซู และตอนนี้องค์ชายแพคอาก็ทอดทิ้งพระองค์ไปแล้ว จากนั้นจึงทรงยอมไว้ชีวิตองค์ชายแปดตามที่แฮซูขอ แต่ต้องโดนเนรเทศให้กลับไปอยู่บ้านเกิด โดยห้ามออกมาจากบ้านอีกเลย แฮซูตกใจในความโหดเหี้ยมของฝ่าบาท

เมื่อพระมเหสียอนฮวาต่อว่าแฮซูที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่าง ทำให้นางนึกถึงคำพูดขององค์ชายวังโยเช่นนี้เหมือนกัน แฮซูจึงรู้สึกว่าตนเองคงผิดจริงๆ

ขณะที่ฝ่าบาทกำลังให้ช่างภาพวาดรูปของพระองค์อยู่นั้น องค์ชายวังจองบุกไปเข้าเฝ้า เพื่อถวายโองการของพระราชาองค์ก่อน ที่ทรงอนุญาตให้แฮซูแต่งงานกับองค์ชายวังจอง แม้ฝ่าบาทไม่ทรงอนุญาต แต่องค์ชายวังจองก็ยังคงยืนกรานที่จะแต่งงานกับแฮซูให้ได้ โดยอ้างว่าเป็นความต้องการของแฮซู ฝ่าบาทจึงเสด็จไปถามแฮซู และนางก็ยืนยันว่าต้องการเช่นนั้น แต่ทว่าฝ่าบาทก็ไม่ทรงปล่อยนางไป ทำให้พระมเหสียอนฮวาทรงกริ้วมาก จึงไปขอความช่วยเหลือจากองค์ชายแปด

องค์ชายแปดทูลเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของเขาและแฮซูให้ฝ่าบาทฟัง และเคยสัญญากันว่าจะแต่งงานกัน และเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่แฮซูจะเป็นผู้หญิงของพระองค์ ฝ่าบาททรงกริ้วที่ได้ยินเช่นนี้เพราะรู้สึกเหมือนโดนหักหลัง จึงตรัสต่อแฮซูว่าต่อไปนี้จะไม่เสด็จมาพบหน้านางอีกต่อไป

หลังจากนั้นแฮซูก็ได้ออกจากวังตามที่ต้องการ โดยมีองค์ชายแพคอาออกมาส่ง องค์ชายแปดขอให้แฮซูลืมทุกสิ่งและเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพราะเชื่อว่าองค์ชายวังจองจะดูแลนางเป็นอย่างดี