เรื่องย่อ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game)
5 สิ่งที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย
สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญเกี่ยวกับผู้คนจำนวน 456 คน ที่ตัดสินใจเข้าร่วมเกมการแข่งขันปริศนาเพื่อชิงเงินรางวัลมหาศาลจำนวน 45,600 ล้านวอน โดยหลังเหล่าผู้เข้าแข่งขันได้เริ่มเล่นเกมซึ่งดูเหมือนเกมเด็กเล่นธรรมดาทั่วไปแล้ว จึงได้รู้ตัวเอาในระหว่างที่เล่นเกมว่าการแข่งขันครั้งนี้มีชีวิตเป็นเดิมพัน การผจญภัยสุดตื่นเต้นนี้บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าผู้เข้าแข่งขันที่ต่างพยายามเอาชีวิตรอดในแต่ละเกม และมุ่งหน้าคว้ารางวัลแห่งชัยชนะซึ่งก็คือเงินรางวัลจำนวนมหาศาลไปครอง
ที่มาของชื่อซีรีส์ “สควิดเกม เล่นลุ้นตาย”
ผู้สร้างและผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก เผยถึงที่มาของชื่อ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย ว่า “สควิดเกม เป็นเกมที่ผมเคยเล่นเมื่อตอนเด็กๆ ที่สนามของโรงเรียนและตามถนนในละแวกบ้าน โดยซีรีส์เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของผู้คนที่เคยเล่นเกมนี้เมื่อครั้งยังเด็ก และได้กลับมาเล่นอีกครั้งเมื่อเป็นผู้ใหญ่ ผมมองว่าสควิดเกมถือเป็นหนึ่งในเกมที่ใช้ร่างกายในการเล่นมากที่สุด และยังเป็นหนึ่งในเกมที่ผมชอบที่สุดด้วย และยังรู้สึกว่าสควิดเกมนั้นเป็นเกมเด็กเล่นอันเป็นสัญลักษณ์ที่สามารถสะท้อนภาพของสังคมในยุคนี้ได้ดีที่สุด”
ถือกำเนิดเมื่อปี 2008
ผู้สร้าง ฮวังดงฮยอก ได้เริ่มเขียนบทดราฟต์แรกของ สควิดเกม เล่นลุ้นตาย เมื่อปี 2008 ซึ่งถือว่าย้อนเวลากลับไปนานพอสมควร ก่อนภาพยนตร์ยอดนิยมของเขาอย่าง Silenced และ The Fortress เสียอีก ผู้กำกับฮวังดงฮยอกเล่าถึงช่วงเวลาที่เริ่มเขียนบท สควิดเกม เล่นลุ้นตาย ว่า “ช่วงนั้นผมอ่านหนังสือการ์ตูนเยอะมากและเขียนบทเรื่องนี้เสร็จเมื่อปี 2009 ณ ตอนนั้นดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะมีเนื้อหาที่คนอาจไม่คุ้นเคย หรือดูรุนแรงเกินไป และมีบางคนที่มองว่าเรื่องราวดูซับซ้อนเกินไปหน่อยและไม่น่าจะทำตลาดได้ อีกทั้งตอนนั้นผมยังไม่สามารถระดมทุนในการผลิตได้มากพอ และในส่วนของการแคสต์นักแสดงก็ยากเช่นกัน ผมคลุกคลีอยู่กับการเตรียมการเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ประมาณปีหนึ่ง แต่ก็ต้องพับโปรเจกต์เก็บไปในที่สุด” โดยผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก ยังได้กล่าวขอบคุณ Netflix ที่มอบอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานตามที่ใจต้องการหลังผ่านไป 10 ปี
สควิดเกม เล่นลุ้นตาย ต่างจากซีรีส์แนวเอาชีวิตรอดอื่นๆ ที่เคยมีมา
นอกเหนือจากจุดร่วมบางประการของซีรีส์แนวเอาชีวิตรอดทั่วไปแล้ว สควิดเกม เล่นลุ้นตาย นับว่ามีเอกลักษณ์ที่ต่างจากซีรีส์อื่นโดยสิ้นเชิง ฮวังดงฮยอกกล่าวว่า “แก่นของเกมเอาชีวิตรอดอยู่ตรงความบันเทิงที่ได้เห็นตลอดทั้งเรื่อง และการได้เห็นว่าผู้เข้าแข่งขันต้องดิ้นรนอย่างไรบ้างเพื่อที่จะชนะเกมพวกนั้น ถ้าจะพูดถึงปัจจัยที่ทำให้แตกต่าง ผมว่าคงเป็นเรื่องความเรียบง่ายของกติกา เพราะไม่ต้องใช้เวลาหรือใช้แรงขบคิดอะไรมากก็เข้าใจได้ มันง่ายมาก และแทนที่จะโฟกัสตัวเกม สควิดเกมโฟกัสว่าผู้เล่นแต่ละคนแสดงออกอย่างไรและตอบสนองอย่างไรมากกว่า ปกติแล้วในเกมเอาชีวิตรอดเรามักจะมองไปที่ผู้ชนะ แต่ในสควิดเกม เรามองไปที่คนแพ้ ถ้าไม่มีคนแพ้ ก็ไม่มีคนชนะเช่นกัน”
มีตัวละครที่น่าจดจำมากมาย
ด้วยจำนวนผู้เข้าแข่งขันถึง 456 คน จึงไม่น่าแปลกเลยใจที่มีผู้คนหลากหลายจากแทบทุกมิติของสังคม ไม่ว่าจะเป็น กีฮุน (อีจองแจ) พ่อหม้ายที่เผชิญความล้มเหลวทางธุรกิจและปัญหาหนี้สิน เพื่อนที่โตมาในละแวกเดียวกันของเขา ซังอู (พัคแฮซู) ซึ่งสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังและได้ทำงานในบริษัทหลักทรัพย์ แต่กลับเจอทางตันในท้ายที่สุด และยังมีแซบยอก (จองโฮยอน) ผู้ลี้ภัยจากเกาหลีเหนือที่ดิ้นรนเพื่อให้ครอบครัวของเธอได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่น่าสนใจอย่างด็อกซู (ฮอซองแท) ที่เป็นนักเลง และจุนโฮ (วีฮาจุน) ตำรวจที่ค้นพบเกมนี้เข้าระหว่างออกตามหาพี่ชายของเขาที่หายตัวไป แล้วคุณจะพบว่าตัวเองนั้นอดที่จะอินและลุ้นตามไปกับตัวละครทุกๆ ตัวในเรื่องไม่ได้
รวมความปังทั้งสัญลักษณ์ ฉาก และดนตรีประกอบ
นอกจากความบันเทิงแล้ว สควิดเกม เล่นลุ้นตาย ยังใส่สัญลักษณ์ไว้ให้ตีความมากมาย ตัวซีรีส์เองตลอดทั้งเรื่องก็เป็นสัญลักษณ์ที่ตั้งใจจะสะท้อนภาพการแข่งขันในสังคมปัจจุบันที่เราใช้ชีวิตกันอยู่ วิถีที่มนุษย์ถูกสังคมหล่อหลอมให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่นั้น สะท้อนออกมาในรูปแบบของการที่เกมเด็กเล่นแสนบริสุทธิ์กลายมาเป็นสิ่งที่โหดร้ายและอันตรายถึงชีวิต เหล่านักแสดงยังออกปากชมการออกแบบฉากอย่างละเอียด โดยที่ผู้กำกับไม่ต้องพึ่งพา CG มากนัก เพราะเขาตัดสินใจจะใช้ฉากขนาดใหญ่ที่สมจริง ท้ายที่สุด ดนตรีที่ใช้ก็เป็นภาพแทนของสิ่งที่เด็กๆ ในยุค 70 และยุค 80 ฟังกัน ทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวเองและหวนรำลึกถึงอดีต โดยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้รวมกันกลายเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้ผู้ชมประทับใจและหลงเสน่ห์ได้ง่ายๆ