สปอยล์ Through the Darkness ตอนที่ 11

ฮายองพ้นขีดอันตรายจากอุบัติเหตุและต้องทำกายภาพบำบัดสักระยะหนึ่ง ยองซูรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฮายองและโทษตัวเองว่ามีส่วนผิด ในเขตจังหวัดคยองกีมีคดีพนักงานคาราโอเกะในวัยสี่สิบกว่าสองคนหายตัวไปในเดือนกุมภาพันธ์และเมษายน พัคแทอุงรับผิดชอบคดีนี้และปรึกษาผู้กำกับฮอกิลพโยเพื่อขอให้ฮายองมาช่วย แต่ฮายองยังรักษาตัวอยู่และตั้งใจว่าจะลาออกจากทีมวิเคราะห์ กุกยองซูจึงไปที่คยองกีด้วยตัวเองและตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับพัคแทอุง สัญญาณโทรศัพท์มือถือของเหยื่อหายไปราวตีหนึ่งบริเวณทะเลสาบแทจงซึ่งอยู่คนละทางกับป้ายรถเมล์ซึ่งเหยื่อใช้เป็นประจำ ในกล้องวงจรปิดไม่มีร่องรอยของเหยื่อและนักประดาน้ำก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ

ฆาตกรทำความสะอาดรถส่วนตัวและเก็บลิปสติกของเหยื่อที่ทำหล่นไว้ในรถหลังจากที่โยนศพทิ้งน้ำ ในยามค่ำคืนเขายังคงตะเวนหาเหยื่อต่อไปโดยใช้แผนการเดิมซึ่งสำเร็จบ้างและไม่สำเร็จบ้าง ฮายองยื่นจดหมายลาออกเพราะอยากใช้เวลาอยู่กับแม่ให้มากขึ้นและเกรงว่าตนเองจะเหมือนอาชญากรปีศาจเหล่านั้น กุกยองซูรับจดหมายไว้และขอให้เขาพักรักษาตัวโดยยังไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ฮายองได้พบกับแม่ของชเวฮวายอนซึ่งเป็นเหยื่อรายหนึ่งในคดีของเขา เธอเป็นจิตอาสาที่โรงพยาบาลและขอร้องฮายองให้เป็นกำลังใจให้ครอบครัวของเหยื่อรายอื่นๆต่อไป เพื่อให้ใช้ชีวิตต่อไปได้เหมือนกับเธอ ฮายองคิดอะไรบางอย่างและบอกกุกยองซูว่าเขาจะกลับไปที่ออฟฟิศ

หกเดือนผ่านไป..
อาการของฮายองดีขึ้นและกำลังจะได้กลับบ้าน ในขณะที่ฆาตกรยังตามล่าเหยื่ออย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะผู้หญิงที่พลาดรถประจำทางในตอนดึก และในคืนนี้มีนักศึกษาสาวรายหนึ่งหายตัวไป ฮายองออกจากโรงพยาบาลและตรงไปที่ออฟฟิศ จึงรู้ว่ากุกยองซูกำลังเดินทางไปที่คยองกีหลังจากได้รับรายงานคนหายจากพัคแทอุง ฮายองจึงรีบตามไปทันทีเพื่อวิเคราะห์คดี

คดีของเหยื่อทุกรายที่หายตัวไปมีความคล้ายคลึงกัน เพราะพวกเขาหายตัวไปจากบริเวณป้ายรถเมล์ในที่เปลี่ยว ฮายองวิเคราะห์ว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกันที่เฝ้ามองสถานที่และอาสาที่จะขับรถไปส่งเหยื่อเหล่านั้นเพื่อลงมือก่ออาชญากรรม ยุนแทกูและทีมของเธอเดินทางตามทีมวิเคราะห์ไปที่คยองกีเพื่อช่วยสืบสวนคดีนี้

ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่เปลี่ยวและไม่มีกล้องวงจรปิด ฮายองจึงเสนอผู้กำกับฮอกิลพโยเพื่อให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วคยองกีรวมทั้งป้ายรถเมล์ด้วย หลังจากติดกล้องวงจรปิดแล้วทีมวิเคราะห์และทีมสืบสวนเริ่มหารือกันว่าคนร้ายน่าจะมีบุคลิกที่ดีหรือมีสิ่งอื่นเพื่อทำให้เหยื่อเชื่อใจจนยอมขึ้นรถไปด้วยเพราะไม่มีรถประจำทาง ฮายองระบุว่าคดีนี้เป็นการลักพาตัวโดยคนร้ายมาในคราบของผู้มีน้ำใจ

ชาวบ้านพบศพหญิงสาวที่เนินเขาอันซานโดยมีใบไม้ปกคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานไปยังที่เกิดเหตุและพบว่าเหยื่อรายนั้นคือยุนจินชิลพนักงานร้านคาราโอเกะที่หายตัวไปในเดือนมกราคม

อันยูยอนเป็นเหยื่อนักศึกษาสาวรายล่าสุด หลังจากที่ถูกรัดคอแล้ว คนร้ายปลอมตัวด้วยเสื้อผ้าและวิกผมเพื่อนำบัตรเอทีเอ็มของเธอมากดเงินที่ตู้และนั่งแท็กซี่ออกไปโดยมีพยานเห็นเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่เริ่มสืบพยานแวดล้อมและออกประกาศจับด้วยภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคาร