สปอยล์ The Red Sleeve ตอนที่ 16

ฝ่าบาททรงสารภาพกับด็อกอิมว่าคิดถึงนางมากและอยากให้นางกลับมาเหมือนเดิม ด็อกอิมจึงทูลว่านางขออยู่ในตำแหน่งเดิมเท่านั้น พระสนมฮวาบินที่ยังคงริษยาด็อกอิมทรงเข้าหาพระพันปีเพื่อทูลขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่าต้องการมีทายาท มิเช่นนั้นแล้วตนเองก็คงไร้ความหมายและถูกทอดทิ้ง

ซองชิกได้รับตำแหน่งงานในสำนักราชองคงรักษ์ ด็อกอิมดีใจกับพี่ชายที่จะได้เป็นทหารเหมือนท่านพ่อ พระพันปีทรงทูลขอฝ่าบาทให้ยกเลิกการเนรเทศคิมกึยจูพระเชษฐาของพระนางเนื่องจากอาการป่วย ฝ่าบาทมิได้ทำตามพระประสงค์แต่ตรัสว่าจะส่งหมอหลวงไปดูอาการซึ่งทำให้พระพันปีไม่ค่อยพอพระทัยเท่าไรนัก

จากนั้นพระนางจึงทูลขอให้ฝ่าบาทเสด็จไปหาพระสนมฮวาบินในตอนค่ำ พระพันปีอยากให้ด็อกอิมมาอยู่ด้วยและทรงรับปากว่าจะปฏิบัติต่อนางให้ดีกว่าพระสนมฮวาบิน แต่ด็อกอิมปฏิเสธ หลังจากนั้นพระพันปีและพระสนมฮวาบินจึงทรงร่วมมือกันกลั่นแกล้งด็อกอิม โดยใส่ร้ายว่านางมีความสัมพันธ์กับทหารในสำนักราชองครักษ์ซึ่งเมื่อใดที่มีอาหารและยาดีๆ นางก็จะนำไปให้เขา อีกทั้งแอบไปพบกันในวันหยุดรวมทั้งหลักฐานปลอกแขนกันหนาวที่ซองชิกเคยซื้อให้ด็อกอิม

ซอซังกุงรีบนำเรื่องนี้ไปทูลกับพระมารดาหลวงซึ่งอธิบายให้พระพันปีทรงทราบว่าชายผู้นั้นก็คือพี่ชายของด็อกอิม หลังจากนั้นฝ่าบาทจึงตัดสินพระทัยไม่ให้ด็อกอิมไปทำงานที่ตำหนักของพระสนมอีกต่อไปและมีรับสั่งให้ซอซังกุงพาด็อกอิมมาถวายตัวที่ตำหนักของพระองค์ในคืนนี้ด้วย ต่อมาด็อกอิมได้รับตำแหน่งซังกุงพิเศษ ฝ่าบาทเสด็จมาหาด็อกอิมบ่อยๆ ด้วยความคิดถึงหลังจากเสร็จพระราชภารกิจซึ่งนางก็คิดถึงพระองค์เช่นกัน ทรงตรัสว่าความรักของพระองค์ไม่เหมือนกับของเสด็จปู่เพราะพระองค์จะทรงปกป้องคนที่รักตลอดไป ด็อกอิมยังไม่แน่ใจว่าตนเองตั้งครรภ์หรือเปล่า จึงส่งคนไปทูลว่าคืนนี้นางถวายงานไม่ได้แต่ฝ่าบาทก็เสด็จมาค้างคืนกับนางโดยมิได้ล่วงเกินเพราะทรงคิดว่าด็อกอิมไม่สบาย

วันต่อมาด็อกอิมและเพื่อนๆ ต่างก็ดีใจเมื่อรู้ว่านางตั้งครรภ์ ด็อกอิมเฝ้ารอฝ่าบาทเสด็จมาหาเมื่อทรงทราบข่าวดี แต่จู่ๆ ราชองครักษ์ก็มาบอกว่าพระองค์เสด็จมาไม่ได้ จนกระทั่งซอซังกุงบอกว่าฝ่าบาทจะค้างที่ตำหนักพระมเหสี เพราะด็อกอิมที่เพิ่งถวายตัวเข้ามาเพียง 3 เดือนก็ตั้งครรภ์แล้ว เป็นธรรมดาที่ฝ่าบาทจะต้องไปปลอบโยนพระนาง พระองค์กำลังไปทำหน้าที่กษัตริย์ แม้ด็อกอิมจะน้อยใจแต่นางก็บอกกับซอซังกุงว่าฝ่าบาทไม่ใช่สวามีของนาง แต่พระองค์ทรงเป็นพระสวามีของพระมเหสี นางไม่อาจเรียกร้องสิ่งใดหรือคาดหวังอะไร นางรู้ดีมาตลอด

ฝ่าบาทเสด็จมาหาด็อกอิมในวันต่อมา พระองค์ทรงดีพระทัยมากที่จะได้เป็นครอบครัวกับด็อกอิม ไม่ว่าลูกในครรภ์จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม ด็อกอิมได้แต่เพียงเดินมาส่งเพื่อนๆ ออกไปนอกวังในวันหยุด ซึ่งต่อจากนี้ไปนางหมดสิทธิ์ที่จะได้ออกไปสนุกสนานกับเพื่อนๆ เหมือนเช่นเดิมอีกต่อไปแล้ว ด็อกอิมนอนร้องไห้จนกระทั่งหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาจึงเห็นฝ่าบาทกำลังทรงพระอักษร หากด็อกอิมให้กำเนิดบุตรชาย นางก็จะได้เลื่อนขั้นเป็นพระสนมขั้นบินและทรงตั้งนามใหม่ให้นางว่า “อึย” ซึ่งทรงหมายถึงความรักใคร่ของคู่สามีภรรยาอย่างที่พระองค์ทรงต้องการสร้างครอบครัวกับนาง แม้ว่าด็อกอิมจะรู้สึกมีความสุขในตอนนี้ แต่นางก็ไม่รู้ว่าจะสุขไปได้อีกนานแค่ไหน จากนั้นจึงจับพระหัตถ์ของฝ่าบาทไปสัมผัสลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง