สปอยล์ train ตอนที่ 10

10


ตอนที่ซอคยองอยู่กับซอกมินจุนที่คลีนิค  เขาคิดว่าเคยปล่อยให้ซอคยองรอดชีวิตมาแล้ว คราวนี้เขาจึงอยากเล่นเกมกับเธอโดยที่เธอไม่รู้ว่าเกมอะไร จากนั้นก็ปล่อยเธอไป


โดวอนถามมินจุนว่าซอคยองอยู่ไหน  มินจุนไม่ตอบแต่โทรหาซอคยองเพื่อให้เธอได้ยินตอนที่เขามอบตัวกับโดวอน   โอมีซุกตกใจเมื่อรู้ว่าซอกมินจุนยอมมอบตัวและรับสารภาพว่าฆ่าคนตายมาหลายศพ 

ในห้องสอบสวนซอกมินจุนบอกซอคยองว่า เขาคิดว่าเธอเหมือนเขาที่อยากฆ่าคน แต่รู้สึกผิดหวังเมื่อเห็นเธออยากปกป้องคนอื่นๆ  ซอคยองโมโหที่ตนเองเคยแสดงความอ่อนแอให้มินจุนเห็นมาตลอดและบอกว่าเธอจะรอดูวันที่มินจุนเน่าตายในคุก  โดวอนไม่พอใจที่มินจุนพูดจากวนประสาทซคยอง  จึงทำให้เขาต่อยมินจุนจนล้มลง  มินจุนยังคงนอนยิ้มอยู่อย่างนั้น 

โอมีซุก สายสืบแจฮยอกและสายสืบคัง มาดูการสอบสวนอยู่ด้านนอกห้องกระจก ซึ่งมินจุนมองออกมาตลอดเวลา  เขาบอกว่าแรงจูงใจที่ต้องฆ่าพ่อของซอคยองเมื่อสิบสองปีก่อนก็เพราะหงุดหงิดเสียงของกล่องดนตรีที่ใส่เครื่องประดับ  เพราะมันทำให้พ่อของเธอรู้ตัวว่ามีขโมยเข้าบ้าน  ส่วนสาเหตุที่ฆ่ารายอื่นๆก็เพราะหงุดหงิดเช่นกัน  โดยเริ่มต้นจากการรัดคอเหยื่อ  เขาบอกว่ามันน่าประทับใจที่เหยื่อของเขา ซึ่งเคยเป็นคนไข้ เคยมาบ่นว่าอยากตาย พอเขาจะทำให้ตายก็ดันร้องขอชีวิต  เมื่อเหยื่อหมดลมหายใจแล้ว เขาก็ใช้ค้อนทุบหัว  การฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเพราะโมโหที่ในหัวของเขาเหมือนมีคนมาวางระเบิดไว้ตามอาการของโรคที่เป็นอยู่ 

มินจุนท้าทายเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ตามหาศพให้เจอภายใน43ชั่วโมงที่เหลืออยู่ ไม่เช่นนั้นแล้ว เฉพาะคำให้การของเขาโดยไม่มีพยานหลักฐานจะไม่สามารถเอาผิดเขาได้  ซอคยองเพิ่งเข้าใจว่านี่คือเกมที่เขาบอกว่าอยากเล่นกับเธอ


โอมีซุกสั่งให้ทุกคนหาศพให้เจอ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่จะจับมินจุนได้  ในคืนนั้นเอง มีคนลึกลับเดินเข้ามาหามินจุนในห้องสอบสวน โดยปิดกล้องและดับไฟไว้  มินจุนบอกว่ามันคุ้มค่าที่ได้เห็นสีหน้าและท่าทีกระวนกระวายของบุคคลลึกลับนั้น และบอกเหตุผลที่ทำแบบนี้ก็เพราะเขาจะเป็นบ้าที่นำโรคร้ายฮันติงตันมาสู่เขา


ทุกคนช่วยกันระดมกำลังหาทุกอย่างเพื่อใช้เป็นหลักฐานการฆาตกรรม แต่ก็ไม่มีใครพบอะไรและเวลาก็เหลือน้อยลงทุกที  ซอคยองเจอรูปเก่าที่ถูกฉีกเหลือเพียงมินจุนสมัยยังเด็ก เหน็บอยู่ในหนังสือ”ต้นส้มแสนรัก” ที่มินจุนชอบอ่าน  เธอพบว่ารูปนั้นถ่ายที่บ้านเก่าที่ตลาดอินนัม  ทั้งๆที่ในประวัติบอกว่าอยู่ที่มูคยองมาตลอด  ซอคยองรายงานโดวอนว่าพ่อแม่ของมินจุนตายหมดแล้ว และทิ้งมรดกกองโตไว้ให้เขาเพราะเป็นเจ้าของบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าหลายแห่ง


เหลือเวลาเพียงสิบสองชั่วโมงเท่านั้น  โดวอนบอกซอคยองว่าเขามีไพ่ใบสุดท้ายคือผลตรวจดีเอ็นเอจากซอกเล็บของสารวัตรใหญ่และก้านธูปที่มินจุนเคยทำตกไว้  แต่นั่นหมายความว่าเมื่อเปิดเผยศพของสารวัตร  โดวอนจะต้องไม่อยู่ที่นี่  เขาบอกเธอว่าเขาได้เจอผู้หญิงคนนั้นแล้ว  แม้ว่าเธอจะจำไม่ได้ก็ตาม เขาก็ยังอยากมีชีวิตแบบนั้นในโลกที่สองนี้เพื่ออยู่ข้างๆเธอและไม่อยากเสียเธอไปอีกครั้ง  โดวอนและซอคยองแปลกใจที่ช่องเก็บศพไม่ใช่สารวัตรใหญ่แต่กลายเป็นบุคคลไร้ญาติ


เมื่อหมดเวลาและยังหาศพไม่เจอ โดวอนจึงจำใจต้องปล่อยมินจุนไป  เขาบอกโดวอนว่าที่จริงแล้วมีศพที่แปดซึ่งถูกเขาฆ่าเมื่อสามวันก่อน  และท้าให้โดวอนหาให้เจอก่อนที่ศพจะหายไปตลอดกาล  โดวอนสงสัยว่ามินจุนรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่มินจุนไม่รู้เรื่องนี้และให้โดวอนดูแหวนที่อยู่ในกล่องพร้อมทั้งขู่ว่า แหวนวงนี้จะปอยู่บนร่างของคนที่เขาสนิท


โอมีซุกยังคงยืนกรานให้โดวอนหาศพให้เจอ จากนั้นเธอเตรียมยื่นใบลาออก โดยอ้างความผิดพลาดของคดีที่เธอรับผิดชอบเมื่อสิบสองปีก่อน และตอนนี้ฆาตกรมินจุนก็ลอยหน้าเข้ามามอบตัวแต่ก็ต้องปล่อยไปเพราะไม่มีหลักฐาน  เบื้องบนต้องการให้ปิดคดีนี้โดยใช้อีซองอุคเป็นแพะรับบาป


ซอคยองนั่งมองรูปที่เจอและอยากรู้ว่าใครกันที่ทำให้มินจุนโกรธถึงกับต้องลงที่เหยื่อ  หลังจากที่โดนมินจุนขู่แล้ว โดวอนรู้ดีว่าหมายถึงซอคยอง เขาจึงขอให้ซอคยองอยู่ในสายตาของเขา  เธอจึงนอนค้างที่สถานีในคืนนั้น  ขณะที่มินจุนหยิบแหวนขึ้นมาดูและถามตัวเองว่าจะเลือกหนทางสู่ชีวิตหรือหนทางสู่ความตาย


โดวอนดูรูปคู่ของเขากับซอคยองและบอกตัวเองว่า คนร้ายรู้ดีว่าเขาข้ามมายังโลกที่สองนี้ แต่ไม่ใช่ซอกมินจุน  โดวอนไม่เห็นซอคยองในตอนเช้า ขณะที่เธอมุ่งหน้าไปตลาดอินนัมเพื่อสืบเรื่องของซอกมินจุน เธอไม่ฟังคำเตือนของโดวอนว่าเธอคือเป้าหมายของซอกมินจุน  ทันใดนั้นเองสายสืบแจฮยอกรายงานว่าพบร่องรอยของเหยื่อรายสุดท้ายแล้วตามที่มินจุนเคยบอกไว้  เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุโดวอนได้พบรอยเลือดของฮวังฮีคยองอายุ 42 ปีซึ่งหายตัวไป  และเป็นคนไข้ของซอกมินจุน  เมื่อรู้ว่าสามสี่วันที่ผ่านมาไม่มีฝนตก โดวอนจึงแน่ใจว่าศพต้องอยู่บริเวณนี้ จึงสั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่มินจุนขับรถผ่าน


ซอคยองไปถึงบ้านร้างหลังเก่าที่มินจุนเคยอยู่และได้พบคนเก่าแก่ที่นั่น  เธอเล่าว่าที่นี่เป็นบ้านสยองเพราะไม่รู้ว่าผู้เป็นยายป่วยหรือโดนผีสิง มินจุนจึงถูกล้อตั้งแต่เด็กว่าเป็นปีศาจ  ซอคยองจึงเข้าใจว่าเขาเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ได้มาจากฝ่ายแม่ ที่นี่เคยอยู่กันสามคนและย้ายออกไปหลังจากที่ยายตายแล้ว  และเมื่อก่อนไม่ได้ใช้นามสกุลนี้  ซอคยองนั่งดูรูปเหยื่อทั้งหมดและโทรหาลูกสาวของป้าคยองอีเพื่อสอบถามอะไรบางอย่าง


เมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว เห็นว่าซอกมินจุนขับรถผ่านบริเวณโกดังหลายแห่ง  โดวอนจึงสั่งให้ตรวจสอบทั้งหมด ในขณะที่โดวอนกำลังใช้ความคิด ฝนได้ตกลงมา ทำให้เขารีบไปที่สถานีรถไฟทันที


ที่โกดังร้างแห่งหนึ่งคนร้ายได้ราดน้ำมันและตั้งเวลาจุดไฟไว้  ก่อนที่จะลากศพไปที่สถานีรถไฟ  ซอคยองรีบกลับมาบอกโดวอนว่าเธอรู้แล้ว่าเหยื่อรายต่อไปของมินจุนคือใคร แต่ก็ไม่พบเขา นอกจากรูปคู่ที่อยู่ในไดอารี่บนโต๊ะ จึงได้รู้ว่าคนรักที่โดวอนเคยเล่าให้ฟังก็คือตัวเธอนั่นเอง


โดวอนตามหาคนร้ายบนรถไฟขณะที่กำลังวิ่งเข้าสู่สถานีมูคยอง  สายสืบแจฮยอกและสายสืบคังมายังโกดังของคนร้าย และได้เจอฆ้อนหลายอันซึ่งเป็นอาวุธของฆาตกร 

ทันใดนั้นเองได้เกิดประกายไฟลุกไหม้โกดังตามเวลาที่ตั้งไว้  เป็นเวลาเดียวกับที่โดวอนได้พบกระเป๋าใส่ศพ 

เมื่อรู้ว่าคนร้ายถือปืนอยู่ด้านหลัง จึงหันกลับไปเผชิญหน้า และได้รู้ว่าคนคนนั้นก็คือโอมีซุก หัวหน้าของเขาเอง  เธอได้เตือนแล้วว่าให้อยู่เงียบๆ ก่อนที่จะลั่นไกยิงเขา เมื่อนาฬิกาที่สถานีมูคยองเดินไปที่เวลา 21.35 น.พอดี