สปอยล์ The Red Sleeve ตอนที่ 14

14

ด็อกอิมรอฝ่าบาทอยู่ที่ตำหนักทงกุงจนกระทั่งหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาจึงพบว่าตนเองซบอยู่ที่ไหล่ของฝ่าบาท พระองค์ทรงตรัสว่านางทำให้พระทัยของพระองค์สั่นคลอนแม้กระทั่งเวลาทรงงาน จากนั้นพระองค์จึงตรัสให้นางกลับไปนอนเมื่อเห็นว่านางเหนื่อยล้า

ฝ่าบาททรงไล่คนจากตำหนักสังเกตการณ์ออกไปกว่าครึ่งรวมทั้งผู้ที่รับสินบนยกเว้นฮงด็อกโร ราชองครักษ์เตือนด็อกโรว่าฝ่าบาททรงกริ้วเพียงแต่ไม่ตรัสออกมาเท่านั้น ด็อกโรกระหยิ่มใจว่าตนเองคือผู้ที่ครองพระทัยฝ่าบาทและพระองค์ก็จะทรงให้อภัยเสมอ แต่เมื่อรู้ว่าพระองค์มีดำริจะสร้างปราสาทฮวาซอง เขาจึงแปลกใจว่าเหตุใดฝ่าบาทไม่เคยตรัสหารือกับเขาเรื่องนี้เลย

ด็อกอิมทูลขอร้องฝ่าบาทให้เอาพระทัยใส่พระสนมวอนบินบ้างเพราะนางกำลังเป็นโรคซึมเศร้าและยังปรับตัวกับชีวิตในวังไม่ได้ ฝ่าบาทไม่พอพระทัยที่ด็อกอิมกำลังผลักไสพระองค์ไปหาหญิงอื่นโดยไม่สนใจความรักที่พระองค์ทรงมีต่อนาง จึงทรงอยากรู้ว่าด็อกอิมรักพระองค์หรือไม่ ด็อกอิมไม่ทูลความจริงในใจนอกจากนางไม่เคยคิดจะเป็นสตรีของพระองค์เลยแม้สักครั้งเดียว

ฝ่าบาททรงคิดจะใช้วิธีบังคับเพื่อให้ด็อกอิมมาอยู่เคียงข้าง แต่ซอซังกุงทูลให้สติว่าการกระทำเช่นนั้นไม่ใช่เนื้อแท้ของพระองค์ พระสนมอยู่ในอาการวิกฤติและจากไปอย่างกะทันหัน เหล่าเสนากำลังแคลงใจสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระสนมวอนบินและฮงด็อกโรจะมีแผนการอย่างไรต่อไป ฮงด็อกโรไม่เชื่อว่าพระสนมประชวรแต่ถูกลอบสังหาร

ฝ่าบาททรงทราบแล้วว่าตอนนี้ฮงด็อกโรคือผู้นำสมาชิกในเครือข่ายของโจซังกุงที่ตายไปแล้ว เพราะข้อมูล เครือข่าย และเงินทุนของนาง ทุกอย่างตรงไปที่ฮงด็อกโร นอกจากนั้นเขายังซื้อขายตำแหน่งให้กับครอบครัวผู้มีอำนาจและรับสินบนจากเหล่าพ่อค้า

คยองฮีมักจะมีอคติกับฮงด็อกโรเสมอ แต่อย่างน้อยด็อกอิมก็อยากให้คยองฮีร่วมไว้อาลัยพระสนมวอนบินซึ่งเป็นน้องสาวของเขา จู่ๆ คยองฮีและนางกำนัลอีกหกคนก็หายตัวไปพร้อมกับคนที่ถวายยาให้พระสนมด้วย ซอซังกุงนำเรื่องนี้ไปทูลฝ่าบาท จึงทรงเรียกฮงด็อกโรมาเข้าเฝ้าซึ่งเขาทูลว่าเพิ่งทราบเรื่องนี้และไม่มีอะไรน่ากังวลเพราะนางกำนัลมักจะปลิดชีพตนเองอยู่บ่อยๆ และเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ฮงด็อกโรตามหานางกำนัลทั้งหมดที่หายตัวไป

ด็อกอิมต้องการตามหาคยองฮีโดยถามเบาะแสจากสาวใช้ซัมวอลซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่พบคยองฮี ด็อกอิมแปลกใจที่ซัมวอลไม่ตอบคำถามนอกจากพูดเรื่องวิญญาณ ราวกับว่านางกำลังปิดบังอะไรอยู่

พระพันปีทรงโปรดด็อกอิมมาก เพราะนางคือคนที่เล่านิทานพื้นบ้านได้ถูกพระทัยและเป็นคนที่เข้าใจพระนางที่สุด จึงทรงตรัสว่าเป็นห่วงด็อกอิมและจะทรงช่วยเหลือทุกอย่างหากนางมีเรื่องลำบากใจ

ด็อกอิมโดดลงไปในสระน้ำเพื่อเก็บถุงหอมที่ลอยมาเพราะคิดว่าเป็นของคยองฮี ฝ่าบาททรงรีบกระโดดไปช่วยเพราะทรงคิดว่าด็อกอิมกำลังคิดสั้น ต่อมานางจึงทูลทั้งน้ำตาว่าสหายคนสนิทของนางหายตัวไป ฝ่าบาทจึงทรงรับปากว่าคยองฮีจะต้องได้กลับมาพร้อมทั้งขอคำมั่นจากฮงด็อกโรที่เข้าเฝ้าอยู่ด้วย

ฝ่าบาททรงเป็นห่วงความปลอดภัยของด็อกอิม จึงมีรับสั่งกับซอซังกุงให้จับตาดูด็อกอิม ไม่ว่านางจะไปที่ไหนอยู่กับใครหรือทำอะไร และคอยรายงานท่านราชองครักษ์ ราชองครักษ์นำเสด็จฝ่าบาทไปที่สมาคมลับของโจซังกุงซึ่งพระองค์เคยมีรับสั่งให้ฮงด็อกโรเผาทิ้ง เมื่อเสด็จไปถึงจึงทรงแอบดูและเห็นกลุ่มของนางในที่หายตัวไปถูกขังอยู่ที่นั่นจนกระทั่งฮงด็อกโรเข้ามา จากนั้นจึงรับสั่งให้ท่านราชองครักษ์จับตาดูฮงด็อกโรและช่วยนางในเหล่านั้นให้ได้

ฝ่าบาททรงเรียกฮงด็อกโรเข้าเฝ้าเพื่อลองใจ โดยถามความเห็นของเขาหากพระองค์มีเป้าหมายจะยกเลิกระบบทาส และพระองค์ก็ทรงได้คำตอบว่าด็อกโรไม่ได้ให้ความสำคัญกับชนชั้นต่ำหรือแม้กระทั่งนางในซึ่งเขาคิดว่าหาคนมาทดแทนเมื่อใดก็ได้

ฝ่าบาททรงครองราชย์มาสามปีและทรงคิดว่าได้วางรากฐานบางอย่างไว้แล้ว พระพันปีทรงต้องการให้ฝ่าบาทมีพระสนมคนใหม่ แต่ฝ่าบาททรงต้องการเลือกเองโดยไม่ให้พระพันปีเลือกให้ แลกกับการย้ายพี่ชายของพระนางที่ถูกเนรเทศให้ได้ย้ายกลับมาอยู่ใกล้เมืองหลวง

ด็อกอิมและเพื่อนๆ ไปหาซัมวอลที่เรือนทาสเพื่อสืบเบาะแสของคยองฮี พวกนางรีบชาวยซัมวอลที่กำลังผูกคอตาย ซัมวอลเล่าความจริงว่าฮงด็อกโรสั่งให้นำยาพิษไปซ่อนไว้ที่ห้องของพระสนมวอนบินเพื่อใส่ร้ายพระมเหสี แต่ซัมวอลไม่ต้องการให้ครอบครัวของนางถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏหากใส่ร้ายพระมเหสี นางจึงคิดจะผูกคอตายเพียงคนเดียว นอกจากนั้นนางในที่หายตัวไปก็เป็นฝีมือของฮงด็อกโร

ด็อกอิมคิดจะไปตามหาคยองฮีที่สมาคมลับของโจซังกุง และสั่งเพื่อนๆไว้ว่าหากนางไม่กลับมาภายในเที่ยงของวันพรุ่งนี้ ขอให้นำตำราที่เขียนไว้ไปถวายพระพันปีซึ่งนางจะเขียนจดหมายสอดไว้เพื่อทูลความจริงทั้งหมดรวมทั้งเรื่องของฮงด็อกโรด้วย เพราะพระนางคือผู้มีอำนาจที่จะช่วยเหลือเรื่องนี้ได้

ด็อกอิมลงไปที่ห้องใต้ดินและเผชิญหน้ากับฮงด็อกโรที่กำลังทรมานนางในคนหนึ่ง เขาบังคับให้ด็อกอิมเขียนหนังสือเพื่อสร้างหลักฐานใส่ร้ายพระมเหสีคิม แต่ทันใดนั้นเองฝ่าบาทก็เสด็จมาพร้อมกับทหารราชองครักษ์ ฮงด็อกโรและลูกน้องจึงถูกควบคุมตัวไป เหล่านางในได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย ต่อมาฮงด็อกโรทูลว่าเขาทำลงไปก็เพราะการสูญเสียพระสนมวอนบินซึ่งเป็นน้องสาว แต่ฝ่าบาททรงตรัสว่าพระองค์ทรงให้อภัยครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในครั้งนี้พระองค์ทรงทราบแล้วว่าเขาจะเป็นภัยต่อบ้านเมืองและการปกครองของพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงต้องกำจัดเขา แต่ราชองครักษ์ทูลขอให้ไว้ชีวิตฮงด็อกโร

เช้าวันต่อมาฝ่าบาททรงแจ้งต่อราชสำนักว่าฮงด็อกโรขอลาออกจากตำแหน่งราชเลขา พระองค์จึงจะอวยยศให้เขาเป็นบงโชฮาและทรงรับการลาออกของเขา ฝ่าบาททรงต่อว่าด็อกอิมที่ทำลายแผนการของพระองค์ด้วยการบุกไปช่วยคยองฮีเพียงลำพังและยังลากพระพันปีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยการเขียนจดหมายทูลพระนาง แต่ด็อกอิมทูลเหตุผลของนางที่ไม่ต้องการสูญเสียสหายรักไปหากมัวแต่รอเวลาที่ฝ่าบาทจะทรงลงมือ ทั้งคู่ถกเถียงกันด้วยอารมณ์และความโกรธ แต่แม้จะทรงกริ้วเพียงใด ฝ่าบาทก็มิอาจลงโทษนางได้เพราะนางคือหญิงเดียวที่พระองค์ทรงรักและปรารถนาจะสร้างครอบครัวด้วย ด็อกอิมจึงปฏิเสธว่านางไม่เคยมีใจให้พระองค์และจะไม่มีวันนั้นด้วย ฝ่าบาทจึงทรงคว้านางเข้ามาจุมพิต