สปอยล์ Oh My Baby ตอนที่ 5-6
ฮารีโน้มน้าวอือตึมให้เข้าร่วมโปรเจ็กต์บริจาคอสุจิ จนอือตึมยอมไปตรวจร่างกาย
และผลก็ออกมาว่าเขาสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีมาก อีกทั้งยังมีจำนวนอสุจิมากกว่าคนอื่นถึง 10 เท่าอีกด้วย เขาบอกกับฮารีว่าเขาจะบอกเรื่องบริจาคกับพ่อแม่ของเขาและจะขออนุญาตพวกท่านก่อน
อีซังต้องทำงานแทนซูชอลที่เจ็บมือ รวมถึงต้องไปต่างจังหวัดกับฮารีสองต่อสองเพื่อไปทำงาน ฮารีไม่ชอบการนั่งเครื่องบินมากโดยเฉพาะตอนที่เครื่องกำลังจะขึ้น ฮารีพยายามตั้งสติและข่มความกลัวเอาไว้ อีซังจึงจับมือฮารีเอาไว้ ทันทีที่เครื่องขึ้นแล้ว ฮารีก็รู้สึกดีขึ้น อีซังเองก็ทำตัวไม่ถูกเขาร้อนร้นลุกจากที่นั่งจึงชนเก้าอี้คนอื่นล้มลง แต่ก็รีบลุกและเดินหนีเข้าห้องน้ำไป อีซังรู้สึกหวั่นไหว เขามองตราปั๊มที่ฮารีปั๊มให้เขาและมองหน้าตัวเองในกระจก
แจยองเมื่อรู้ว่าฮารีไปทำงานต่างประหวัดกับอีซังสองต่อสอง เขากังวลใจมาก และคอยโทรหาฮารีตลอดเวลา และยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นไปอีกเพราะมีพายุเข้าทำให้ทั้งคู่กลับมาไม่ได้และต้องค้างคืนด้วยกัน
ฮารีกับอีซังต้องพักค้างคืนเพราะพายุและฝนที่ตกหนัก ทั้งคู่หาที่พักค้างคืนและเจอที่พักเดียวในระแวกนั้น ทั้งคู่จึงได้มีโอกาสพูดคุยกัน ฮารีถามอีซังว่าทำไมเขาถึงมาเป็นช่างภาพ อีซึงจึงเล่าให้ฟังว่าพ่อของเขาชอบถ่ายรูป เขาจึงมีโอกาสได้ตามพ่อตอนที่พ่อไปล้างรูปด้วยกัน ฮารีพูดถึงภาพถ่ายของอีซังว่ามีความอบอุ่นเหมือนกับอีซัง..
เช้าวันต่อมา..
ฮารีตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นอีซังแล้ว เขาจึงเดินหาอีซังและก็เจออีซังกำลังรอถ่ายภาพฝูงนกอยู่ ในขณะที่อีซังกำลังถ่ายรูปฝูงนกอยู่นั้น เขาก็ได้ถ่ายรูปฮารีที่กำลังยิ้มและมีความสุขอยู่ ทั้งคู่ที่กำลังมองหน้ากันกับบรรยากาศทุ่งกว้าง สายลมที่พัดมา ใบหน้าทั้งคู่ค่อยๆใกล้กันเรื่อยๆ แต่ทว่าสุดท้ายอีซังก็เบือนใบหน้าหนีและแสร้งทำเป็นพูดว่าลมแรงชะมัดก่อนจะเดินหลบไปซะงั้น
ระหว่างนั่งรถหลับทั้งคู่อึดอัดใจมาก แจยองร้อนรนจนนั่งไม่ติดที่ฮารีไม่ยอมรับโทรศัพท์ ฮารีเองที่กำลังหาวิธีมัดใจชายในโทรศัพท์พอเห็นว่าแจยองโทรมาก็ส่งข้อความบอกแจยองว่าเธอกำลังประชุมอยู่ และนั่นยิ่งทำให้แจยองหัวเสียเพราะรู้ว่าฮารียังไม่กลับมาแต่กลับบอกว่ากำลังประชุมอยู่ อีซังเอาแต่บอกขอโทษฮารีจนฮารีเสนอและบอกว่าให้อยู่เงียบๆกัน จนกระทั่งเดินทางถึงที่หมาย ก่อนลงจากรถฮารีถามอีซังว่าที่เขาเป็นโสดเพราะชอบผู้ชายใช่มั้ย อีซังปฏิเสธและบอกว่าไม่ใช่แบบนั้น อีซังเองรู้ว่าฮารีรู้สึกเช่นไร เขาบอกกับฮารีว่าหวังว่าการที่เขาปฏิเสธนั้นจะไม่ทำให้ฮารีต้องนอนไม่หลับ ก่อนจะบอกลาฮารีและบอกให้เธอฝันดี
เมื่อกลับถึงบ้านแจยองนั่งรอฮารีอยู่และเอาแต่ถามฮารีว่าทำไมจะต้องค้างคืนกับคุณฮันด้วย ฮารีถามแจยองว่าตัวเธอนั้นเป็นอย่างไร ดูจืดชืดในสายตาเขารึเปล่า แจยองจึงบอกว่าถ้าใครมองว่าฮารีจืดชืดนั้นคงเป็นพวกเกย์แล้ว
เมื่อกลับมาแล้ว อีซังเอาแต่ครุ่นคิดว่าจริงๆแล้วเขาควรจะจูบเธอใช่มั้ย และนั่นเป็นความผิดเขารึเปล่า เขาเอาแต่คิดซ้ำไปซ้ำมาจนหลอนเห็นฮารีมาต่อว่าที่เขาไม่จูบเธอ เขาพยายามอธิบายกับฮารีว่าเขาเองก็พยายามหักห้ามใจและกลัวว่ามันจะเลยเถิดไปกว่าจูบ
ซูชอลขอให้อีซังไปช่วยเขาทำงาน อีซังที่ไม่พร้อมแต่ยังไงก็ต้องไป เขาเจอฮารีและคิดว่าเป็นฮารีที่เป็นภาพหลอนแต่จริงๆแล้ว เป็นฮารีจริงๆ อีซังพยายามตั้งสติในขณะที่ฮารียังคงหาวิธีมัดใจชายและพยายามลองใช้กับอีซัง อีซังจึงคิดว่าฮารีง่วงนอน เขาจึงบอกให้เธอนอนพักก่อน
ฮารีกับอีซังไปทำงานด้วยกัน พวกเขาได้ไปถ่ายทำสองสามีภรรยาที่มาปรึกษาเรื่องการมีลูก อีซังที่เห็นสองสามีภรรยาจับมือกันอยู่ เขาคิดถึงเรื่องราวของตัวเองขึ้นมา
เมื่อเสร็จงาน อีซังจึงพูดกับฮารีว่าเพราะอะไรที่จะต้องทุ่มเทและทำในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ฮารีจึงชี้ให้อีซังดู พ่อแม่ลูกที่พ่อกับแม่กำลังมองลูกน้อยในอ้อมแขนด้วบใบหน้าและรอยยิ้มที่ออกมาจากใจ อีซังจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมฮารีถึงอยากมีลูกมากขนาดนั้น ฮารีที่เชื่อว่าลูกคือปาฏิหาริย์..
อยู่ๆข้อมูลของฮารีกระจายไปในอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ที่สำนักงานดังไม่หยุดหย่อน
ทั้ง อีซัง แจยอง อือตึมต่างเป็นห่วงฮารีเพราะเธอไม่ยอมรับโทรศัพท์ และทั้งหมดก็ไปเจอฮารีพร้อมๆกัน ทั้ง4จึงไปที่ร้านอาหารและนั่งคุยกัน ฮารีบอกกับทุกคนว่าเพราะมีแต่คนโทรหาเธอไม่หยุดจนเธอไม่รับโทรศัพท์ ทุกคนต่างให้กำลังใจและปลอบใจฮารี ฮารีเองได้แต่พูดออกมาว่าเธอนั้นต้องการมีลูกเท่านั้นเอง
เมื่อกลับถึงบ้านแจยองถามฮารีว่าจะแต่งงานกับเขามั้ย ฮารีจึงบอกแจยองว่าถ้าต้องการหาพี่เลี้ยงให้โดฮาก็จ่ายเงินมา แจยองยังยืนยันและถามฮารี แต่ฮารีดูเหมือนว่าจะขีดเส้นว่าแจยองนั้นเหมือนคนในครอบครัวและเธอเองนั้นไม่ได้มองแจยองเป็นผู้ชายคนนึง
อีซังเจอฮารีเขาเอารูปที่ไปถ่ายงานกับฮารีให้ฮารีดู และก็เป็นรูปที่ดีและสวยมากตามที่ต้องการ ก่อนจะแยกกันอีซังสัญญากับฮารีว่าคราวหน้าจะไปถ่ายรูปกับฮารีอีก
เสียงโทรศัพท์ยังดังไม่หยุด ฮารีขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อน
บทสัมภาษณ์ของฮารีเรื่องที่เธอนั้นอยากมีลูกแต่ไม่อยากแต่งงานถูกตีพิมพ์และวางจำหน่ายในนิตยสาร เดอะเบบี้แล้ว เมื่อทุกคนได้อ่าน ทุกคนต่างเข้าใจและเห็นอกเห็นใจฮารี และเข้าใจความรู้สึกของฮารี