สปอยล์ Tale of the Nine Tailed ตอนที่ 7

7
อียอนเพิ่งรู้ว่า ลูกแก้วจิ้งจอกไม่อยู่กับนัมจีอาแล้ว เศษส่วนของวิญญาณร้ายอีมูกีจึงค่อยๆ ปรากฏในร่างของเธอ อียอนรู้สึกเหมือนถูกโกง ทั้งๆ ที่เขารอเวลามาหกร้อยปีเพื่อให้จีอาได้เกิดมาเป็นมนุษย์และใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป เขาโมโหทัลอีพาที่รู้เรื่องนี้มาตลอดและพยายามบอกให้เขาตัดใจจากเธอหลายครั้งแล้ว จึงตรงเข้าไปหวังจะทำร้ายทัลอีพาแต่ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ อีกทั้งสามีของเธอตะโกนห้ามไว้ อียอนเอ่ยปากว่าหากจีอาต้องตายเร็ว เขาจะไม่ยอมปล่อยให้โลกนี้สงบสุขรวมทั้งโลกหลังความตายด้วย ฮยอนอีองปลอบใจอียอนว่า แม้ทัลอีพาจะดูเหมือนคนใจร้าย แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจและรักอียอนเหมือนลูก อีองห้ามไม่ให้อียอนเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่ว่าจีอาหรือตัวเขาเอง จะต้องมีใครคนหนึ่งตาย เพราะการกลับมาของอีมูกี ถือเป็นชะตากรรมของพวกเขาทั้งคู่ แต่อียอนคัดค้านและบอกว่าเขาจะปกป้องเธอและสัญญากับเธอไว้ว่าจะทำให้เธอมีชีวิตที่ดีกว่าเดิมให้ได้


จีอายอมรับกับอียอนว่าหมอดูขอลูกแก้วจากเธอ เพราะเธอไม่รู้ว่ามันสำคัญอย่างไร และเธอก็ต้องการแลกกับอียอน เพราะขาดเขาไม่ได้ อียอนจึงตัดสินใจที่จะมาอยู่กับเธอสักพักเพื่อคอยปกป้องเธอ อียอนไม่สบายใจเมื่อรู้ว่าจีอาฝันถึงอีมูกีและเธอรู้สึกดีใจแปลกๆ ที่ได้เจอเด็กคนนั้น ราวกับเคยรู้จักเขามาก่อน

อีรังให้ยูริดูแว่นตาคิ้วของเสือที่เขาเพิ่งได้มา และบอกเธอว่าเขาโกรธตัวเองที่ยังมีความรู้สึกของมนุษย์อยู่ นั่นเป็นเพราะเขาเป็นลูกครึ่งที่มีแม่เป็นมนุษย์ อีรังออกมาจากผับด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก เขาทำแว่นคิ้วของเสือหล่นหาย โดยที่ไม่รู้ตัว

อียอนไม่อาจอยู่ห่างจากจีอาเกินรัศมีการปกป้องได้ ในคืนนั้นเธอจึงยอมให้เขานอนเตียงเดียวกับเธอ เมื่อเห็นเธอนอนไม่หลับ จึงเล่นเกมบอกสิ่งที่ทำให้มีความสุขมาคนละอย่าง จนกระทั่งเธอหลับไปและสิ่งที่เธอพูดออกมาก็คือร่มสีแดงของเขา

กูชินจูมาช่วยอียอนทำอาหารเช้า เพราะเขาทำอะไรไม่เป็น จีอาตื่นขึ้นมาและแปลกใจที่เห็นกูชินจา เขาอ้างว่าเอาเสื้อผ้ามาให้อียอน และอาสาทำความสะอาดบ้านให้เธอ เพราะอียอนไม่เคยทำงานบ้านเลย ก่อนออกไปทำงาน ชินจูขอให้จีอาดูแลความปลอดภัยของตัวเองให้ดี เพราะหากเธอเจ็บ อียอนเจ้านายของเขาจะเจ็บปวดกว่าหลายสิบเท่า เพราะอียอนคือคนที่มีค่าสำหรับเขา จีอาจึงบอกว่าอียอนก็มีค่าสำหรับเธอเช่นกัน

อียอนใส่สูทผูกเนคไทเพื่อออกไปทำงานกับจีอา เธอขอให้เขาถอดเนคไทออก เพราะนั่นหมายถึงผู้บริหารเท่านั้น แต่อียอนบอกว่าเขาจะทำเนียนเป็นผู้บริหารก็แล้วกัน เมื่อถึงสถานี พนักงานทุกคนโค้งคำนับเขาในฐานะผู้อำนวยการ เพราะอียอนสะกดจิตพวกเขาไว้ จากนั้นเขาก็รอจีอาอยู่ที่ล็อบบี้ในระหว่างที่เธอทำงาน เมื่อนึกถึงคำเตือนของฮยอนอีอง อียอนบอกกับตัวเองว่านี่อาจเป็นชีวิตสุดท้ายของเขาแล้วก็ได้

วันนี้อีมูกีจะโตเต็มวัยด้วยใบหน้าและร่างกายใหม่ เมื่อพี่เลี้ยงคนใหม่มาถึง ท่านประธานจึงบอกว่าแค่ดูแลและหาข้าวให้กินก็พอ จากนั้นเธอก็ถูกอีมูกีดูดวิญญาณจนเหลือแต่ซาก แต่เล็บมือแฟชั่นของเธอหล่นอยู่ที่พื้นขณะที่โดนลากเข้าไปในห้อง หลังจากนั้นอีมูกีก็กลายเป็นชายหนุ่มรูปงาม

จากคำบอกเล่าของนายอำเภอ จีอาพยายามหาคำตอบ การตีตราที่หน้าผาก “ซอกยอง” และได้คำตอบว่าพวกเขาเป็นคนก่อกบฏ ขณะที่กูชินจูติดตามความเคลื่อนไหวของอีรังตามคำสั่งของอียอน เพื่อนำไปสู่คนมีตราที่หน้าผาก เพราะเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับอีมูกี ชินจูจอดรถดูอยู่ห่างๆและเห็นอีรังกำลังหาของบางอย่าง จากนั้นเขาก็โทรหายูริเพื่อให้ช่วยตามหาแว่นตาคิ้วของเสือ ชินจูยังคงสะกดรอยตามอีรังต่อไป และได้เห็นยูริอยู่กับเขา ยูริบอกอีรังว่าเด็กผู้ชายเก็บแว่นตาของเขาได้

ระหว่างมื้ออาหาร หัวหน้าทีมข่าวบอกทุกคนว่าขอให้ทำตัวให้ว่าง เพราะเย็นนี้ท่านประธานชวนไปกินอาหารที่บ้าน อียอนนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆจีอาและได้สั่งอาหารมาเลี้ยงพวกเขา แต่หัวหน้าคิดว่าเป็นอภินันทนาการจากทางร้าน ต่อมาพวกเขาก็เชิญอียอนมานั่งร่วมโต๊ะ

อีรังรู้ตัวว่าชินจูกำลังสะกดรอยตามเขา แม้จะซ้อมชินจูจนสลบ แต่เขาก็ไม่ปริปากว่าอียอนต้องการอะไร จากนั้นอีรังก็ส่งรูปของชินจูไปให้อียอน อียอนจึงขอตัวจากโต๊ะอาหารเพื่อรีบออกไปหาอีรัง

เด็กน้อยใส่แว่นตาคิ้วของเสือเดินเล่นไปทั่ว เขาทักนักเขียนคิมว่าเป็นหญิงสาวสวยในชุดฮันบก ส่วนแจฮวานก็เป็นขันที แต่เมื่อเห็นจีอา เด็กน้อยบอกว่าเธอมีใบหน้าที่น่ากลัว จากนั้นเขาก็รีบวิ่งหนีไป

อีรังบอกเหตุผลที่เขาต้องใช้อีมูกีเป็นเครื่องมือ เพราะต้องการให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมเพื่อแก้แค้นพี่ชาย อียอนขอร้องให้หยุดเพียงแค่นี้ เพราะหากจีอาเป็นอะไรไป คราวนี้เขาคงต้องฆ่าอีรังจริงๆ อีรังบอกว่าเขาจะยอมตายเพื่อพี่ และอยากรู้ว่าหากตัวเขาเองตกอยู่ในสถานการณ์แบบชินจู พี่ชายจะรีบตามมาช่วยเขาแบบนี้บ้างไหม แต่อียอนบอกว่าเขาคงต้องช่วยตัวเอง จากนั้นยูริก็โทรมาบอกอีรังว่าเจอเด็กที่เก็บแว่นตาได้แล้ว

อีรังตามไปเอาแว่นตาคืนจากเด็กน้อย ขณะที่เด็กน้อยกำลังร้องไห้ เขาส่องแว่นเห็นเด็กคนนั้นเป็นกอมดุงเจ้าหมาน้อยของเขาในอดีต เขาจึงพาไปเลี้ยงขนมและไอศกรีม

ขณะที่หัวหน้าทีมข่าวและลูกทีมกำลังนั่งรอท่านประธานที่บ้าน เขาเห็นผลระฆังทองในกระถางและเล่าว่า หากสัมผัสหรือเป่ามัน มันจะนำโชคร้ายมาให้ และสามารถเรียกงูออกมาไดด้วย เขาเกือบจะแตะต้องมัน แต่ท่านประธานออกมาห้ามไว้ และบอกว่าที่บ้านนี้มีกฎสองข้อ ก็คือห้ามแตะหรือเป่าผลระฆังทอง ข้อสองห้ามขึ้นไปชั้นบน

ท่านประธานชวนทุกคนมารับประทานอาหารที่หน้าบ้าน จีอาขอตัวไปเข้าห้องน้ำในบ้าน และรู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ชั้นบน แม้ว่าก่อนหน้านี้ท่านประธานจะบอกว่าอยู่คนเดียวก็ตาม เธอคิดว่าคงหูแว่วไปเอง จนกระทั่งได้ยินเสียงคนเคาะอะไรบางอย่าง เพราะอีมูกีใช้มือของซากศพแม่บ้านเคาะประตูเพื่อดึงดูความสนใจของจีอา เธอจึงเดินตามขึ้นไปดูและเหยียบเล็บของแม่บ้านที่หล่นอยู่ที่พื้น เสียงเคาะยังคงดังอยู่เรื่อยๆ เธอจึงเงี่ยหูฟังที่ประตูซึ่งอีมูกียืนอยู่ด้านในและบอกว่ายินดีต้อนรับ อียอนโทรหาจีอาขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูเข้าไป เมื่อเห็นจีอาหายไปนาน ท่านประธานจึงเข้ามาตามหาเธอ และเรียกลงไปข้างล่าง เขาบอกเธอว่าเป็นเสียงลมเพราะเขาเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ระหว่างทางกลับ จีอาให้เพื่อนๆ ดูเล็บที่เธอเก็บได้ และสงสัยว่าเป็นเล็บของใคร ในเมื่อท่านประธานก็โสด ส่วนเชฟที่มาทำอาหาร ทุกคนก็เล็บสั้นสะอาดหมดจด

อียอนหุงข้าวรอจีอา เพราะรู้ว่าเธอชอบกลิ่นข้าวสุกใหม่ๆ ส่วนจีอาก็ซื้อช็อคโกแลตมิ้นต์มาฝากเขา ขณะที่กำลังดูทีวีด้วยกัน อียอนนั่งจ้องเธอที่กำลังเพลิดเพลินกับหนัง จีอานึกว่าเขาไม่ชอบหนังเรื่องนี้ แต่เขาบอกว่าสนุกมากจนอยากจะหยุดเวลาไว้ จีอาตอบว่าเช่นกัน จากนั้นเธอก็ซบที่ไหล่ของเขา อียอนจึงกุมมือของเธอไว้จนกระทั่งเธอหลับไป

นอกจากกลิ่นข้าวสุกใหม่แล้ว จีอายังชอบรองเท้าผ้าใบใหม่ๆด้วย อียอนจึงออกไปหาซื้อให้เธอ ขณะที่จีอาได้รับพัสดุจากอีรัง เขาบอกให้เธอลองสวมแว่นตาและส่องกระจก แล้วจะพบความจริงที่กำลังตามหา จากนั้นอียอนก็รีบไปหาจีอา เมื่ออีรังโทรบอกว่าเขาได้ส่งแว่นตาคิ้วของเสือไปให้จีอาแล้ว

จีอาสวมแว่นคิ้วเสื้อและยืนอยู่หน้ากระจก เธอเห็นอดีตชาติของตัวเองที่ถูกอียอนฆ่า เมื่ออียอนมาถึงเธอจึงบอกเขาว่าเห็นทุกสิ่ง และเขาก็หลอกใช้เธอเป็นเหยื่อสังเวยอีมูกี