สปอยล์ Mr. Queen ตอนที่ 9

9

ขณะที่ฝ่าบาททรงจุมพิตพระมเหสีโซยงอยู่นั้น จู่ๆ บงฮวานในร่างของพระมเหสีก็ต่อว่าร่างของพระนางที่เผลอตัวเคลิบเคลิ้มไปกับฝ่าบาท ฝ่าบาททรงแปลกพระทัยว่าพระนางกำลังทะเลาะกับใคร พระมเหสีขอให้ฝ่าบาทอยู่ห่างๆ เพราะนี่คือปัญหาระหว่างบงฮวานและพระมเหสีโซยง ฝ่าบาททรงตรัสว่าพระมเหสีอาจจะเมาหรือว่าฝันไป จากนั้นพระองค์ทรงทำให้พระมเหสีสลบและขอให้ลืมฝันร้ายนี้ไปเสีย ก่อนที่จะเสด็จออกจากห้องอย่างเงียบๆ เพื่อค้นหาบัญชีลับ

คิมบยองอินซึ่งเฝ้าอารักขาอยู่บริเวณนั้นจึงแอบเดินตามฝ่าบาทไปหมายจะสังหารพระองค์ ระหว่างที่บยองอินลังเลใจอยู่นั้น ฝ่าบาททรงกำลังไขกุญแจเซฟลับ แต่ทั้งคู่ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงพระมเหสีทรงละเมอหัวเราะ บยองอินเดินออกไปจากที่นั่นแล้ว และฝ่าบาททรงเปิดเซฟลับต่อจนสำเร็จ แต่ทว่าพระองค์ไม่พบบัญชีลับที่กำลังตามหา จึงเสด็จไปที่บ่อน้ำและเห็นบัญชีลับซ่อนอยู่ที่ก้นบ่อ ยังไม่ทันที่จะเสด็จลงไปเอา บริวารสองคนออกมากวาดลานบริเวณนั้นในตอนเช้ามืดพอดี ฝ่าบาทจึงแอบเสด็จกลับเข้ามาในห้อง

พระพันปีหลวงเสวยอาหารไม่ลงเพราะทรงคิดถึงพระมเหสี คิมจวากึนจึงทูลว่าจะส่งจดหมายไปทูลเชิญให้เสด็จกลับวังพร้อมฝ่าบาท จากนั้นจึงมีรับสั่งให้คิมบยองอินมาเข้าเฝ้าพระนางบ้าง เผื่อจะไหว้วานให้ทำธุระบ้างเป็นครั้งคราว

คิมบยองอินบุกไปที่กององครักษ์หลวงเพื่อขอค้นหลักฐาน โดยอ้างว่าราชองครักษ์บางคนอาจจะปลอมตัวเข้ามาเพื่อก่อกบฏ ทำให้องค์ชายยองพยองไม่พอใจ

พระพันปีทรงทราบแล้วว่า สาเหตุที่พระสนมอึยและพระมเหสีโซยงไม่ค่อยลงรอยกันนั้น เป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อแปดปีก่อน จึงทำให้พระมเหสีโซยงทรงเข้าใจว่าสนมอึยแย่งฝ่าบาทมาจากพระนาง พระพันปีจึงทรงคิดจะใช้แผนขั้นที่สอง

ฝ่าบาททรงเล่าให้องค์ชายยองพยองฟังว่า คนร้ายที่ใส่หน้ากากที่ไม่เหมือนใคร มีจุดประสงค์ที่จะหาบัญชีลับเช่นกัน องค์ชายยองพยองจึงคิดว่านะจะเป็นคนเดียวกันที่ทำร้ายนางกำนัลโอวอล ซึ่งเขามีแผลเป็นที่ใบหน้า ฝ่าบาททรงวางแผนที่จะอยู่ที่บ้านของพระมเหสีอีกหนึ่งคืน เพราะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะหาบัญชีลับให้เจอ โดยอ้างเรื่องสุขภาพของพระมเหสี

ฝ่าบาททรงปลอมตัวเป็นสามัญชนเพื่อออกไปดูผู้คนที่ตลาด โดยที่พระมเหสีตามเสด็จด้วย พระองค์ทรงได้ยินชาวบ้านพูดถึงพระองค์ว่าเป็นพระราชาหุ่นเชิด นอกจากนั้นยังนินทาตระกูลคิมซึ่งเป็นตระกูลของพระมเหสี บงฮวานทนไม่ไหวจึงเข้าไปต่อว่าชาวบ้านกลุ่มนั้น จนพวกเขาสงสัยว่านางเป็นใครกันแน่ บงฮวานจึงตอบว่าเขาเป็นแฟนคลับของพระราชา และถึงแม้จะเป็นแอนตี้แฟน ก็ยังถือว่าเป็นแฟนคลับอยู่ดี ฝ่าบาททรงเกรงว่าจะมีเรื่องจึงแยกพระมเหสีออกมาและทรงถามความหมายของคำว่า”แฟนคลับ” และ “แอนตี้แฟน” จากนั้นทรงตีความว่า”แอนตี้แฟน”คือเทวดาที่ทรงพลังมากกว่า จึงตรัสกับพระมเหสีว่า พระองค์คือแอนตี้แฟนของพระนางเช่นกัน

เมื่อถูกโจรดักปล้นระหว่างทาง เพราะเห็นสองพระองค์ทรงแต่งตัวดีมีราคา ฝ่าบาทจึงตรัสกับพระมเหสีว่า พระองค์จะปกป้องพระนางเองในฐานะ”แอนตี้แฟน” องค์ชายยองพยองนำภาพวาดหน้ากากของคนร้ายให้หัวหน้าพิเศษฮงสืบตามร้านขายหน้ากาก ขณะที่พระมเหสีโซยงกำลังมีรอบเดือน

พระพันปีหลวงทรงหงุดหงิดที่พระมเหสียังไม่เสด็จกลับ จากนั้นจึงมีรับสั่งให้พระพันปีเข้าเฝ้า พระพันปีทรงคับแค้นใจที่โดนพระพันปีหลวงดูถูก และยังสั่งให้ถอดถุงเท้าให้ด้วย

คิมจวากึนต่อว่าคิมบยองอินที่บุกไปค้นกรมองค์รักษ์หลวง และสอนว่าควรทำตัวให้ฝ่ายตรงข้ามเชื่อใจว่า เขาไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น เพื่อที่ว่าหากเวลาใดที่ฝ่ายตรงข้ามทำผิดขึ้นมา เขาจะได้จามไล่ล่าได้ทันที คิมบยองอินจึงรับปากกับพ่อว่า ต่อไปหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับฝ่าบาท เขาจะปรึกษาพ่อทุกครั้ง

ฝ่าบาทตัดสินพระทัยลงไปในบ่อเพื่อหาบัญชีลับ แม้จะทรงมีความทรงจำในวัยเยาว์ที่เลวร้ายก็ตาม แต่ทว่าพระองค์ไม่ทรงพบบัญชีลับเล่มนั้น

ในวัยเยาว์ของพระองค์นั้น ต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในบ่อตามที่แม่สั่ง เพราะทั้งครอบครัวโดนกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ขณะที่หลบอยู่ในบ่อน้ำ พระองค์ได้พบกับคิมโซยง ที่ต้องการปลิดชีวิตตัวเอง เพราะโจฮวาจินบอกนางว่า เป็นวิธีที่จะได้พบแม่ที่จากไป แต่บยองอินมาช่วยโซยงขึ้นจากบ่อ โดยที่ไม่รู้ว่าฝ่าบาทหรืออีวอนบอมอยู่ในนั้นด้วย โซยงจึงมอบหนังสือให้เขา เพื่อนำมาคืนนาง หากเขายังมีชีวิตอยู่ แต่คิมมุนกึนและคิมจวากึนสั่งให้ปิดปากบ่อและใช้ก้อนหินทับไว้ โซยงเป็นห่วงอีวอนบอมจึงขอร้องให้บยองอินช่วยเปิดปากบ่อให้ เมื่อโจฮวาจินช่วยอีวอนบอมออกมาจากบ่อแล้ว เขาจึงมอบหนังสือเล่มนั้นคืนให้ เพราะเข้าใจผิดว่าโจฮวาจินคือคิมโซยง และปัจจุบันหนังสือเล่มนี้ก็ยังคงอยู่กับโจฮวาจินหรือสนมอึย

พระมเหสีโซยงตื่นบรรทมขึ้นมากลางดึกและไม่เห็นฝ่าบาท พระนางจึงเสด็จไปที่บ่อน้ำ และทอดพระเนตรเห็นฝ่าบาทที่กำลังหมดสติ