สปอยล์ Tale of the Nine Tailed ตอนที่ 6

6

จีอาไม่รู้ว่าอียอนจูบเธอ เพราะเห็นเธอเป็นอาอึมหรือไม่ เธอจึงบอกว่าเธอไม่ใช่เงาของรักแรกของเขา และถามออกไปว่าเขาอยากยึดติดอยู่กับอดีตหรือว่าเธอซึ่งเป็นปัจจุบัน
จีอาเพิ่งรู้ว่าอียอนพาเธอมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อตามหานายอำเภอ ซึ่งก็คือ หมีพระจันทร์ หนึ่งในสี่วิญญาณแห่งขุนเขา เพราะเขารู้ดีว่าใครคือคนที่ลักพาตัวพ่อแม่ของเธอไป ที่หมู่บ้านแห่งนี้ มักมีสิ่งลึกลับมารวมตัวกันอยู่เพราะเป็นที่ซ่อนตัวอย่างดี อียอนจีอาพากันเดินเล่นและแวะไปหาหมอดู ซึ่งเขาบอกว่าจีอาเคยเป็นเจ้าหญิงในอดีตชาติ แต่แล้วหมอดูก็อึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะโกหกอียอนว่าเขาเคยเป็นกรรมมกร และทักว่าอียอนและจีอาไม่ควรอยู่ด้วยกัน เพราะจะมีคนหนึ่งที่ต้องตาย อียอนไม่สบายใจที่หมอดูทักแบบนี้ ในขณะที่จีอาไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำ จากนั้นพวกเขาก็พากันไปหานายอำเภอ
อีรังมาหาหมอดูที่หมู่บ้านแห่งนี้ และรู้ดีว่าเขาเป็นใคร แม้จะใส่แว่นตาดำปกปิดสายตาที่บอดสนิทก็ตาม เมื่อหมอดูรำพึงว่าวันนี้เป็นวันรวมญาติของจิ้งจอกเก้าหาง จึงทำให้อีรังรู้ว่าอียอนก็มาที่นี่ด้วย อีรังต้องการตามหาคิ้วของเสือซึ่งสามารถทำให้เห็นอดีตชาติได้ หมอดูจึงหยิบแว่นตาขึ้นมา และบอกว่าเงินไม่สามารถซื้อสิ่งนี้ได้ นอกจากของที่มีค่าที่สุดของอีรัง

นายอำเภอและอียอนเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน แต่เขาไม่ค่อยพอใจอียอนที่ฆ่าน้องสาวของเขา ในวันที่เธอกำลังจะแต่งงาน แต่อียอนก็ได้อธิบายเหตุผลให้เขาฟัง นายอำเภอมีอาวุธประจำตัวคือกระจกพระจันทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่อัญมณีแห่งขุนเขา รวมทั้งลูกแก้วจิ้งจอกของอียอนด้วยเช่นกัน หลังจากปะทะฝีมือกันสักพัก พวกเขาจึงไปนั่งดื่มกาแฟและคุยกัน เมื่อเห็นรูปพ่อแม่ของจีอา เขาจึงเล่าว่า เมื่อยี่สิบเอ็ดปีก่อน ราวๆต้นเดือนมกราคม มีชายในชุดสูทสีกรมมาหาเขา และเป็นคนตั้งใจทำให้พ่อแม่ของเธอเกิดอุบัติเหตุในวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งเป็นวันจันทรคติ เขาแน่ใจว่าคนคนนั้นไม่ใช่จิ้งจอก แต่เป็นมนุษย์ที่มีรอยตีตราอาชญากรอยู่ที่หน้าผากว่า ซอกยอง และเกิดก่อนสมัยราชวงศ์โชซอน เป้าหมายของชายผู้นั้นไม่ใช่พ่อแม่ แต่เป็นลูกสาว ซึ่งก็คือนัมจีอา นายอำเภอแอบเตือนอียอนว่า อย่าเก็บจีอาไว้ใกล้ตัว เพราะชายในชุดสูทสีกรมเคยบอกว่า เธอมีสายเลือดกษัตริย์ และวิญญาณกษัตริย์ก็อยู่ในตัวเธอ

ฮยอนอีองไปนั่งที่ร้านอาหารประจำและปรับทุกข์ว่าเขารู้สึกอึดและไม่น่าแต่งงานกับทัลอีพาซึ่งเป็นพี่สาวของราชายอมรา เพราะเธอเป็นคนเจ้าอารมณ์และขี้หงุดหงิด ในขณะที่ชินจูพายูริไปกินอาหารที่ร้านนั้นเช่นกัน และบอกว่าเขาเคยมองเธอผิดไป หลังจากที่ได้เห็นความเมตตาของเธอที่พาเจ้าหมาน้อยไปรักษา แม้ยูริจะแกล้งบอกว่าไม่ชอบเขา แต่ชินจูก็เปรียบเทียบว่า เธอเหมือนสัตว์ที่กัดมือคนให้อาหารเพราะไม่รู้วิธีแสดงออกเวลาที่ถูกรัก ยูริฝากให้ชินจูเลี้ยงเจ้าหมาน้อยตัวนั้น และบอกว่าผู้มีพระคุณของเธอ ไม่อยากให้เลี้ยง ซึ่งเขาเคยช่วยเธอจากสวนสัตว์และฉีกคนดูแลออกเป็นชิ้นๆ อีกไม่นานชินจูก็จะได้เจอเขา

อีรังคิดไม่ออกว่าอะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเขา ตามที่หมอดูบอก เขาจึงโทรหาอียอนแต่ก็ถูกตัดสายทิ้ง จนกระทั่งสามารถติดต่อได้ เขาจึงนัดเจอกับอียอนที่หมู่บ้านแห่งนั้น

จีอาไม่เข้าใจว่าชายชุดสูทสีกรมคือใคร มีเหตุผลอะไรที่ตามล่าตัวเธอ และเธอเป็นใครกันแน่ ทำไมอียอนถึงพยายามปกป้องเธอขนาดนี้ แต่อียอนบอกเพียงว่า เขาอยากให้เธอมีความสุข ไม่ต้องทำอะไรเพื่อเขา และขอให้เชื่อใจเขาก็พอ

ก่อนไปพบอีรัง อียอนได้ทำเครื่องรางไว้ โดยเขียนที่หัวรองเท้าว่า “หา” เพราะเชื่อว่ารองเท้าคู่นี้จะพาอีรังไปหาผู้ชายคนที่มีตราอาชญากรที่หน้าผาก และนี่เป็นโอกาสเดียว เขาจึงบอกจีอาให้จับตาดูอีรังอย่าให้คลาดสายตา อีรังนัดกับอียอนที่บ้านหมอดู แม้จะตาบอด แต่หลังจากที่ใช้แว่นขยายส่องดูใบหน้าของอียอนแล้ว เขาจึงบอกว่าอียอนคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของอีรังและได้มอบแว่นคิ้วของเสือให้เขา อียอนไม่รู้ว่าเขาถูกอีรังหลอกขายให้หมอดู เพื่อแลกเปลี่ยนกับคิ้วของเสือ อีรังเดินออกจากบ้านหมอดูและไม่เห็นรองเท้าของตัวเอง จึงใส่รองเท้าของอียอนที่เขาเขียนเครื่องรางไว้

หมอดูไม่ยอมปล่อยอียอนและจับวิญญาณของเขาใส่ถุงย่ามของตนเอง จีอาขอร้องให้ปล่อยเขา โดยเธอจะยอมทำตามกฎของหมอดูที่ต้องนำของมีค่าที่สุดของเธอมาแลกกับอียอน ก่อนเวลาสามทุ่ม ซึ่งเหลือเพียงหนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาทีเท่านั้น จีอารีบกลับไปที่บ้านเพื่อนำกล่องดนตรีมาให้หมอดู โดยบอกว่ามันเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นสุดท้ายจากพ่อแม่ของเธอ พร้อมกับเล่าเรื่องราวให้เขาฟัง หมอดูจึงใช้แว่นขยายส่องดูกล่องดนตรีนั้น และบอกว่ามันยังไม่เพียงพอที่จะแลกกับอียอน จากนั้นเขาก็ขอดูลายมือข้างซ้ายของเธอ และบอกว่าชะตาของเธอไม่ธรรมดา เพราะน้ำกับไฟจะสู้กัน แผ่นดินจะมืดมิด และโลหะจะมีอำนาจครอบครอง ต่อให้โดนความมืดมิดห้อมล้อม แต่ดวงจันทร์ก็จะส่องแสงจากนภาของเธอ ซึ่งหมายถึงลูกแก้วจิ้งจอกในตัวเธอก็คือแสงจันทร์นั่นเอง จากนั้นหมอดูจึงขอลูกแก้วจิ้งจอกจากจีอา เธอตอบตกลงทันที และลายมือบนฝ่ามือของเธอก็เปลี่ยนไป อีมูกีในร่างของเด็กชาย ยังคงเก็บตัวอยู่ในห้องเช่นเคย และพึมพำด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยว่า ตอนนี้จีอาไม่มีลูกแก้วจิ้งจอกอีกแล้ว

อีรังไปหาท่านประธานที่บ้าน โดยไม่รู้ตัวว่าไปทำไม เขาจึงสังเกตรองเท้าที่ใส่ และเห็นเครื่องรางที่อียอนเขียนไว้ อียอนได้รับการปลดปล่อยจากหมอดู และไม่รู้ว่าจีอายอมแลกด้วยอะไร เธอบอกเพียงว่าตอนนี้เขาเป็นของเธอแล้ว และเหตุผลที่เธอไม่ตามอีรังไป แม้ว่ามันเป็นโอกาสสุดท้ายก็ตาม เธอเลือกที่จะช่วยอียอนก่อน เพราะเชื่อว่าเขาคือคนที่จะทำให้เธอมีจุดจบที่มีความสุขได้ หลังจากที่ดื่มด้วยกันจนจีอาเมา อียอนส่งเธอเข้านอนและสัญญาว่าเธอจะได้พบพ่อแม่ และใช้ชีวิตตามปกติได้เหมือนเดิม จากนั้นเธอก็จะลืมว่าเคยได้พบเขา อียอนอยากให้เธอได้ใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ทั่วๆ ไป

อียอนไปหาทัลอีพาเพราะเชื่อว่าเธอรู้เรื่องอีมูกี เธอจึงบอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามเหตุผลของมัน เพราะจีอาเป็นคนที่ปลุกให้อีมูกีตื่นขึ้นมา และอียอนก็เป็นคนดิ้นรนตามหาเธอเอง ทัลอีพาบอกว่าชายคนนั้นตื่นขึ้นมาจากบ่อน้ำ และไปหลบซ่อนตัวอยู่
ในขณะที่จีอาหลับและฝันไปว่าเธอไปพบเด็กชายคนหนึ่ง ในห้องที่เต็มไปด้วยผ้ายันต์ เธอสะดุ้งตกใจตื่นโดยที่ไม่รู้ว่า มีรอยเกล็ดงูเกิดขึ้นที่ต้นคอของเธอ