สปอยล์ Moon Lovers ตอนที่ 9

เมื่อทำพิธีจนกระทั่งฝนตกลงมา ทุกคนต่างก็ดีใจ ชาวบ้านจึงยอมรับว่าองค์ชายวังโซคือผู้ที่ช่วยพวกเขา แต่แฮซูกลับคิดว่าต่อไปองค์ชายวังโซจะได้เป็นพระเจ้าควางจง ซึ่งสังหารพี่น้อง ลูกหลานและผู้จงรักภักดีทั้งหมด

องค์ชายวังโซทรงกริ้วที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้ทำพิธีขอฝน และยังโดนพระมเหสียูทรงต่อว่าที่พลาดโอกาสนี้ พระมเหสียูทรงกริ้วที่แฮซูแต่งหน้าปกปิดรอยแผลให้องค์ชายสี่ พระนางจึงทรงคิดที่จะเผาตำหนักทามีวอนทิ้ง

องค์รัชทายาทเสด็จกลับมาหลังจากเสร็จพิธีแล้ว และตรัสว่าทรงถูกโจรขัดขวาง จึงมาไม่ทันพิธี ฝ่าบาททรงชื่นชมองค์ชายวังโซที่ทำหน้าที่ได้ดี และได้ช่วยแผ่นดินนี้ไว้ จากนั้นพระองค์จึงรับสั่งให้องค์ชายสี่จงมั่นใจและเปิดเผยใบหน้าต่อทุกคน และคอยช่วยเหลือองค์รัชทายาท เพื่อให้แผ่นดินนี้เจริญรุ่งเรือง

ขณะที่องค์ชายวังอุคและแฮซูหลบฝนอยู่ด้วยกัน องค์ชายวังอุคทรงเห็นแฮซูมีความกังวล จึงทรงคิดว่านางกลัวความผิดที่แต่งหน้าให้องค์ชายวังโซ จึงทรงปลอบใจว่านางทำเรื่องที่ดี และองค์ชายวังโซเป็นเพียงตัวแทนองค์รัชทายาทนั้น และทุกอย่างจะยังคงเดิม แต่แฮซูยังคงกังวลเรื่องพระเจ้าควางจง จึงไม่อาจนิ่งนอนใจได้ จากนั้นนางจึงไปหาชเวจีมงเพื่อจะถามเรื่องนี้ และได้รู้ว่าเขาก็มาจากอนาคตเช่นเดียวกัน แม้แฮซูจะบอกว่านางสามารถเปลี่ยนเรื่องที่ไม่ดีให้กลายเป็นเรื่องดีได้ แต่ชเวจีมงบอกว่า ปล่อยให้มันดำเนินไปด้วยตัวมันเอง นางจึงจะปลอดภัย

องค์หญิงยอนฮวาจะพอใจองค์ชายวังโซ แต่ก็ยังคงอยากให้พี่ชายตนเอง องค์ชายวังอุคได้ทำหน้าที่นั้นแทนองค์รัชทายาท และตอนนี้ฝ่าบาทก็ทรงไว้วางใจองค์ชายวังโซแล้ว องค์หญิงจึงเตือนพี่ชายว่าต่อไปนี้คงต้องระวังองค์ชายวังโซมากขึ้นด้วย

องค์ชายวังโซทรงขอบใจแฮซูที่ช่วยแต่งหน้าให้ และบอกความรู้สึกที่ได้เรียกเสด็จพ่ออย่างเต็มปาก ทั้งๆ ที่พระองค์ไม่เคยมองหน้าเขาเลยเป็นเวลาสิบห้าปี และตอนนี้แผลในใจของเขาก็หายไปจนหมดสิ้น เพราะจะไม่มีมีใครเรียกเขาว่าอสูรอีกแล้ว แฮซูได้ยินดังนั้นจึงคิดว่าองค์ชายสี่เป็นคนอ่อนโยน จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเป็นพระเจ้าควางจงที่อำมหิต นางจึงคิดที่จะเปลี่ยนความคิดของพระเจ้าควางจงให้ได้

ฝ่าบาททรงมีพระราชประสงค์จะมอบรางวัลให้องค์ชายสี่ องค์ชายสี่จึงทูลขอแฮซูเพื่อเป็นนางในรับใช้พระองค์ และฝ่าบาทก็ทรงประทานพระราชานุญาต จากนั้นฝ่าบาทจึงทรงประกาศว่าจะจัดงานอภิเษกระหว่างองค์ชายวังอึนและซุนด๊อก เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่ฝนตกลงมา แม้องค์ชายวังอึนจะทูลว่าขอยอมตายดีกว่าที่จะแต่งงานกับนาง แต่ก็ไม่อาจขัดพระบัญชาได้

แฮซูมอบหมอนให้องค์ชายวังอุคเป็นการตอบแทนสร้อยข้อมือและเป็นการฉลองล่วงหน้าที่นางจะได้ออกจากวัง แต่ทว่าองค์ชายวังอึนกำลังจะอภิเษกสมรส นางในจึงไม่อาจไปไหนได้ แฮซูจึงบอกองค์ชายว่า หากองค์ชายยังคงรอนาง นางก็รอได้เช่นกัน ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกเมื่อไร

โอซังกุงเตือนแฮซูให้ระวังองค์ชายวังโซให้ดี และหากไม่มีใจให้องค์ชาย ก็ต้องทำตัวให้ชัดเจน เพราะตอนนี้องค์ชายวังโซกำลังสนใจนาง

แฮซูช่วยพูดกับองค์ชายวังอึนตามที่ซุนด๊อกขอร้อง จนกระทั่งองค์ชายยอมออกจากห้อง และเข้าพิธีอภิเษกสมรส ขณะที่เหล่าองค์ชายกำลังร่วมงานอภิเษกอยู่นั้น แฮซูมองดูอยู่ไกลๆ และเห็นภาพองค์ชายวังโซสังหารพี่น้อง นางจึงวิ่งหนีไปด้วยความตกใจ เมื่อองค์ชายวังอุควิ่งตามมา แฮซูจึงเตือนให้พระองค์ระวังองค์ชายวังโซให้ดี และนางต้องการไปจากวังนี้ องค์ชายวังอุคจึงบอกว่า พระองค์จะเป็นคนพานางออกไปเอง

พระเจ้าแทโจทรงมีรับสั่งให้องค์ชายวังโยเสด็จออกไปตรวจโรงคลังตามหัวเมืองต่างๆ โดยให้นำกำลังไปให้น้อยที่สุด ในขณะที่รับสั่งให้องค์ชายวังโซดูแลกองทัพแทน เรื่องนี้ทำให้องค์ชายวังโยไม่พอพระทัยและคิดว่าตนเองกำลังถูกฝ่าบาทตัดหางปล่อยวัด ชเวจีมงจึงช่วยพูดปลอบใจว่า ฝ่าบาททรงมอบหน้าที่นี้ให้คนที่ไว้วางพระทัยมากที่สุด
พระมเหสียูและองค์ชายวังโย ชวนองค์ชายวังโซและองค์ชายวังจองมากินข้าวพร้อมหน้ากัน ในตอนแรกองค์ชายวังโซดีใจที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าเสด็จแม่ต้องการใช้เขาให้ไปฆ่าองค์รัชทายาท

องค์ชายวังโซเสียใจมาก จึงเสด็จไปหาแฮซู แต่แฮซูบอกว่านางกลัวและขับไล่ไสส่งองค์ชาย ในเวลานี้องค์ชายทรงต้องการกำลังใจจากนาง และขอร้องไม่ให้นางทิ้งพระองค์ไป เพราะนางคือผู้หญิงของพระองค์ จากนั้นองค์ชายวังโซก็จุมพิตแฮซู