สปอยล์ The Red Sleeve ตอนที่ 12

12


ขณะไต่สวนองค์รัชทายาท ฝ่าบาททรงมีอาการกำเริบและทรงคิดว่ากำลังตรัสอยู่กับองค์ชายซาโดซึ่งเป็นพระโอรสที่ล่วงลับไปแล้ว จนกระทั่งองค์รัชทายาททรงเตือนพระสติว่าพระองค์คืออีซานหลานของเสด็จปู่และข้าราชสำนักก็ยืนยันเช่นนั้น

ทันใดนั้นเองพระมเหสีเสด็จไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อให้ด็อกอิมทูลเรื่อง “คึมดึงจีซา” โจซังกุงพยายามเข้ามาขัดจังหวะโดยอ้างว่าด็อกอิมกำลังทูลเรื่องโกหก ด๊อกอิมไม่รอช้าจึงรีบเล่าเหตุการณ์และทูลถามฝ่าบาทว่า “คึมดึงจีซา” อยู่ที่ใด ในที่สุดฝ่าบาทก็ทรงนำเอกสารฉบับนั้นออกมาจากผนังด้านหลังราชบัลลังก์และทรงยืนยันว่าเป็นลายพระหัตถ์ของพระองค์เองพร้อมด้วยตราพระราชลัญจกร บัดนี้พระองค์ทรงจำคำสัญญานั้นได้แล้วจึงมีรับสั่งให้ราชเลขาจองไปนำเสด็จองค์หญิงฮวาวานมาเข้าเฝ้าเพื่อมอบพระราชลัญจกรให้กับองค์รัชทายาทอีซาน เพื่อให้ทุกคนในที่นั้นเป็นพยานและทรงตรัสว่าพระองค์ไม่สามารถทรงงานในฐานะกษัตริย์ได้อีกต่อไป ดังนั้นพระราชลัญจกรนี้จึงเป็นขององค์รัชทายาท

โจซังกุงรีบทำลายเอกสารทุกอย่างที่พระราชวังควางฮันและส่งต่ออำนาจพร้อมกับเสื้อครุยกษัตริย์ให้นางกำนัลวอลฮเยผู้เป็นหลานสาวเพื่อให้สืบทอดเจตนารมย์ต่อไป ต่อมาผู้ตรวจการพบว่าโจซังกุงคือผู้บงการทำร้ายองค์รัชทายาทด้วยเหตุผลที่องค์รัชทายาทเป็นสายเลือดของพระสนมยองบินซึ่งเป็นศัตรูหัวใจของนาง ฝ่าบาททรงไว้ชีวิตและขอให้นางไปอยู่ที่อื่นไกลๆเพราะไม่อยากเห็นนางตายต่อหน้า แต่โจซังกุงตัดสินใจฆ่าตัวตายต่อหน้าพระองค์

องค์รัชทายาททรงตรัสกับด็อกอิมว่าพระองค์ได้ตัดสินพระทัยที่จะบอกความในใจกับนางในอีกไม่นาน และพระองค์ก็ทรงต้องการคำตอบจากนางเช่นกันเมื่อถึงเวลานั้น

ราชเลขาจองขออภัยองค์รัชทายาทและขอรับโทษแทนองค์หญิงฮวาวานในฐานะบุตรบุญธรรมของพระนาง แต่องค์รัชทายาทมิได้ทำเช่นนั้นและทรงรับปากว่าจะไม่เอาโทษองค์หญิง หลังจากนั้นราชเลขาจองก็ทูลลาองค์หญิงโดยบอกว่าแม้ตายไปก็จะไม่มีวันลืมที่องค์หญิงทรงรับเลี้ยงเขามาเป็นบุตรบุญธรรม ถึงแม้ว่าองค์หญิงจะทรงอ้อนวอนให้กลับมาอย่างไร แต่ราชเลขาจองก็ไม่เปลี่ยนใจ ก่อนที่ฝ่าบาทจะสิ้นพระชนม์ในอ้อมกอดขององค์รัชทายาท พระองค์ทรงสั่งเสียไว้สองเรื่องในฐานะกษัตริย์และทรงขอโทษในฐานะปู่

ต่อมาองค์รัชทายาทได้เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่และทรงงานยุ่งอยู่ตลอดเวลา ด็อกอิมซึ่งนำยาไปถวายจึงต้องรอพระองค์อยู่นานไม่ว่าจะกี่ชั่วโมงก็ตาม ฝ่าบาททรงมีพระประสงค์อยากให้ด๊อกอิมอยู่ข้างพระวรกายในฐานะพระสนม และทรงให้เวลาสองสามวันเพื่อให้นางตัดสินใจเพราะทรงต้องการสร้างครอบครัวกับนาง