สปอยล์ From Now Showtime! ตอนที่ 1

ชาชาอุง(พัคแฮจิน) นักมายากลชื่อดังและเป็นหลานชายของร่างทรงชาซากึม(คิมวอนแฮ)ที่สามารถสื่อสารกับเหล่าวิญญาณได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงโกซึลแฮ(จินกีจู)ไล่ล่าโจรวิ่งราวกระเป๋าจนกระทั่งเข้าไปในสถานที่ที่ชาอุงกำลังแสดงมายากลอยู่ เธอจึงขอสอบปากคำคนทั้งหอประชุม แต่ชาอุงไม่ตกลงเพราะมีผลกระทบกับค่าเสียหายในการลงทุนการแสดงและค่าตัวของเขา มิเช่นนั้นเขาจะเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดจากเธอ ลูกน้องของชาอุงตรวจสอบรอบสถานที่และรายงานว่าไม่พบผู้ต้องสงสัยซึ่งชาอุงเหมือนจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เมื่อซึลแฮย้อนกลับมาเอาหมวกกันน็อคที่ลืมไว้และกลับออกไป เธอพบคนร้ายถูกซ้อมและมัดไว้กับต้นไม้โดยมีของกลางอยู่ที่หน้ารถมอเตอร์ไซค์ คนร้ายไม่รู้ว่าตนเองอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร

ผู้กำกับซอชางโฮต้องการเป็นส.ส.จึงคิดจะโปรโมตตัวเองกับพวกคนรวยที่แข็งแกร่งอย่างเช่นหน่วยตำรวจพลเรือน จึงสั่งให้สายสืบบยอนแทชิกนัดคนเหล่านั้น

ชาอุงตกลงที่จะไปออกรายการ “เทพมายากล” ประจำสัปดาห์เพราะมีคู่แข่งที่ชื่ออีอึนกยอลไปร่วมรายการนี้ด้วย โกซึลแฮเพิ่งรู้ว่าหยิบหมวกกน็อคสลับกับของชาอุง ในขณะที่เหล่าวิญญาณ (นัมซังกุน มาดงชอล คังอารึม) กำลังช่วยกันทำงานที่โรงงานของชาอุงเพื่อแลกเปลี่ยนกับการส่งเสียเลี้ยงดูที่ชาอุงมอบให้ครอบครัวของพวกเขา สามวิญญาณสังเกตเห็นกล้องวงจรปิดที่หมวกกันน็อคจึงคิดว่าชาอุงแอบติดไว้

ชาอุงเพิ่มระดับความปลอดภัยที่บ้านของตนเอง ก่อนที่จะไปเตรียมตัวอัดรายการ จู่ๆเขาก้ได้รับข่าวร้ายว่าคุณปู่ชาชากึมเสียชิวิตแล้ว ขณะที่ชาอุงไม่อยู่ โกซึลแฮไปที่โรงงานของชาอุงเพื่อเปลี่ยนหมวกกันน็อคและคืนให้มินโฮเพื่อนบ้านของเธอ

ชาอุงและสามวิญญาณไปร่วมพิธีศพของคุณปู่ พวกเขาเห็นผู้คนมากมายที่นั่นและเชื่อว่าคุณปู่คงทำคุณงามความดีไว้มากมาย นากึมอ๊กซึ่งเป็นผู้ช่วยของคุณปู่เรียกทุกคนให้มาต้อนรับชาอุงซึ่งคุณปู่ของเขาเชื่อว่าเขาจะเป็นศิษย์คนต่อไปของวิญญาณท่านแม่ทัพที่คุณปู่นับถือ

ตั้งแต่ชาอุงเติบโตขึ้นมา เขาเห็นคุณปู่ช่วยเหลือคนมากมายด้วยการเป็นร่างทรงโดยไม่หวังผลตอบแทน จนกระทั่งวันหนึ่งปู่ของเขาเข้าไปในที่เกิดเหตุเพื่อจะจับวิญญาณที่สิงฆาตกรรายนั้น ปู่จึงตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับฆาตกร ชาวบ้านกร่นด่าว่าเป็นร่างทรงเก๊ หลอกลวงชาวบ้านและคลั่งลัทธิ ไม่มีใครช่วยปู่ทั้งที่ปู่เคยช่วยพวกเขามาตลอด ชาอุงไม่ต้องการสืบทอดการเป็นร่างทรงเหมือนกับปู่และไม่สามารถทนอยู่ที่นั่นต่อไปได้ เขาจึงบอกกับตัวเองว่าจะไม่ไว้ใจหรือช่วยเหลือใครทั้งสิ้น

ชาอุงตั้งใจมาเคารพศพและจะกลับทันที เขามอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับนากึมอ๊กเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในงานศพของปู่ นากึมอ๊กไม่เหนี่ยวรั้งชาอุงเพราะเชื่อว่าเขาเกิดมาเพื่อรับใช้วิญญาณ ถึงอย่างไรก็หลีกเลี่ยงไม่พ้นเพราะวิญญาณท่านแม่ทัพจะเป็นฝ่ายไปหาเขาเอง

มินโฮแวะซื้อขนมปังก้นหอยเพื่อมอบให้ยูจินภรรยาท้องแก่ในวันครบรอบการแต่งงานแต่เขาเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตระหว่างทาง ขณะที่ชาอุงกำลังขับรถกลับ สามวิญญาณพบไหข้าวสารที่ใช้ไหว้บรรพบุรุษซึ่งชาวบ้านแอบมาไว้ในรถของเขา เขาพยายามยื้อแย่งโถนั้นเพื่อจะโยนทิ้ง รถของเขาจึงเสียหลักพุ่งชนวิญญาณของมินโฮที่เพิ่งตาย มินโฮดีใจที่ชาอุงสามารถสื่อสารกับเขาได้ จึงอยากขอความช่วยเหลือ แต่ชาอุงปฏิเสธและไล่มินโฮให้ไปหาร่างทรงเอาเอง มินโฮไม่ละความพยายามและตามไปนั่งรอชาอุงที่หน้าบ้าน นอกจากสามวิญญาณที่ถนัดเฉพาะด้านและมีประโยชน์ต่องานของชาอุงแล้ว เขามองไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้จากวิญญาณของมินโฮ

ชาอุงไม่ได้กังวลว่าโกซึลแฮนำหมวกกันน็อคมาเปลี่ยนขณะที่เขาไม่อยู่และไม่มีของสูญหาย แต่เขากังวลเรื่องคลิปวิดีโอที่หมวกใบนั้นขณะที่เขาคุยเรื่องเตรียมงานมายากลกับวิญญาณทั้งสาม เขาไปทวงหมวกใบนั้นจากโกซึลแฮซึ่งเธอรับปากว่าจะนำมาให้ ซึลแฮรีบไปที่เกิดเหตุเมื่อได้รับแจ้งว่ามีคนพบศพที่หลังเนินเขา ชาอุงตามไปเพื่อขอให้เธอโทรหาเจ้าของหมวก ซึลแฮได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังอยู่บริเวณนั้นจึงพบศพของมินโฮ ชาอุงจำได้ดีว่ามินโฮคือวิญญาณที่เขาพบเมื่อคืนนี้ เขาเป็นห่วงความลับทางธุรกิจของตัวเอง จึงขอให้ซึลแฮรีบตามหาหมวก ในขณะที่หัวหน้าซอฮีซูก็ต้องการหมวกเพื่อสืบสวนคดีว่าเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม ชาอุงร้อนใจจึงสั่งวิญญาณทั้งสามให้รีบตามหาวิญญาณมินโฮเจ้าของหมวกกันน็อค

โกซึลแฮไปถามร้านเบเกอรี่จึงรู้ว่ามินโฮมาซื้อขนมปังก้นหอยก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ เธอพบซากรถมอเตอร์ไซค์อยู่บริเวณนั้นและเศษกระจกซึ่งเธอจำได้ว่าไฟหน้ารถของชาอุงแตก ซึลแฮกำลังเข้าใจผิดว่าชาอุงคือคนที่ขับรถชนมินโฮแล้วหนี ไม่ว่าเธอจะใช้อาวุธใดเข้าจับกุมชาอุง แต่วิญญาณทั้งสามก็เข้ามากันไว้ ชาอุงต้องการคุยกับเธอเพื่อบอกว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับผี