สปอยล์ Mouse ตอนที่ 14

14

มูจีไปถึงที่เกิดเหตุ แต่อีแจชิกได้เสียชีวิตไปแล้ว และไม่เห็นบารึมที่หลบอยู่บริเวณนั้น จึงได้แต่ตะโกนว่าเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องไซโคปาธ เมื่อสื่อประกาศคดีของอีแดชิกพร้อมทั้งคลิปการรับสารภาพว่าตนเองคือฆาตกรต่อเนื่องซูซอง นักโทษคิมที่เป็นแพะรับบาป จึงได้รับการอภัยโทษและไปร่วมงานแต่งงานของลูกสาวกับสายสืบชิน

หลังจากที่บงอีรู้ว่าบารึมคือฆาตกรที่ฆ่าคังด๊อกซู เธอทิ้งไฟล์ภาพนั้นลงชักโครก เธอให้เหตุผลกับตนเองว่าบารึมทำไปเพราะช่วยเธอ

เสียงตะโกนด่าของมูจียังก้องอยู่ในหัวของบารึมว่าเขาเป็นฆาตกรไซโคปาธ บารึมจึงพยายามตีตัวออกห่างจากบงอีและบอกเธอว่า เขาไม่ใช่คนอย่างที่เธอคิด

บงอีพยายามติดต่อและไปหาบารึม แต่เขาก็พยายามหลบหน้าเธอ จนกระทั่งมูจีเตือนสติว่าอย่าทำอะไรที่จะเสียใจภายหลัง บารึมจึงคิดว่าเขาอาจจะกลับไปเป็นจองบารึมคนเดิมได้ หากใช้ชีวิตอยู่กับบงอี จากนั้นเขาจึงโทรหาเธอเพื่อนัดเดต

บงอีแต่งตัวเป็นพิเศษและสวมสร้อยคอที่บารึมเคยให้ไว้เพื่อไปเดตกับเขาในตอนเย็น ระหว่างอยู่ที่ทำงานบงอีได้คุยกับโคนัม เด็กน้อยที่พยายามสืบหาฆาตกรที่ฆ่าแมว เพื่อล้างมลทินให้กับคุณยายสมองเสื่อมของกตนิมเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง แต่เขายังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดอะไรมากนัก จึงขอตัวกลับก่อนเมื่อเห็นบารึมมารับบงอี บงอีเล่าเรื่องความฉลาดของโคนัมให้บารึมฟัง บารึมไม่ได้ไปเดตกับบงอี เพราะต้องไปหา ดร.อี ที่บอกว่ามีเรื่องด่วน

โคนัมส่งข้อความขอนัดคุยกับบงอีในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเธอรับปากว่าจะไปหาเขาที่โรงเรียน ดร.อี ส่งรายชื่อเป้าหมายต่อไปให้บารึม แต่ครั้งนี้เขาปฏิเสธและบอกว่าต่อไปเขาจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะกำจัดใคร บารึมสงสัยมาตลอดว่า ดร.อี กำลังทำงานให้ใครซึ่งเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่ ดร.อี บอกว่าเมื่อถึงเวกลาบารึมก็จะรู้เอง

บารึมไปที่โรงเรียนของโคนัมก่อนที่บงอีจะไปถึง และได้เห็นคิมบยองแทขับรถมาส่งเนื้อ และคุณยายสมองเสื่อมที่เอาแต่พูดว่าแมวสี่ตัว เมื่อบงอีไปถึงจึงโทรหาโคนัม แต่ทว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในโรงอาหาร เพราะโดนน้ำยาเคมี ทำให้เป็นแผลพุพองตามร่างกาย เธอจึงขอให้คนส่งเนื้อช่วยอุ้มโคนัมไปส่งโรงพยาบาล

วันต่อมามูจีและบารึมไปที่เกิดเหตุ มูจีผิดสังเกตว่าหากเป็นอุบัติเหตุที่โคนัมเดินชนตู้จนน้ำยาเคมีหล่นมาราดตัวเองนั้น คราบของน้ำยาจะต้องกระเด็นเป็นวงกว้างกว่านี้ เขาจึงคิดว่าไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นการจงใจฆาตกรรมที่คนร้ายใช้น้ำยาราดใส่โคนัม บารึมพบพวงกุญแจตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่จู่ๆ คุณยายสมองเสื่อมก็มาแย่งกลับคืนไปโดยอ้างว่าเป็นกุญแจของเธอเอง จากนั้นเขาจึงอาสาไปส่งคุณยายที่บ้านและได้พบกับเจ้าหน้าที่คิม ซึ่งเคยทำงานกับบารึมที่สถานีกูดง บารึมจึงรู้ว่าเธอคือคุณยายของเพื่อนโคนัม เจ้าหน้าที่คิมเชื่อว่าคุณยายไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าแมวและพูดถึงฆาตกรไซโคปาธเมื่อหลายปีก่อนที่ฆ่าและถอนฟันแมวไปด้วย เจ้าหน้าที่คิมยังบอกอีกว่าคนขายเนื้อคิมบยองแทคือผู้ดูแลแมวในย่านนี้และเป็นคนที่อุ้มโคนัมไปส่งโรงพยาบาล

มูจีไปสอบปากคำคิมบยองแท ซึ่งเขาบอกว่าขณะที่ไปส่งเนื้อที่โรงเรียนและได้ยินเสียงกรีดร้อง เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเด็ก วันต่อมาคุณยายสมองเสื่อมแวะไปเอาเศษมันที่ร้านเนื้อตามปกติและได้คืนกุญแจพวงนั้นให้กับคิมบยองแท บารึมแอบไปที่บ้านของคิมบยองแท เพราะสงสัยว่าเขาคือคนร้ายที่พยายามจะฆ่าโคนัม บารึมพบน้ำยาเคมีและพวงกุญแจฟันแมว เมื่อเปิดกล่องออกดูจึงเห็นรูปเก่าที่คิมบยองแทกำลังเผาเด็กฮวังมินจี แต่คดีถูกปิดไปเพราะพยานในคดีเป็นผู้พิการทางสมอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อาจเชื่อถือคำให้การได้

บารึมลำดับเหตุการณ์จึงรู้ว่า คิมบยองแทต้องการฆ่าปิดปากโคนัมที่รู้ว่าเขาคือฆาตกรที่ฆ่าฮวังมินจี เขาจึงไปจัดการคิมบยองแทที่ห้องเย็นในร้านเนื้อ แพทย์บอกว่าขณะที่โคนัมโดนน้ำยาเคมี อวัยวะของเขาถูกทำลายและไม่อาจกรีดร้องได้ มูจีจึงรู้ว่าคำให้การของคิมบยองแทเป็นเท็จ จากนั้นเขาจึงรีบไปที่ร้านเนื้อ แต่ทว่าคิมบยองแทถูกฆ่าตายแล้ว

มูจีไปดื่มกับบารึมที่บ้านเพื่อระลึกถึงวันเกิดของบาทหลวงมูวอน มูจีและบารึมตกลงจะเป็นพี่น้องกัน มูจีอวดรูปครอบครัวที่สร้อยคอของเขา แต่แปลกใจที่ไม่พบสร้อยคอดเส้นนี้ขณะที่พบศพบาทหลวงมูวอน เช้าวันต่อมาเขาจึงไปค้นหาที่ห้องเก็บหลักฐาน และพบมีดเปื้อนเลือดที่บารึมขโมยไปฆ่าคังด๊อกซู

บารึมทำความสะอาดบ้านและพบสร้อยคอ จึงคิดว่ามูจีทำหล่นไว้ แต่ทว่ามันเป็นของบาทหลวงมูวอน บารึมสงสัยตัวเองว่าทั้งสร้อยคอและหลักฐานอื่นๆ มาอยู่ในบ้านของเขาได้อย่างไร

เขากลับไปที่บ้านเก่าและยกกระถางต้นไม้ขึ้นและเจอทางลงไปห้องใต้ดิน
ที่ห้องใต้ดินนั้นเขาเจอศพและรูปภาพการฆาตกรรมทำให้เขารู้ว่าเป็นเขาเองไม่ใช่โยฮัน ขณะที่ดงกูโทรมาบอกว่านาชีกุกฟื้นแล้ว..