สปอยล์ Through the Darkness ตอนที่ 1
ในวัยเด็ก ซงฮายองประสบอุบัติเหตุตกน้ำและเห็นศพหญิงคนหนึ่งจมอยู่ใต้น้ำ หลังจากที่ฮายองได้รับการช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่กำลังเก็บศพหญิงสาวคนนั้น ฮายองวิ่งไปคลุมผ้าที่เท้าของเธอด้วยความเศร้าและเสียใจ เขาหันไปเห็นชายสวมหมวกที่น่าสงสัยคนหนึ่งกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ด้วย
หลายปีต่อมา..
ซงฮายอง(คิมนัมกิล)เป็นรองสารวัตรประจำสถานีตำรวจดงบู เขาพยายามหาตัวไอ้หมวกแดงฆาตกรต่อเนื่องซึ่งมีเหยื่อทั้งสิ้นสิบสองรายแล้ว แต่ฆาตกรก็ยังลอยนวล
ชเวฮวายอน หญิงสาวที่กำลังเดินตากฝนกลับบ้านในตอนค่ำและไม่รู้ตัวว่าไอ้หมวกแดงกำลังสะกดรอยตาม แม่ของเธอนำอาหารมาให้และกำลังจะกลับ ฮวายอนขอให้แม่ค้างคืนด้วยแต่แม่ของเธอปฏิเสธเพราะต้องไปทำงานในตอนเช้า ในคืนนั้นบังกีฮุนแฟนหนุ่มของเธอแวะมาหาและมีปากเสียงกันเล็กน้อย ต่อมาฮวายอนถูกพบเป็นศพในสภาพเปลือยเปล่า ฮายองไปที่เกิดเหตุและสังเกตเห็นตัวเลขที่ถูกเขียนไว้บนกำแพงหน้าบ้านของเธอ
หัวหน้ากุกยองซูต้องการสร้างทีมสืบสวนทางวิทยาศาสตร์แต่ฮอกิลพโยไม่เห็นด้วยเพราะมีฝ่ายพิสูจน์หลักฐานอยู่แล้วและสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ
ฝ่ายชันสูตรพบว่าชเวฮวายอนตั้งท้องสิบสี่สัปดาห์และถูกบีบคอจนขาดอากาศหายใจแต่ไม่มีร่องรอยการข่มขืน หัวหน้าพัคพุ่งเป้าไปที่บังกีฮุนเพราะเขาไปหาเธอในช่วงเวลาเดียวกับที่เธอเสียชีวิต จากนั้นเขาจึงไปจับกุมพังกีฮุนในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม พังกีฮุนเพิ่งรู้ว่าฮวายอนถูกฆ่าตายและกำลังตั้งท้อง เขายืนกรานว่าไม่ได้ฆ่าเธอและมีปากเสียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หัวหน้าพัคไม่เชื่อเพราะกีฮุนเคยมีประวัติอาชญากรและไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าตนเองบริสุทธิ์ในคดีของแฟนสาว จากนั้นหัวหน้าพัคก็ซ้อมกีฮุนเพื่อให้เขายอมรับสารภาพ ในขณะที่ฮายองไม่เชื่อว่ากีฮุนคือคนร้ายจึงไปสอบปากคำชาวบ้านละแวกนั้นซึ่งบอกว่าเห็นชายสวมหมวกแดงเดินตากฝนในคืนที่ชเวฮวายอนถูกฆาตกรรม และแต่ละบ้านก็ถูกเขียนตัวเลขไว้ที่กำแพงตามจำนวนของผู้ที่อยู่ในบ้านหลังนั้น ฮายองกำลังสงสัยว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนส่งอาหารที่เลือกส่งเฉพาะบ้านที่ไม่มีผู้ชายอยู่เพราะรู้จำนวนสมาชิกในบ้าน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายที่สวมหมวกแดงเพราะคิดว่าเขาคือฆาตกรต่อเนื่อง เมื่อชายหมวกแดงคนนั้นเห็นบังกีฮุนในห้องขัง เขาจึงหันมาบอกว่ากีฮุนไม่ใช่คนร้าย
ฮายองขอให้กุกยองซูช่วยไปในที่เกิดเหตุกับเขาเพื่อหาหลักฐานอีกครั้ง แต่รอยนิ้วมือที่พบไม่สามารถยืนยันตัวตนได้และไม่มีประวัติในแฟ้มคดี ฮายองแน่ใจว่ากีฮุนไม่ใช่คนร้ายและไม่เห็นด้วยกับวิธีการของหัวหน้าพัคที่ซ้อมและบีบบังคับให้เขารับสารภาพ
จากการวิเคราะห์คดีอย่างมีเหตุผลในหลายมุมมองของฮายอง ทำให้หัวหน้ากุกยองซูมองเห็นคุณสมบัติของ“โปรไฟเลอร์” ในตัวฮายองซึ่งเขาเป็นคนอ่อนไหวทางอารมณ์ซึ่งทำให้สามารถเข้าใจผู้อื่นได้ กุกยองซูจึงพยายามโน้มน้าวฮายองให้มาเป็นโปรไฟเลอร์ในทีมใหม่ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของอาชญากร แต่ฮายองยังไม่ได้ตัดสินใจ กีฮุนถูกบังคับให้รับสารภาพและไปทำแผน จากนั้นเขาก็ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาสิบสองปี
คังมูคือพนักงานส่งอาหารของร้านแห่งหนึ่งซึ่งภายนอกเหมือนเด็กดีที่ขยันทำงานและเป็นที่รักใคร่ของเจ้าของร้าน วันหนึ่งหลังจากที่เลิกงานแล้ว เขาก็หยิบหมวกแดงขึ้นมาสวมและลงมือฆ่าเหยื่อผู้หญิงรายต่อไปด้วยการบีบคอและเปลื้องเสื้อผ้าของเธอโดยไม่ข่มขืน
บทส่งท้าย..
ในวัยเด็กขณะที่ฮายองอายุ9ขวบ จิตแพทย์บอกกับแม่ของเขาว่าฮายองเป็นเด็กที่มีความรู้สึกลึกซึ้งเกินไปและสามารถมองทะลุเข้าไปในจิตใจของคนอื่นได้ แม้ภายนอกจะดูเป็นคนเย็นชาก็ตาม แต่เขาเห็นช่องว่างระหว่างความรู้สึกตัวเองกับปฏิกิริยาคนรอบตัว การที่ได้เห็นศพผู้หญิงในน้ำครั้งนั้นจึงไปกระตุ้นความคิดในหัวและเขาก็กำลังปกป้องตัวเองโดยพยายามเก็บซ่อนความรู้สึก