สปอยล์ Moon Lovers ตอนที่ 20
องค์ชายวังจองแต่งงานกับแฮซูเพียงในนามเท่านั้น และแยกบ้านกันอยู่คนละหลังในบริเวณเดียวกัน แฮซูตั้งครรภ์อ่อนๆ หมอเป็นห่วงสุขภาพของนางที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว แต่แฮซูต้องการเก็บลูกไว้ องค์ชายวังจองจึงบอกหมอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ขณะที่ฝ่าบาททรงส่งคนมาสืบดูชีวิตคู่ของแฮซู องค์ชายวังจองรู้ทัน จึงเสแสร้งทำเป็นคู่สามีภรรยาที่มีความสุข ฝ่าบาททรงกริ้วอย่างมากเมื่อได้รับรายงานเช่นนี้ จึงแอบเสด็จไปดูเอง
แฮซูร่างกายอ่อนแอลง ในขณะที่กำลังวาดรูปของฝ่าบาทเมื่อครั้งยังสวมหน้ากาก เมื่อฝ่าบาทเสด็จไปถึง จึงได้เห็นองค์ชายวังจองกำลังอุ้มแฮซูเข้าบ้าน องค์ชายวังจองอยู่ดูแลแฮซูและพูดคุยเรื่องเก่าๆ กันอย่างสนุกสนาน ทำให้ฝ่าบาทที่แอบดูอยู่นั้น ยิ่งทรงเข้าใจผิดมากขึ้นไปอีก หลังจากนั้นจึงตัดสินพระทัยว่าจะไม่ขอรับรู้เรื่องของแฮซูอีก
6 เดือนต่อมา
แฮซูคลอดก่อนกำหนดและได้ให้กำเนิดลูกสาวที่สุขภาพแข็งแรงดี องค์ชายวังจองขอให้หมอปล่อยข่าวว่าเด็กตายตั้งแต่เกิด สุขภาพของแฮซูอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ นางขอร้ององค์ชายวังจองให้นำจดหมายไปส่งให้ฝ่าบาท และรีบเปิดอ่านทันที มิใช่เพื่อต้องการให้พระองค์ทรงเห็นหน้าลูก เพียงแต่ว่าแฮซูต้องการพบพระองค์อีกสักครั้ง
ฝ่าบาทได้รับจดหมายหลายฉบับแล้ว แต่ทรงเข้าใจผิดว่าเป็นจดหมายขององค์ชายวังจอง พระองค์จึงไม่ทรงเปิดอ่าน แฮซูคิดว่าฝ่าบาททรงเกลียดนางแล้ว จึงไม่เสด็จมาหาตามที่นัดไว้ในจดหมาย แฮซูจึงขอให้องค์ชายส่งคนไปทูลว่า นั่นคือข้อความจากนาง และเชื่อว่าพระองค์ต้องเสด็จมาแน่ๆ
แฮซูฝากให้องค์ชายดูแลลูกสาวของนาง และห้ามไม่ให้เข้าวังหลวงเด็ดขาด จากนั้นแฮซูก็สิ้นใจน้อมกอดขององชายวังจอง
เมื่อชเวจีมงทูลว่าเป็นจดหมายของแฮซู ฝ่าบาทจึงรีบเปิดอ่านทุกฉบับและได้รู้ว่า แฮซูยังคงรักและคิดถึงพระองค์อยู่เสมอ นางจะรอฝ่าบาททุกวัน จนกว่าฝ่าบาทจะเสด็จมาหา แต่ทว่าเมื่อเสด็จไปที่บ้านองค์ชายวังจอง พระองค์ก็ได้พบเพียงแค่เถ้าอัฐิของนางเท่านั้น ฝ่าบาททรงเสียพระทัยมาก จึงทรงนำโถอัฐิของนางกลับไปอยู่กับพระองค์ที่วัง
องค์ชายแพคอานำจดหมายของแชรยองที่เขียนให้แฮซูมาให้องค์ชายเก้า โดยบอกว่าแฮซูฝากไว้ก่อนตาย องค์ชายเก้าจึงรู้ว่าแชรยองรักพระองค์
พระมเหสียอนฮวาทรงต่อว่าฝ่าบาทที่ไม่เคยเสด็จไปหา แม้กระทั่งวันเกิดขององค์ชาย และยังทรงตัดพ้อที่ฝ่าบาทไม่เคยทรงลืมแฮซูเลย
ในวันครบรอบวันตายของแฮซู องค์ชายวังจองและลูกสาวของแฮซูได้พบฝ่าบาทโดยบังเอิญ แม้จะสงสัยว่าเด็กคนนี้อาจจะเป็นลูกของพระองค์ แต่องค์ชายวังจองทูลว่าเป็นลูกของเขาเอง และแฮซูสั่งเสียไว้ว่า ห้ามไม่ให้ลูกของนางใช้ชีวิตในวังเด็ดขาด เพราะมันทั้งโดดเดี่ยวและน่ากลัว จากนั้นฝ่าบาทจึงทรงยกเลิกการเนรเทศให้องค์ชายวังจอง และทรงขอให้องค์ชายเข้าวังมาหาพระองค์บ่อยๆ
พระมเหสีฮวังโบยังทรงใฝ่ฝันที่จะได้ครองโครยอ จึงทรงขอให้องค์ชายแปดพาลูกๆเข้าวังเพื่อเป็นเพื่อนกับองค์ชายโอรสของฝ่าบาท เพราะในวันข้างหน้าพระนางจะทำให้ลูกขององค์ชายแปดได้เป็นพระราชา
เมื่อองค์ชายแพคอาได้พบกับลูกสาวขององค์ชายแปดที่ชื่อว่าบ๊กซุน ทำให้เขาคิดถึงอูฮีที่เคยโกหกว่าชื่อบ๊กซุนเช่นกัน ฝ่าบาททรงงานราชการมากขึ้นและดูแลระบบยุติธรรม ในขณะที่ชเวจีมงทูลลาฝ่าบาทและขอให้ทรงลืมแฮซูเสียที เพราะนางอาจจะไม่ได้มาจากโลกนี้
หลังจากองค์ชายแปดตายไป องค์ชายแพคอาจึงทูลลาฝ่าบาท เพราะไม่มีใครที่นี่ให้เขามาหาอีก ฝ่าบาททรงยืนอย่างเดียวดายและคิดถึงแฮซูว่า หากนางไม่ได้มาจากโลกเดียวกันตามที่ชเวจีมงบอก พระองค์ก็จะทรงออกตามหานางเอง
โกฮาจินตื่นจากความฝันทั้งน้ำตา หลังจากที่จมน้ำและหมดสติไปเกือบปี จากนั้นเธอก็ไปทำงานเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางเหมือนเดิม และได้เจอคนที่หน้าเหมือนชเวจีมงโดยบังเอิญ ซึ่งเขาบอกว่านามสกุลโกก็คือแฮในสมัยโครยอ และการเจอกันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่ว่าทุกอย่างกลับไปเป็นปกติแล้ว เรื่องราวในโครยอแว่วเข้ามาในความคิดของฮาจิน จนทำให้เธอรู้สึกวิงเวียนระหว่างทำงาน
เมื่อเห็นภาพวาดสมัยโครยอในงานนิทรรศการ โกฮาจินจึงรู้ว่าสิ่งที่เธอเห็นระหว่างที่ยังไม่ได้สตินั้น มันไม่ใช่ความฝัน ฮาจินเห็นภาพวาดของพระเจ้าควางจงที่ทรงยืนอยู่เพียงลำพัง เธอจึงร้องไห้ออกมาและขอโทษที่ทอดทิ้งพระองค์ให้ทรงเดียวดาย