สปอยล์ The Tale of Nokdu ตอนที่ 13-14

13-14

ในขณะที่ฮอยุนกำลังประชุมลับ เรื่ององค์ชายยองชางที่ฝ่าบาททรงวางแผนว่าจะให้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ ยุลมูก็ปรากฎตัวขึ้นและล้อมฮอยุนและคนของเขาไว้ และบอกให้ฮอยุนร่วมมือกับเขา ยุลมูหรือว่าองค์ชายนึงยาง ที่เผยตัวออกมาจัดการเรื่องนี้ ฮอยุนไม่เกรงกลัวต่อพระองค์และประจันหน้ากับพระองค์ และทรงถามว่าพระองค์นั้นเหมาะสมที่จะเป็นพระราชาแล้วงั้นหรือ

จากนั้นฮอยุนเองก็คิดว่าฝ่าบาทก็อาจจะทรงรู้แผนการของพวกเขาแล้ว
ฮอยุนจึงสั่งให้ย้ายฐานของหน่วยมูวอลย้ายและบอกให้ทุกคนเลิกไปที่บ้านยอนฮวา และให้ระวังตัวมากขึ้น

หัวหน้าสั่งให้หน่วยมูวอลย้ายออกจากหมู่บ้านและไปพบกันที่อาซาวอนในฮันยาง
และบอกว่าให้ทำตามองค์ชายนึงยางเพราะอีกไม่นานใต้เท้าฮอยุนก็ต้องร่วมมือกับองค์ชายเช่นกัน

แองดูเอาแต่พูดถึงแต่ท่านยุลมู จนนกดูต้องตามใจและพานางไปเที่ยว
ทั้งนกดู แองดูและดงจูจึงออกไปเที่ยวและตกปลาด้วยกัน
แต่ตกอยู่นานก็ไม่ได้ปลาสักตัวระหว่างที่ดงจูพาแองดูไปปลดทุกข์
นางเห็นนกดูกระโดดน้ำ ดงจูตกใจมากจึงรีบลงน้ำไปหานกดู จริงๆแล้ว นกดูกระโดดลงไปจับปลาต่างหาก

นกดูไปหาองค์ชายนึงยาง และพูดเรื่องที่องค์ชายกำลังจะก่อกบฏ
องค์ชายกระชากคอเสื้อนกดู และบอกว่ายิ่งเห็นนกดูก็ยิ่งอยากจะฆ่าทิ้งและไม่อยากจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับดงจู
นกดูไม่ได้มีทีท่าเกรงกลัวองค์ชายแต่อย่างใด


นกดูแอบตามนายหญิงชอนไปที่บ้านของใต้เท้าฮอยุน เขาแอบตามใต้เท้าฮอยุนที่กำลังสั่งคนให้ไปตามจับคนที่เกาะ ซึ่งนกดูคิดว่าเป็นพี่ชายของเขา นกดูจึงแอบปลอมตัวและตามไปจนไปถึงบ้านขององค์ชายนึงยาง จึงได้พบกับฮวังแทพี่ชายของเขา นกดูรีบบอกให้พี่ชายหนีไปกับเขา แต่ฮวังแทไม่ไปและบอกว่าที่เขาอยู่ที่นี่นั้นไม่ใช่เพราะโดนจับตัวมา และบอกว่าการที่แม่ของเขาต้องตายและต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆนั้นทั้งหมดเป็นเพราะนกดู และเหตุผลนั้นก็คือนกดูเป็นโอรสของฝ่าบาท นกดูตกใจมากที่ได้ยินเช่นนั้น และบอกว่าเขาไม่เชื่อ ฮวังแทจึงบอกว่าถ้าหากไม่เชื่อก็ให้ไปทูลถามกับฝ่าบาท

องค์ชายนึงยางส่งคนไปฆ่าทุกคนในหมู่บ้านแม่ม่าย

นกดูไปหาใต้เท้าฮอ เพื่อถามใต้เท้าว่าส่งคนไปตามฆ่าพวกเขาทำไม
และตอนนั้นเองนายหญิงชอนที่เข้ามาเพื่อแจ้งว่าองค์ชายนึงยางส่งคนบุกเข้าไปฆ่าคนที่หมู่บ้านแม่ม่าย
นกดูรีบกลับไปที่หมู่บ้าน

องค์ชายนึงยางกลับไปที่หมู่บ้านและเจอดงจูกำลังถูกบีบคออยู่
ดงจูเรียกนกดูก่อนจะหมดสติไปและตอนนั้นเอง นกดูก็มาช่วยดงจู..