สปอยล์ Secret Royal Inspector And joy ตอนที่ 2
อีออนวางแผนที่จะสืบคดีฆาตกรรมผู้ตรวจการลับพัคมูกยอง จึงสั่งให้ยุกชิลแต่งตัวให้ดีและอ้างว่าเป็นหัวหน้าเสมียนซึ่งเป็นหลานชายของใต้เท้าโอแห่งซาฮอนบู เพื่อที่จะได้เข้าไปในจวนเจ้าเมืองจางกีวาน จางกีวานสั่งให้ผู้ช่วยของเขาไปหาบัญชีลับที่บ้านของโบรี ระหว่างที่จางกีวานให้การต้อนรับ อีออนสังเกตว่าจางกีวานมีท่าทางพิรุธหลังจากยุกชิลถามเรื่องคนตายในหมู่บ้าน
โจอีไปที่บ้านของโบรีเพื่อจัดการเผาสิ่งของส่งไปให้ตามความเชื่อ นางพบสมุดบัญชีลับซึ่งเป็นเอกสารของจวนเจ้าเมืองที่ถูกไฟเผาไปบางส่วนแล้ว ผู้ช่วยเจ้าเมืองไปด้อมๆมองอยู่ที่หน้าบ้านโบรีเพื่อหาสมุดบัญชีลับแต่ก็บังเอิญพบจางพัดซุนแม่สามีของโจอีที่กำลังมาตามหานาง ทั้งคู่จึงไปดื่มกินด้วยกันที่บ้านของนางจนกระทั่งเมา จางพัดซุนพยายามยั่วยวนผู้ช่วยเจ้าเมืองแต่ก็ไม่สำเร็จ
ขณะที่พัคแทซอกำลังหลอมแร่ให้เป็นเงินตราเพื่อทำการค้ากับประเทศต่างๆ และซื้ออาวุธเพื่อจะพลิกโฉมโชซอนให้ได้ หัวหน้าเสมียนกรมขนส่งทางทะเลมาแจ้งว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่จากหุบเขาแคฮวายังไม่พบสมุดบัญชีลับ ถึงแม้ว่าก่อนที่โบรีจะตาย นางก็ไม่ยอมปริปากว่าซ่อนไว้ที่ไหน และตอนนี้ทางวังหลวงก็ส่งผู้ตรวจการลับไปที่นั่นอีกคนหนึ่งแล้ว พัคแทซอไม่สนใจเรื่องใดทั้งนั้นและขู่หัวหน้าเสมียนว่าถึงอย่างไรก็ต้องหาสมุดบัญชีลับให้ได้
อีออนและบ่าวทั้งสองของเขาแวะไปที่บ้านของโบรีและได้พบกับโจอีที่นั่น นางเข้าใจผิดว่ายุกชิลคือข้าราชการจึงไหว้วานให้เขียนคำร้องขอหย่าให้นางใหม่เพราะคิดว่าลายมือของตนเองยังใช้ไม่ได้ จากนั้นโจอีก็เล่าเรื่องของโบรีให้พวกเขาฟัง อีออนได้ฟังแล้วจึงคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่จู่ๆนางก็ตายอยู่ที่ลำธารทั้งๆที่ตั้งใจไปเป็นพยานให้โจอี เขาจึงคิดว่าจะสืบเรื่องนี้ให้ได้ จากนั้นพวกเขาก็กลับไปพร้อมกับใบคำร้องฟ้องหย่าของโจอี อีออนใช้ยุกชิลให้ไปสืบเรื่องศพของผู้ตรวจการลับพัคมูกยองจากโรงเตี๊ยมชาวประมง ส่วนเขาและกูพัลก็แยกไปสืบอีกที่หนึ่ง อีออนตั้งใจว่าเมื่อสืบเรื่องนี้จนสำเร็จ
เขาก็จะไม่ยุ่งกับงานราชการและจะตระเวนหาของอร่อยๆ กินตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก
ยุกชิลสืบได้ว่าเรือของดผู้ตรวจการลับที่จมลงในทะเลนั้น มีคนจงใจเจาะรูที่เรือทำให้รั่วแต่ในตอนนั้นไม่มีใครพบศพ อีออนลอบเข้าไปในจวนและได้พบกับบ่าวที่กำลังจะทำลายศพของพัคมูกยอง อีออนแสดงตัวพร้อมกับตราม้าประจำตำแหน่ง ต่อมาบ่าวคนนั้นจึงไปเป็นพยานให้กับเขา
โจอีไปพบกับเจ้าเมืองจางกีวานในตอนดึกเพื่อบอกเรื่องสมุดบัญชีลับที่นางซ่อนไว้ เพื่อต่อรองให้เขายอมอนุมัติการหย่าของนางและต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร เขารับปากว่าจะตัดสินคดีของนางเป็นคดีแรกในเช้าวันรุ่งขึ้น
เช้าวันต่อมาจางกีวานทำตามที่รับปากโจอีไว้ แต่เขายังไม่ทันได้ลงตราประทับ อีออนก็มาแสดงตัวและสั่งตรวจค้นทุกซอกทุกมุม ทุกคนในที่นั่นจึงต้องก้มลงเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ตรวจการลับคนใหม่ จางกีวานยอมรับว่าตนเองทุจริตแต่อีออนยังตั้งข้อหาฆาตกรรมให้กับเขาด้วย ดังนั้นจางกีวานจะต้องถูกขังเพื่อรอลงอาญา
โจอีกังวลว่าคำฟ้องหย่าของนางยังไม่เป็นผลจึงพยายามร้องเรียนอีออน แต่แม่สามีของนางได้ฉีกทำลายเอกสารนั้นทิ้งต่อหน้า อีออนจึงนำเอกสารฉบับเก่าของโจอีขึ้นมาและประทับตราของเจ้าเมืองให้นางเพราะถือว่าท่านเจ้าเมืองได้ตัดสินคดีนี้ให้แล้ว..