สปอยล์ The Red Sleeve ตอนที่ 4
ด็อกอิมรู้สึกว่าตนเองโง่และถูกหลอกเมื่อได้รู้ตัวตนที่แท้จริงขององค์รัชทายาท ฮงด็อกโรทูลว่าเขารู้เบาะแสของจดหมายนิรนามแล้ว แต่องค์รัชทายาททรงต้องการหลักฐานที่ชัดเจนและตรัสว่ามีคนแอบลอบสังหารพระองค์ขณะที่กำลังเล็งธนูยิงเสือ จึงมีรับสั่งให้หาตัวคนร้ายซึ่งเป็นหนึ่งในองครักษ์ของพระองค์
ด็อกอิมและเพื่อนๆ ได้เลื่อนขั้นจากนางในฝึกหัดเป็นนางในระดับเก้าและต้องไปทำงานที่ตำหนักทงกุงซึ่งนางไม่อยากไปที่นั่น ด็อกอิมไปเก็บของใช้ที่ห้องสมุดและได้พบกับองค์รัชทายาท ทรงตรัสว่าไม่ได้ตั้งใจหลอกหรือปิดบังตัวตนที่แท้จริงแต่ว่านางคิดไปเองและพระองค์ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับสาวใช้อย่างนาง แต่ด็อกอิมต้องการให้พระองค์ขอโทษซึ่งเป็นสิ่งที่กษัตริย์ควรหัดไว้เพื่อขอโทษประชาชนเมื่อทบทวนความผิดพลาดของตัวเอง องค์รัชทายาททรงตรัสว่าจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างนางกับพระองค์และต่อไปนี้ก็อย่ามาอยู่ต่อหน้าพระองค์อีก
ด็อกอิมมีความสามารถในการฝนหมึกและลายมืองดงาม นางจึงได้รับเลือกให้เป็นนางในประจำห้องพระอักษรขององค์รัชทายาท พระองค์ทรงมีรับสั่งให้หมั่นเติมน้ำเพื่อฝนหมึกอยู่เสมออย่าได้ขาด ขณะที่นั่งทรงพระอักษรในยามค่ำคืน ด็อกอิมเปิดหน้าต่างและนั่งมองสายฝนที่กำลังตกโดยไม่รู้ว่าองค์รัชทายาททรงกำลังแอบมองนางและแย้มพระสรวล เมื่อถึงเวลากลับเรือนแต่ฝนยังตกอยู่ ฮงด็อกโรจึงกางร่มให้ด็อกอิมและอาสาไปส่งนาง ด็อกอิมแปลกใจที่เขารู้ชื่อสกุลของนางซึ่งเขาบอกว่าตอนแรกว่าจะรอให้นางแนะนำชื่อตัวเองก่อน จากนั้นด็อกโรก็ขอตัวกลับและบอกว่าไม่ควรพบนางบ่อยๆเพราะว่านางเป็นนางใน ด็อกโรมอบร่มให้นางและเดินตากฝนกลับไป เมื่อกลับถึงบริเวณเรือนพักด็อกอิมแปลกใจที่เห็นกลุ่มนางในรวมทั้งเพื่อนๆของนางกำลังยืนรออยู่ เพราะต้องการรู้ว่าด็อกอิมคือนางในที่อาจารย์ฮงด็อกโรเดินมาส่งหรือไม่ แต่ด็อกอิมได้มอบร่มคันนั้นให้กับรุ่นน้องระหว่างทางไปเสียก่อน
เมื่อถึงวันพบครอบครัวนอกวัง ทุกคนต่างก็มีญาติมารอรับที่ประตูหน้ายกเว้นด็อกอิม นางจึงไปที่บ้านของพ่อแม่บุญธรรมที่รับนางมาเลี้ยงตามคำสั่งของพระชายาซึ่งเป็นพระมารดาขององค์รัชทายาท เพราะในตอนนั้นพี่ชายของด็อกอิมได้ขอร้องพระนาง เนื่องจากพ่อแม่ของตนที่รับใช้พระสวามีของพระนางได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว ด็อกอิมได้พบกับพระชายาที่บ้านของพ่อแม่บุญธรรมและต้องการตอบแทนบุญคุณของพระนาง พระนางจึงขอให้ด็อกอิมคอยรายงานเรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์รัชทายาททุกอย่าง เพราะทรงต้องการปกป้องโอรสของพระองค์ ในช่วงนี้พระชายาจะประทับอยู่ที่นี่ซึ่งเป็นบ้านของต้นตระกูลและได้มอบป้ายผ่านทางให้ด็อกอิมเพื่อเข้าออกวังและมารายงานพระองค์ได้ตลอดเวลา
องค์หญิงฮวาวานทรงมองด็อกอิมเป็นศัตรูเมื่อรู้ว่านางคือคนที่ขอพระราทานอภัยโทษให้องค์รัชทายาท จากนั้นจึงทรงหาเรื่องกลั่นแกล้งและใส่ร้าย องค์รัชทายาทเสด็จออกมาปกป้องนางไว้ องค์หญิงฮวาวานจึงนำเรื่องกราบทูลพระมเหสีผู้อยู่สูงสุดของฝ่ายในเพื่อให้โบยด็อกอิมหนึ่งร้อยที แต่พระมเหสีทรงเห็นว่าหนักเกินไปและอาจถึงชีวิตได้ จึงตัดสินพระทัยให้ตัดเบี้ยหวัดของด็อกอิมครึ่งปีซึ่งองค์รัชทายาทมิอาจขัดได้ ถึงกระนั้นองค์หญิงฮวาวานก็ยังไม่พอพระทัยและต้องการโบยด็อกอิมหนึ่งร้อยทีเช่นเดิม พระมเหสีจึงทรงถ่วงเวลาโดยอ้างว่าเตรียมอาหารถวายการต้อนรับองค์หญิงจนกระทั่งฝ่าบาทเสด็จมาและทรงเห็นด็อกอิมอยู่ที่นั่นด้วย
พระมเหสีจึงทูลเรื่องราวทั้งหมดและตรัสว่ากำลังหารือเรื่องการลงโทษนาง ฝ่าบาททรงตัดสินให้องค์รัชทายาทเป็นผู้ลงโทษเพราะด็อกอิมเป็นคนของตำหนักทงกุงซึ่งเป็นที่ประทับขององค์รัชทายาท องค์รัชทายยาททรงตัดสินพระทัยตัดเบี้ยหวัดของด็อกอิมเป็นเวลาหกเดือนซึ่งทำให้ฝ่าบาททรงพอพระทัย องค์หญิงฮวาวานจึงไม่อาจขัดได้ ฝ่าบาทยังทรงตรัสอีกว่าหากด็อกอิมโดนโทษหนักกว่านี้ พระองค์ก็จะทรงออกมาปกป้องนางเอง
พระชายาทรงได้ข่าวว่าองค์รัชทายาทจะเสด็จไปที่หอคณิกาเพราะสนิทกับใต้เท้าคิมและใต้เท้าจอง พระนางจึงมีรับสั่งให้ด็อกอิมสืบเรื่องนี้ ด็อกอิมแอบตามองค์รัชทายาทไปและได้พบกับฮงด็อกโรที่สั่งให้นักฆ่าสังหารนาง แต่องค์รัชทายาทเสด็จออกมาห้ามไว้