สปอยล์ The Red Sleeve ตอนที่ 1
- ด็อกอิมเป็นนางในตั้งแต่เด็ก นางเป็นเด็กฉลาดและมีไหวพริบ และเพราะความฉลาดทำให้หัวหน้าซังกุงเลือกนางให้เป็นตัวแทนเพื่อเคารพศพพระสนมยองบินซึ่งเป็นเสด็จย่าขององค์รัชทายาทอีซาน
- องค์รัชทายาททรงสนพระทัยในการศึกษาเล่าเรียนและมีฮงด๊อกโรเป็นพระสหาย ตั้งแต่ตอนที่พระสนมยองบินประชวรหนักอยู่นั้น ฝ่าบาทไม่ทรงอนุญาตให้องค์รัชทายาทเข้าเฝ้าหรือเยี่ยมพระนาง เพราะองค์ชายซาโดซึ่งเป็นพระโอรสของพระสนมยองบินหรือเสด็จพ่อขององค์รัชทายาทอีซานทรงเป็นอาชญากรที่ถูกประหารไปแล้ว และฝ่าบาทไม่ทรงพระประสงค์ให้องค์รัชทายาทใช้ชีวิตในฐานะลูกของอาชญากร
- องค์รัชทายาททรงวางแผนจะหนีออกจากตำหนักเพื่อไปคารวะศพเสด็จย่าเป็นครั้งสุดท้ายแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเสด็จกลับเพราะเกรงกลัวคำสั่งห้ามของเสด็จปู่ ระหว่างทางกลับองค์รัชทายาททรงพบกับด๊อกอิมที่กำลังหลงทาง พระองค์จึงไปส่งนางที่นั่นแต่ไม่กล้าเข้าไป ด็อกอิมจึงพาพระองค์เข้าไปด้วยกันโดยที่ไม่รู้ว่าพระองค์คือองค์รัชทายาท
องค์รัชทายาททรงกรรแสงและขอโทษต่อหน้าพระศพที่เคยตรัสล่วงเกิน ด๊อกอิมจึงช่วยเช็ดน้ำตาและพูดปลอบใจ เมื่อได้ยินว่าฝ่าบาทกำลังเสด็จมา ด๊อกอิมจึงช่วยองค์รัชทายาทให้รีบหนีไป ด๊อกอิมมีโอกาสอยู่กับฝ่าบาทตามลำพังในห้องเก็บพระศพและได้ฟังเรื่องราวมากมายของพระสนมยองบินจากพระองค์ พระสนมยองบินเคยเป็นนางในซึ่งสวมชุดที่ปลายแขนเสื้อเป็นสีแดงสดซึ่งมีความหมายว่านางในเป็นสตรีของกษัตริย์ ด็อกอิมอยู่เป็นเพื่อนคุยของฝ่าบาทจนเป็นที่พอพระทัย พระองค์จึงประทานตำรา”คุณธรรมสำหรับสตรี”ของพระสนมยองบินให้ด๊อกอิมเป็นรางวัลเมื่อนางทูลว่าอยากโตขึ้นเป็นนางในที่เขียนอักษรได้งดงาม
ขณะที่เฝ้าดูขบวนแห่ส่งพระศพของพระสนมยองบิน โจซังกุงบอกกับด๊อกอิมว่าสตรีในวังหลวงไม่อาจตายในพระราชวังได้นอกเชื้อพระวงศ์เท่านั้น สตรีที่แก่หรือป่วยจะต้องออกจากวังไปและมีอยู่วิธีเดียวที่จะตายในวังได้ก็คือการได้เลื่อนยศเป็นพระสนม ซึ่งโจซังกุงอยากให้ด๊อกอิมเริ่มใฝ่ฝันถึงตำแหน่งนั้นในอนาคต
องค์รัชทายาทเสด็จกลับเข้าตำหนักทงกุงและพบกับฮงด๊อกโรที่กำลังรออยู่เพราะร้อนใจเมื่อรู้ว่าองค์รัชทายาททรงอ่านตำราต้องห้ามของฝ่าบาทเพราะหากทรงล่วงรู้ก็ไม่อาจมีชีวิตรอดต่อไปได้ องค์รัชทายาทมีรับสั่งให้ด๊อกโรนำตำราไปเก็บที่เดิม
ซอซังกุงสั่งสอนด๊อกอิมว่านางคือนางในของตำหนักทงกุงซึ่งต้องถวายการรับใช้องค์รัชทายาท จากนั้นซอซังกุงก็สอนหนังสือเด็กๆทุกคนและบอกกฎข้อห้ามสำหรับนางในซึ่งก็คือตำราลับของฝ่าบาท ซึ่งเขียนไว้ว่ามารดาของพระองค์มาจากครอบครัวที่ต่ำต้อยและเป็นคนรับใช้ที่ได้ขึ้นเป็นนางใน หากผู้ใดอ่านตำราเล่มนี้จะต้องโดนโทษประหาร ในกลางดึกด็อกอิมต้องการออกไปเข้าห้องน้ำและบังเอิญได้รู้ว่ามีคนกำลังคิดจะปลดองค์รัชทายาทเพราะทรงอ่านตำราต้องห้าม พระมเหสีจองซุนจึงทรงรับปากว่าจะทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทเพื่อปลดองค์รัชทายาทให้ได้ จากคำสั่งสอนของซอซังกุงว่าด๊อกอิมคือข้ารับใช้ขององค์รัชทายาท นางจึงไปที่ห้องสมุดในตำหนักทงกุงเพื่อช่วยพระองค์ด้วยการหาตำราเล่มนั้น
เมื่อฝ่าบาททรงทราบว่าองค์รัชทายาทรงอ่านตำราลับเล่มนั้น จึงสั่งให้ขันทีไปค้นหาและนำมาให้พระองค์ ฮงด๊อกโรจึงเข้าไปหาด้วยโดยอ้างว่ามาหาตำราเรียน ด๊อกอิมซึ่งแอบอยู่ในนั้นพร้อมกับตำราลับ นางได้ฉีกหน้านั้นออกและยื่นไปให้ด๊อกโร ขันทีนำตำรามาถวายฝ่าบาทซึ่งพระองค์ทรงเข้าพระทัยว่าองค์รัชทายาทเป็นผู้ฉีกหน้านั้น จึงทรงอภัยและปลาบปลื้มที่องค์รัชทายาททรงช่วยปกป้องเกียรติของพระองค์ หลังจากนั้นองค์รัชทายาททรงพระประชวรเล็กน้อยและขอบใจด๊อกโรที่อ้างว่าเขาเป็นคนฉีกตำราหน้านั้นเอง
พระสนมฮงบินซึ่งเป็นพระมารดาขององค์รัชทายาท ทูลขอให้องค์รัชทายาททรงเชื่อว่านางในน้อยที่กำลังทรงตามหาอยู่นั้นได้ออกจากวังไปแล้วเพื่อเป็นการปกป้องไม่ให้ใครต้องรับโทษ หากฝ่าบาททรงรู้ว่าองค์รัชทายาทแอบเสด็จไปเคารพพระศพเสด็จย่า
หลายปีต่อมา ด็อกอิมออกไปนอกวังในวันหยุดเพื่อนำตำราของนางไปอ่านให้เพื่อนฟัง นางวิ่งจนสะดุดล้มและกลิ้งลงไปตามไหล่ทาง องค์รัชทายาทซึ่งยืนอยู่ตรงนั้นจึงทรงคว้านางไว้