สปอยล์ Through the Darkness ตอนที่ 6
ยุนแทกูอยากให้แบ่งขอบเขตการสืบสวนคดีเพราะเธอไม่ต้องการให้ทีมวิเคราะห์เข้าไปในที่เกิดเหตุ แต่หัวหน้ากิลพโยไม่คิดเช่นนั้นเพราะถือว่าทีมวิเคราะห์กำลังช่วยงานสืบสวนและการจับคนร้ายก็คือหน้าที่ของตำรวจทุกคน
เกิดเหตุฆาตกรรมรายใหม่ที่ย่านฮวังฮวาซึ่งเหยื่อคือยุนจองยุนเพศหญิงอายุ65ปีที่มีฐานะเหมือนกับเหยื่อรายอื่นๆ ตำรวจเชื่อมั่นว่าเป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง คนร้ายได้จุดเพลิงในบ้านจึงทำให้ไฟไหม้ศพและเพดาน ฮายองและยองซูคิดว่าคนร้ายคงอยากทำอะไรที่แตกต่างหรืออยากทำลายร่องรอยของตนเอง เขายังคงใช้อาวุธที่ไม่มีคมและไม่แตะต้องทรัพย์สินของเหยื่อ ฮายองวิเคราะห์ระยะห่างการก่ออาชญากรรมของคนร้ายซึ่งนานกว่าครั้งก่อนๆ เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกและคนร้ายต้องมีเหตุผลอื่นแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ด้วยความช่วยเหลือของอินทัค ยองซูและฮายองจึงได้เข้าไปในที่เกิดเหตุ ฮายองสังเกตวัตถุรอบตัวรวมทั้งไม้กางเขนที่อยู่บนผนังสภาพศพไหม้เกรียมและมีรอยอาวุธซึ่งเป็นรูปสามเหลี่ยมแต่ไม่อาจคาดคะเนได้ว่าเป็นอาวุธชนิดใด เป้าหมายของคนร้ายไม่ใช่เงิน ไม่ใช่ฝีมือของคนรู้จักที่มีความแค้น ถ้าเช่นนั้นความโกรธที่ทำให้คนร้ายโจมตีเหยื่อมีฐานะที่ไร้ทางสู้ มันเกิดจากอะไรกันแน่ เสื้อคลุมของสามีเหยื่อหายไปจากที่เกิดเหตุ ยุนแทกูและสายสืบนัมตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบว่าคนร้ายใส่เสื้อคลุมตัวนั้นและใส่รองเท้าปีนเขาเหมือนกับภาพหลักฐานที่ได้พร้อมกับสะพายเป้ที่คาดว่าน่าจะใช้ใส่อาวุธ แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้มานั้น เป็นเพียงภาพด้านหลังจึงไม่เห็นใบหน้าของคนร้าย คิมบงชิกกำลังสงสัยว่าเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละย่านนั้น ตัวอักษรพยัญชนะของชื่อท้องถิ่นมีความคล้องจองกัน เขาจึงนำเรื่องนี้ไปบอกหัวหน้ากิลพโยและผู้กำกับแบคเพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นอีก
อินทัคได้ภาพรองเท้าปีนเขาของคนร้าย ขณะที่ยุนแทกูได้ภาพด้านหลังของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ฮายองจึงเสนอว่าควรใช้วิธีกระจายข้อมูลค้นหา เพราะเขาเชื่อว่าคนร้ายรู้ความคืบหน้าของการสืบสวนจากสื่อ จึงควรใช้สื่อเป็นเครื่องเตือนว่าคนร้ายจะต้องถูกจับกุมแน่และเพื่อเป็นการยังยั้งไม่ให้คนร้ายก่อคดีอีก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงติดประกาศและตั้งรางวัลสำหรับการนำจับคนร้าย แต่วิธีนี้ก็ยังไม่ได้ผลและทำให้ผู้บัญชาการตำรวจไม่พอใจ
ฮายองยังคงไปในที่เกิดเหตุทุกวันเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ทั้งสี่คดีเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันซึ่งผู้หญิงหรือคนแก่อยู่บ้านเพียงลำพัง คนร้ายไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับกายวิภาคมนุษย์
ฮายองส่งรายงานการสรุปว่าคนร้ายอาจมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่รุนแรงพอจะก่ออาชญากรรมหรืออาจมีปัญหากับคนในครอบครัว แต่การค้นหาประวัติการรักษาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้ป่วยอาจจะไม่ได้รักษาอย่างต่อเนื่องหรือรักษาในรูปแบบวอร์ดปิด
เวลาผ่านไปหลายเดือนแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่พบเบาะแสของคนร้าย ทำให้สำนักข่าวออกมาโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่
หลังจากที่กูยองชุนหรือฆาตกรต่อเนื่องซื้อหนังสือกายวิภาคมนุษย์แล้ว เขาก็ติดภาพโครงสร้างร่างกายไว้ที่ผนังห้องของตนเองและไปพบแพทย์เพื่อเอกซเรย์ทั้งร่างกาย ขณะที่ยังจับกูยองชุนไม่ได้ มีฆาตกรต่อเนื่องรายใหม่เกิดขึ้นซึ่งใช้มีดสำหรับแค้มปิ้งเพื่อสังหารเหยื่อ