สปอยล์ Through the Darkness ตอนที่ 9

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมข้อมูลจากคดีฆาตกรต่อเนื่องกูยองชุน เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันอาชญากรรมรุนแรงในอนาคต นักข่าวชเวขอสัมภาษณ์ทีมวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อเขียนบทความ กูยองชุนไม่มีแรงจูงใจในการฆาตกรรมแต่เป็นความเกลียดชังไร้เงื่อนไขที่เกิดจากความโดดเดี่ยวทางสังคมและปรากฎออกมาในรูปแบบอาชญากรรมที่น่าสยดสยอง โปรไฟเลอร์ไม่ใช่นักจิตวิทยาแต่เป็นผู้วิเคราะห์จิตวิทยาและรูปแบบพฤติกรรมของคนร้ายเพื่อช่วยการสืบสวนให้ดำเนินการได้เร็วขึ้น นอกจากนั้นก็ยังวิเคราะห์เบาะแสและหลักฐานแวดล้อมจากการสังเกตที่เกิดเหตุ คดีที่เกิดขึ้นทางตะวันตกฉียงใต้ของโซลคือคดีต่อไปที่ฮายองและทีมของเขากำลังจะวิเคราะห์ บทความของนักข่าวชเวยุนจีทำให้ทีมวิเคราะห์พฤติกรรมเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น

เกิดเหตุฆาตกรรมที่อพาร์ตเมนท์ยงชอนย่านโกชองซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคดีตะวันตกเฉียงใต้ ฮายองไปยังที่เกิดเหตุและเดินรอบบริเวณตึกเพื่อดูโครงสร้างและอนุมานหาเหตุผลที่คนร้ายเลือกสถานที่นี้ เขาต้องการคิดในมุมของคนร้ายและจำลองเหตุการณ์ จากนั้นก็วิเคราะห์พฤติกรรมของคนร้ายว่าเป็นคนก้าวร้าวแต่ใจไม่กล้าและอาจจะมีนิสัยขี้อาย คนร้ายเลือกลงมือในที่สว่างไม่ใช่เพราะต้องการเปิดเผยใบหน้าของตัวเองแต่เพราะต้องการเห็นสีหน้าของเหยื่อขณะถูกทำร้าย คดีที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้แต่เหยื่อรอดชีวิต คนร้ายจึงพัฒนาจากการใช้มีดแคมป์มาใช้มีดทำครัวซึ่งมีความยาวมากกว่า ฮายองคิดว่าคนร้ายศึกษาจากคดีของกูยองชุน

รายงานการวิเคราะห์พฤติกรรม คนร้ายขาดความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม จึงมีนิสัยเก็บตัวและไม่กล้าพอที่จะล่อเหยื่อจึงต้องใช้วิธีเดินตาม ฮายองกำลังกังวลว่าคนร้ายอาจจะพัฒนาด้วยการเปลี่ยนอาวุธและวางเพลิงเพื่อกระตุ้นความสนุกของตัวเอง

ทีมวิเคราะห์ได้รับเอกสารใบหน้าคนร้ายที่ฆ่าหญิงสาวรายล่าสุดที่ย่านคุนโพซึ่งใบหน้าของคนร้ายเหมือนกับภาพสเกตช์ ฮายองหมกมุ่นอยู่กับการวิเคราะห์ จนทำให้กุกยองซูเริ่มกังวลเมื่อเห็นฮายองกำลังทำตัวเหมือนคนร้าย

คนร้ายย่องเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งหวังจะได้ฆ่าเหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาว แต่ทว่าในบ้านหลังนั้นมีเพียงชายหนุ่มกับพ่อซึ่งกำลังหลับอยู่คนละห้อง เขาจึงเปลี่ยนใจขโมยเงินบางส่วนจากกระเป๋าสตางค์ของชายหนุ่ม แต่ถูกจับได้เสียก่อนในข้อหาย่องเบา คนร้ายมีความกังวลกับอาวุธที่พกไปด้วยเพราะอาจทำให้ตำรวจพบเบาะแสเหตุฆาตกรรมหลายรายที่เขาได้ก่อไว้ก่อนหน้านี้

นัมกีแทผู้ต้องสงสัยที่เคยก่อคดีมาแล้วหลายครั้งและถูกพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ฮายองเข้าไปสอบปากคำเป็นคนแรกเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรม นัมกีแทจำฮายองได้จากภาพข่าวซึ่งเขาเป็นคนที่จับกุมกูยองชุน