สปอยล์ The Red Sleeve ตอนที่ 2
องค์รัชทายาทอีซานตั้งพระทัยจะล่าเสือให้ได้ หลังจากที่มันฆ่าคนตายไปหลายคน พระองค์เสด็จออกนอกวังโดยไม่ได้ขออนุญาตจากฝ่าบาท ขณะที่กำลังหารือกับคังแทโฮอยู่นั้น ด็อกอิมที่หกล้มไถลลงมาจึงชนกับพระองค์และตกลงไปในสระน้ำด้วยกัน แต่ทั้งคู่ก็ยังมิได้เห็นหน้ากัน องค์รัชทายาทรีบเสด็จกลับวังและสั่งขันทีให้บอกนางให้เขียนจดหมายขอโทษพระองค์และนำไปที่ตำหนักทงกุงภายในสามวัน
องค์รัชทายาทได้รับจดหมายปริศนาซึ่งเขียนว่าบุตรของอาชญากรไม่สมควรเป็นกษัตริย์ ในคืนนั้นที่ตำหนักทงกุงจึงจุดเทียนสว่างไสวทั้งคืนเพื่อเฝ้าระวัง ฮงด็อกโรขอให้องค์รัชทายาททรงอดทนเพราะเขาจะตามหาผู้บงการให้ได้ต่อให้ใช้เวลาเป็นปีก็ตาม
ด็อกอิมตั้งใจเขียนจดหมายขอโทษต่อองค์รัชทายาทและถามซอซังกุงว่าตอนไหนที่องค์รัชทายาทจะอารมณ์ดีที่สุด แต่เมื่อได้ข่าวว่าเกิดเรื่องที่ตำหนักทงกุงเมื่อคืนนี้ ซอซังกุงจึงบอกด็อกอิมว่าตอนนี้องค์รัชทายาทคงจะอารมณ์ไม่ดีเสียแล้ว ด็อกอิมไปทำความสะอาดห้องสมุดตามหน้าที่และคัดลอกตำราต่างๆ นางได้ยินเสียงขององค์รัชทายาทที่กำลังศึกษาอยู่ที่ตำหนักด้านข้างและตอบคำถามของเหล่าอาจารย์ได้เป็นอย่างดี จึงรู้สึกชื่นชมว่าพระองค์ทรงเป็นบุคคลที่น่าเคารพ ถึงแม้ว่าเหล่านางในจะเกรงกลัวพระองค์ก็ตาม หลังจากนั้นองค์รัชทายาทก็เสด็จมาที่ห้องสมุดและได้พบกับด็อกอิม แต่นางไม่รู้จักพระองค์และมีปากเสียงกันเพราะคิดว่าพระองค์บังอาจเข้ามาที่ห้องสมุดนี้ซึ่งเป็นขององค์รัชทายาทผู้เป็นเจ้านายของนาง จากนั้นนางก็ใช้ไม้กวาดไล่พระองค์ออกไป
โจซังกุงต้องการให้ด็อกอิมคัดลอกตำรา “จูจาแทจอน” แต่ด็อกอิมปฏิเสธเพราะคิดว่ามันยากกว่าตำราทั่วไปที่นางคัดลอกอยู่ แต่ถึงอย่างไรโจซังกุงก็ยังต้องการให้ด็อกอิมคัดลอกพร้อมกับให้เครื่องประดับประจำตัวของนางไปด้วย ด็อกอิมจำต้องรับไว้และเดินบ่นอยู่คนเดียวในห้องสมุดซึ่งองค์รัชทายาทกำลังอยู่ที่นั่น จึงตรัสถามด้วยความสงสัยว่านางได้ของมีค่าชิ้นนั้นมาจากไหน องค์รัชทายาททรงสงสัยว่าด๊อกอิมเป็นสายลับและมองนางเป็นเพียงนางในชั้นต่ำ ด็อกอิมจึงโต้ตอบไปว่าต่อไปนางอาจจะได้เป็นสนมขั้น 5 ก็ได้ ซึ่งคำพูดนี้ทำให้องค์รัชทายาททรงนึกถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยพูดไว้ องค์รัชทายาททรงต้องการให้ด็อกอิมแก้ตัวและแจงเหตุผลว่าทำไมจึงแอบฟังการเรียนของเชื้อพระวงศ์และมีตำราแบบที่รัชทายาทเรียน ด็อกอิมจึงทูลให้ฟังว่านางมีหน้าที่คัดลอกตำราซึ่งพวกนางในมักจะทำกันในวันหยุดเพื่อหารายได้เสริม แต่พระองค์ไม่ทรงเชื่อว่าเป็นลายมือของนางในเช่นนาง ด็อกอิมจึงเขียนให้พระองค์ทรงทอดพระเนตรอีกครั้ง ด็อกอิมทึกทักเองว่าพระองค์คือพระอาจารย์ขององค์รัชทายาท พระองค์จึงทรงไปตามน้ำและตรัสว่าชื่อฮงด็อกโร ด็อกอิมแปลกใจเพราะคิดว่าฮงด็อกโรควรมีใบหน้าที่หล่อเหลากว่านี้อย่างที่นางในหลายคนหลงใหล องค์รัชทายาททรงสั่งห้ามด็อกอิมไม่ให้แอบฟังขณะที่พระองค์ทรงศึกษาอีก
ฮงด็อกโรพาองค์รัชทายาทไปแอบดูเหล่านางในเตรียมซ้อมงานเทศกาลฉลอง และเห็นด็อกอิมกำลังอ่านตำราให้ทุกคนฟัง ซึ่งเป็นเรื่องราวของสองพี่น้องที่ได้ความรักจากพ่อไม่เท่ากัน พี่ชายโทษน้องว่าเกิดมาเพื่อฆ่าเขา องค์รัชทายาทได้ยินดังนั้นจึงทรงนึกถึงเสด็จพ่อที่เคยว่าพระองค์แบบนั้นเมื่อครั้งที่เสด็จปู่ทรงไล่ออกจากวังและต้องการเก็บองค์รัชทายาทไว้เท่านั้น ต่อมาองค์รัชทายาททรงสั่งห้ามด็อกอิมไม่ให้เล่านิทานให้ผู้ใดฟังอีก
ด็อกอิมพบฮงด็อกโรโดยบังเอิญและสะดุดตาใบหน้านั้นโดยที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร นางคิดว่าจะไม่แปลกใจเลยหากเขาเป็นอาจารย์คนนั้นที่เหล่านางในหลงใหล ฝ่าบาททรงกังวลเรื่องที่องค์รัชทายาทใช้เหล่าองครักษ์ในการจับเสือเพราะองครักษ์มีหน้าที่คุ้มกันองค์รัชทายาทเท่านั้น ด็อกโรรับปากฝ่าบาทว่าจะทูลให้องค์รัชทายาททรงทราบ
ถึงกำหนดเวลาที่ด็อกอิมจะต้องนำจดหมายขอโทษไปถวายองค์รัชทายาท แต่นางโดนพระองค์กลั่นแกล้งให้กลับไปก้ไขอีกหลายๆครั้ง นางหมดปัญญาไม่รู้จะทำเช่นไรจึงจะถูกใจพระองค์ ด็อกอิมได้พบกับองค์รัชทายาทอีกครั้งในห้องสมุดและบังเอิญพบแผนที่ล่าพยัคฆ์ที่พระองค์ทรงกำลังค้นหา
ในคืนเทศกาลของเหล่านางใน องค์รัชทายาทมีรับสั่งให้ด็อกอิมเข้างาน นางจึงไปคัดลอกตำราที่ห้องสมุดและไม่ได้ไปฉลองกับเพื่อนๆ องค์รัชทายาทเสด็จออกนอกวังเพื่อล่าเสือและพบร่องรอยว่ามันกำลังมุ่งหน้าไปที่ราชวัง พระองค์จึงรีบเสด็จกลับทันทีและขอร้องด็อกอิมให้ไปอ่านตำราให้ฝูงชนฟัง เพราะนางคือผู้เดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้