สปอยล์ train ตอนที่ 3

3

โดวอนนั่งร้องไห้กอดศพซอคยองอยู่ที่ข้างทางรถไฟ และนึกถึงเรื่องราวเมื่อสิบสองปีก่อน หลังจากที่พ่อของเขาและซอคยองตาย และรับเธอมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของโอมีซุก โดวอนรับปากว่าเขาจะดูแลปกป้องเธอเอง

เมื่อ โอมีซุก อีจองมิน และลูกทีมไปถึงที่หน้าห้องดับจิต โดวอนขอให้อีจองมินปลุกเขา เพราะขณะนั้นโดวอนมีสายตาพล่ามัวและเห็นภาพซ้อน

ตำรวจไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และพบใบปลิวบริการของโบสถ์มูคยองซึ่งมีรูปของบาดหลวงพัคยองแทอยู่ในกระเป๋าใส่ศพ จึงได้นำไปพิสูจน์หลักฐาน
 
ที่งานศพ ตำรวจบอกโดวอนว่าซอคยองโทรหาเขาก่อนตาย โดวอนจึงเปิดฟังข้อความเสียง ซึ่งเธอบอกว่าพ่อของเขาไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าพ่อเธอ โดวอนจึงเปิดแฟ้มประวัติดูรูปถ่ายกล่องเครื่องประดับ เธอยังบอกอีกว่าเหยื่อทั้งห้ารายที่สถานีมูคยอง ต่างก็ใส่เครื่องประดับของแม่เธอ ซอคยองจึงขอให้เขาไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป

โดวอนบอกอีจองมินว่าพ่อของเขาไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าพ่อของซอคยอง เพียงแต่อยู่ผิดที่ผิดเวลาในคืนเกิดเหตุ โดวอนให้เธอดูรูปต่างหูที่เหยื่อใส่ ซึ่งเหมือนกับของแม่ซอคยอง อีจองมินจึงคิดว่าฆาตกรที่ฆ่าพ่อคือคนเดียวกับที่ฆ่าซอคยอง โดวอนอยากรู้ว่าหากพ่อของเขาไม่ประสบอุบัติเหตุและเขาไม่เคยเจอซอคยอง เหตุการณ์จะเปลี่ยนไปไหม อีจองมินนำหัวกระสุนในร่างของซอคยองมาให้โดวอน ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ตำรวจใช้ จองมินขอให้โดวอนจับตัวคนร้ายให้ได้

ศพล่าสุดที่พบในกระเป๋า เป็นหญิงอายุประมาณห้าสิบ ไม่สวมเครื่องประดับ ถูกบีบคอจนขาดอากาศและโดนทุบกระโหลกศีรษะ

เมื่อโดวอนพาอีจียองไปดูศพตัวเอง เธอบอกว่าไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีฝาแฝด เพราะไม่เคยเจอแม่ที่แท้จริง โดวอนจึงบอกว่าไม่อาจสืบประวัติการเกิดของเธอได้ เพราะโรงพยาบาลนั้นไฟไหม้ไปหมดแล้ว แต่หากมีแฝดคนที่สาม ก็เป็นไปได้ที่ลายนิ้วมือจะเหมือนกัน อีจียองจึงขอรับศพไปเอง ส่วนรอยแผลที่คอ เธอบอกว่า ทำกาแฟหกใส่ที่คอและหลังตอนอายุห้าขวบ ซึ่งเป็นรอยแผลเป็นเดียวกันบนร่างของศพ

ผลการตรวจลายนิ้วมือบนกระเป๋าและใบปลิวเป็นของอีจินซอง พ่อค้ายาที่ติดคุกเมื่อสามปีก่อน ที่เรื่องแดงก็เพราะเขาเก็บไฟล์ของลูกค้าไว้ จินซองเพิ่งพ้นโทษไปเมื่อต้นปี ลูกน้องของโดวอนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ที่คดีตอนนี้และเมื่อสิบสองปีก่อน คนร้ายไม่เคยทิ้งร่องรอยไว้เลย แต่จู่ๆ ก็ปรากฏลายนิ้วมือของอีจินซอง ตอนนั้นโดวอนเป็นคนจับอีจินซอง เขาจึงไปหาพัคมินคยองที่ทำงานซึ่งเธอเป็นแฟนของอีจินซอง แต่เธอบอกว่าเลิกกันไปแล้วตั้งแต่อีจินซองอยู่ในคุก และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน โดวอนเห็นพาสปอร์ตสองเล่มในกระเป๋าของเธอ จึงสอบปากคำ อีจินซองเดินออกมาจากในร้านพอดี ลูกน้องและโดวอนจึงวิ่งไล่ตามจนจับได้ โดวอนจึงใช้ปืนขู่จินซอง ลูกน้องของโดวอนตรวจสอบที่อยู่และภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า เมื่อสี่วันก่อนที่ซอคยองถูกฆ่า จินซองไม่ได้ไปไหน นอกจากทำงานที่ร้าน จินซองบอกว่าเขาจะไปอยู่แคนาดากับพัคมินคยอง เพราะเคยอยู่ที่นั่นตั้งแต่ประถมจนอายุยี่สิบ ลูกน้องของโดวอนบอกว่า จินซองเพิ่งอายุยี่สิบเมื่อปี 2010 แสดงว่าเมื่อสิบสองปีก่อน เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เมื่อตำรวจให้ดูหลักฐานที่ปรากฏลายนิ้วมือของเขา ปรากฏว่าเขาถูกตัดนิ้วตั้งแต่ออกจากคุก

โดวอนเดินเข้าไปในโบสถ์มูคยองซึ่งเป็นโบสถ์ร้าง และเห็นใบปลิวว่าย้ายไปอยู่โบสถ์สาลีแท้ ระบุปี ค.ศ.2015 เขาจึงตามไปที่นั่น ได้ข้อมูลว่าทางโบสถ์ไม่เคยจัดงานตามที่ระบุในใบปลิว และบาดหลวงพัคยองแทในรูปก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่สามปีก่อน ขณะนั้นเองเสียงหวีดแหลมของรางเหล็กก็ดังขึ้นในหูของโดวอนอีก
อีจองมินตามโดวอนไปที่สถานีรถไฟมูคยอง เพื่อดูจุดเกิดเหตุที่ซอคยองถูกยิง เขาบอกอีจองมินว่าเป็นการยิงจากด้านหลังซึ่งอยู่สูงกว่า 2.10 เมตร ซึ่งเขาคิดว่าคนร้ายอยู่บนรถไฟผีที่เขาเคยเห็น และเชื่อว่านอกจากเขาแล้ว อีซองอุคก็เคยเห็นรถไฟขบวนนี้เช่นกัน

ซองอุคกำลังนั่งวาดรูปขบวนรถไฟอยู่ในเรือนจำ โดวอนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยม เขาจึงไปดักพบที่ทางเดิน และทำร้ายร่างกายซองอุคเพื่อเค้นความจริง แต่ซองอุคบอกว่าเขาเป็นคนฆ่าซอคยองเอง ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาอยู่ในเรือนจำ
เมื่อจองมินบอกหัวหน้าโอมีซุกถึงเรื่องรถไฟผีที่โดวอนเล่า โอมีซุกจึงสั่งให้ลูกน้องตรวจสอบยาที่โดวอนกิน ซึ่งมันคือยากระตุ้นประสาทส่วนกลาง เมื่อโดวอนกลับเข้ามาที่ ส.น. เธอจึงสั่งริบบัตรประชาชน ปืน และกุญแจมือ และให้ทีมสองรับคดีนี้ไปทำแทน โดยให้โดวอนถอนตัวออกจากคดีนี้ และพักงานจนกว่าจะมีการสอบสวนทางวินัยที่ใช้กระสุนจริงข่มขู่อีจินซอง แต่โดวอนปฏิเสธและขอขัดคำสั่งโอมีซุกจนกว่าเขาจะจับตัวคนร้ายได้ โอมีซุกจึงเตือนเขาให้ค่อยๆยอมรับความจริง เพราะต่อให้จับคนร้ายได้ ซอคยองก็ไม่มีวันกลับมา


ขณะที่โดวอนอีกโลก หรือผู้ตรวจการอาวุโสซอโดวอน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ได้ฆ่าอีจินซองตาย และกำลังขึ้นรถไฟหนีการไล่ล่าของตำรวจเพื่อไปสถานีมูคยอง เขาหลบอยู่ในห้องน้ำและหยิบแหวนวงหนึ่งขึ้นมาดู ตำรวจสองนายเคาะประตูห้องน้ำที่สารวัตรโดวอนแอบอยู่ เขาจึงเปิดออกมาและทำร้ายเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็วิ่งหนีอยู่บนโบกี้


โดวอนที่โลกนี้แอบขโมยปืนที่โดนยึด และไปที่สถานีรถไฟมูคยอง เขาเดินใช้ความคิดและเปิดข้อความเสียงของซอคยองฟังอีกครั้ง จากนั้นโดวอนก็นั่งลงตรงที่ซอคยองตายและใช้ปืนจ่อหัวตัวเอง
ยังไม่ทันที่จะลั่นไก เขาได้ยินเสียงรถไฟกำลังมา และนาฬิกาข้อมือที่ซอคยองเคยซื้อให้ ก็เดินถอยหลัง เมื่อรถไฟกำลังแล่นผ่าน โดวอนเห็นซอคยองนั่งอยู่บนรถไฟขบวนนั้น เขาจึงวิ่งตามไปและใช้ปืนทุบกระจกประตูเพื่อเข้าไปในนั้น ขณะที่โดวอนเดินตามหาซอคยองอยู่นั้น

เจ้าหน้าที่สองคนคิดว่าโดวอนคือโดวอนอีกโลกที่พวกเขากำลังตามหา จึงสั่งให้หยุด เขาวิ่งลงมาจากรถไฟและ พบว่าที่นี่คือสถานีมูคยองซึ่งมีคนพลุกพล่าน เจ้าหน้าที่ยังคงตามเขาต่อไป โดวอนวิ่งออกมานอกสถานีและไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหนกันแน่ จนกระทั่งพบบาดหลวงพัคยองแทแจกใบปลิวให้เขาที่หน้าโบสถ์ จากนั้นโดวอนก็วิ่งหนีต่อไปตามรางรถไฟ เมื่อได้ยินเสียงปืน เขาจึงหันไปดู และเห็นซอคยองกำลังเล็งปืนมาที่เขา..