สปอยล์ train ตอนที่ 8

8

ต่อตอน 7
โอมีซุกไปหาซอแจชอลพ่อของโดวอน แต่ไม่มีการตอบรับ เมื่อเปิดประตูเข้าไปจึงพบว่าเขานอนสลบอยู่ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล และตอนนี้ซอแจชอลป่วยระยะสุดท้าย
โดวอนรู้คำตอบอยู่แล้วว่า ผลการชันสูตรของเหยื่อคือการขาดอากาศหายใจ ไม่ใช่กะโหลกร้าว และไม่สามารถตรวจดีเอ็นเอได้ โดยที่เขายังไม่ได้คำตอบจากซอคยองด้วยซ้ำ เขาจึงถามเธอว่าเชื่อเขาหรือยัง ซอคยองเล่าว่าแม่บ้านของโจยองรันบอกว่าอีซออุคติดการพนัน เมื่อแม่เลิกให้เงิน พวกเขาจึงไม่ลงรอยกันมาสองสามปีแล้ว โดวอนจึงคิดว่าการที่ซองอุคทิ้งศพไว้ ก็เพื่อให้ศพได้รับการลงทะเบียน และเขาก็จะได้รับมรดก และถ้าอีซองอุคฆ่าพ่อของซอคยองจริงๆ ก็ต้องมีเครื่องประดับของแม่เธอที่เหลืออยู่ด้วย
ซองอุคนำรถยนต์เอสยูวีสีดำไปขายต่อที่โรงขยะเพื่อทำลายหลักฐาน ซึ่งตรงกับความตั้งใจของโดวอนที่ต้องการให้หลักฐานหายไป เพราะหลังจากที่ขายแล้ว สายสืบแจฮยอกจึงนำรถกลับมาพิสูจน์ได้ จากนั้นจองมินพบเส้นผมในรถและตรวจพบว่าเป็นของอีจียอง โดวอนจึงบอกว่าเธอเป็นหนึ่งในเหยื่อ และต่อไปก็จะพบรายอื่นๆอีก ส่วนซอคยองพบการ์ดใบหนึ่งซึ่งเหมือนกุญแจล็อคเกอร์ที่โรงยิมแห่งหนึ่ง
โดวอนและซอคยองไปค้นที่ล็อคเกอร์ พวกเขาเจอทั้งฆ้อนเปื้อนเลือด และกล่องเครื่องประดับของแม่ซอคยอง ยิ่งทำให้เธอแค้นใจมากกว่าเดิม
โอมีซุกนั่งดูข่าวที่ออกมาว่าอีซองอุคคือฆาตกรต่อเนื่อง และโทษว่าเป็นความบกพร่องของตำรวจที่ทำคดีนี้ ทำให้เธอรู้สึกแย่ เมื่อโดวอนเข้ามาหา เธอจึงขอโทษเขาที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องพัง แต่โดวอนบอกว่า เขาแค่เดินอ้อมไปเท่านั้น และขอบคุณที่เธอยอมทิ้งความยุติธรรมเพื่อช่วยเขา และซอคยองคือเหตุผลที่เขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เมื่อโดวอนถามถึงพ่อที่เพิ่งออกจากคุก โอมีซุกได้แต่บอกว่ากำลังตามหาอยู่ เพราะเธอรับปากพ่อของโดวอนไว้ว่าจะไม่บอกเขา โดวอนต้องการจับอีซองอุคเพื่อยื่นฟ้องคดีใหม่ เพื่อให้พ่อของเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ โอมีซุกจึงบอกโดวอนให้รีบจับซองอุคให้ได้โดยเร็ว
ผลตรวจดีเอ็นเอระบุตัวตนของป้าคยองฮีได้แล้ว ส่วนเหยื่อที่ชื่ออีจียอง ยังไม่มีใครแจ้งความคนหายและไม่มีใครรู้ที่อยู่ โดวอนไม่เห็นซอคยอง จึงรู้จากสายสืบแจฮยอกว่า เธอออกไปตามหาอีซองอุค ตามที่มีคนแจ้งเบาะแส จองมินบอกโดวอนว่าเธอพบคราบเลือดเก่าของซอคยอง ที่บ้านของโจยองรัน ในห้องนอนเก่าของเธอ แต่ว่าไม่เกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น จากนั้นโดวอนจึงเข้าไปดูที่ห้องเก่าของซอคยอง และมองเห็นเหตุการณ์ในอดีตว่าตอนนั้นซองอุคพยายามขืนใจเธอ แต่เธอต่อสู้และแทงเข้าที่ตาข้างขวาของซองอุค โจยองรันก็เข้ามาทุบตีเธอจนเลือดติดผนัง โทษฐานที่ทำร้ายซองอุคจนตาบอดหนึ่งข้าง จากเหตุการณ์นั้นทำให้ซอคยองคิดฆ่าตัวตายโดยการกรีดข้อมือ จนทำให้เธอมีแผลเป็นจนถึงปัจจุบัน โดวอนยังพบสมุดบันทึกของเธอที่ต่อว่าพ่อของเขา ที่ทำให้เธอมีชีวิตเลวร้ายแบบทุกวันนี้
ซอคยองออกไปตามหาซองอุคจนทั่วแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งแกะรอยโทรศัพท์ที่ซองอุคใช้ก่อนปิดเครื่อง และรู้ว่าเขาไปกบดานไปที่ตลาดเก่าซึ่งย่าของคิมจินอูเคยอยู่ที่นั่น
โดวอนจากโลกที่สอง ขณะนี้อยู่ในโลกที่หนึ่ง ไปขอพบอีซองอุคที่เรือนจำ เมื่อเจอหน้าซองอุคและเห็นปานที่หลังมือ โดวอนก็กระชากคอและโทษเขาที่ฆ่าฮันคยูแทพ่อของซอคยองและขับรถชนพ่อของเขา ซองอุคในโลกที่หนึ่งซึ่งเป็นโรคพิการทางสมองได้บอกว่าเขาไม่ได้ทำ แต่อีกสักพักก็มีท่าทางหวาดกลัวและบอกว่าเขาเป็นคนทำ และนอนชักอยู่ตรงนั้น
สารวัตรใหญ่โดวอนมีอาการอยากยา จึงเข้าไปรื้อค้นในร้านขายยา แต่ถูกจับได้จึงวิ่งหนีไปที่สถานีรถไฟมูคยอง เขาล้มลงที่รางรถไฟ และจำได้ว่ายังมีชายใส่หมวกอีกคนหนึ่งอยู่ในรถที่ขับชนพ่อของเขา ขณะนี้เวลา 21.35 น. และฝนตกลงมาพอดี
โดวอนในโลกที่สองพร้อมด้วยสายสืบแจฮยอกและสายสืบคัง รีบไปตามหาซอคยองไปที่ตลาดเก่า เมื่อซอคยองเจอซองอุค ได้เกิดการต่อสู้ขึ้น ซองอุคบอกว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าพ่อของเธอ เพียงแต่ต้องการไปขโมยเครื่องประดับเท่านั้น แต่บังเอิญพ่อของเธอกลับมาเห็นซะก่อน ซองอุคพยายามจะแทงที่ดวงตาของซอคยองอย่างที่เขาเคยโดนเธอทำ แต่ซอคยองเป็นฝ่ายยิงซองอุคจนล้มลง และกำลังจะยิงตัวตาย แต่โดวอนเข้ามาพอดีและดึงเธอมากอดไว้พร้อมทั้งขอโทษที่ทิ้งเธอไว้คนเดียว แต่เมื่อหันกลับมา ซองอุคได้หนีไปแล้ว ทั้งคู่จึงรีบวิ่งออกตามหา
สารวัตรใหญ่โดวอนโดยสารรถไฟกลับจากโลกที่หนึ่งมายังโลกที่สองได้สำเร็จ จึงโทรหาโดวอนและบอกว่าซองอุคไม่ใช่ฆาตกร แต่มีผู้สมรู้ร่วมคิดซึ่งเป็นฆาตกรตัวจริงที่ก่อคดีเมื่อสิบสองปีก่นรวมทั้งคดีที่เกิดหลังจากนั้นด้วย เขาขอให้โดวอนจับซองอุคให้ได้เพื่อให้สารภาพว่าฆาตกรเป็นใคร ระหว่างที่โดวอนรู้แล้วว่าตนเองกำลังคุยกับสารวัตรใหญ่โดวอน ทันใดนั้นเองร่างของซองอุคก็ตกลงมาจากดาดฟ้าซะก่อน
--------------

ตอน 8
Train #8

สายสืบแจฮยอกไล่ล่าซองอุคไปจนถึงดาดฟ้า ซองอุคโชว์สร้อยเส้นหนึ่งให้แจฮยอกดูและบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนฆ่า เพียงแต่รับคำสั่งมาเท่านั้น ทันใดนั้นเองเขาเกิดภาพหลอนของฆาตกรซึ่งใส่สร้อยเส้นนั้น จนหวาดกลัวและตกลงมาเอง

โอมีซุกโทรเช็กอาการของพ่อโดวอน หลังจากนั้นเธอเห็นสารวัตรใหญ่โดวอนที่เพิ่งกลับมาจากโลกที่หนึ่งเดินผ่านเธอไป แต่เขาไม่หันกลับมาเมื่อเธอเรียก และต้องแปลกใจยิ่งขึ้นเมื่อโดวอนเดินเข้ามาพร้อมกับซอคยองอีกด้านหนึ่ง

ซองอุคได้รับบาดเจ็บสาหัสที่หัว หมอกำลังผ่าตัดให้แต่ไม่รับรองผล โอมีซุกต่อว่าลูกทีมที่ตัดสินใจกันเองโดยไม่บอกเธอและไม่เรียกกำลังเสริม โดวอนออกตัวรับผิดชอบทั้งหมด และแก้ตัวให้ซอคยองว่าเธอยิงซองอุคเพื่อป้องกันตัวเอง

ซอคยองบอกโดวอนว่า ซองอุคตาบอดข้างขวาทำให้วิสัยทัศน์ข้างนั้นแคบลงและใช้มือซ้ายมาตลอด แต่ในรายงานการชันสูตรแจ้งว่าคนร้ายถนัดขวา โดวอนจึงบอกเธอให้สืบเรื่องนี้ต่อ

ซอคยองเหลือบไปเห็นรูปซึ่งเสียบอยู่ในไดอารี่ของโดวอน โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นรูปคู่ของเธอกับโดวอนในโลกที่หนึ่ง โอมีซุกบอกให้โดวอนรีบไปเยี่ยมพ่อซึ่งเป็นตับแข็งระยะสุดท้ายและคงอยู่ได้อีกไม่นาน โดวอนจึงรีบออกไป โดยที่สายสืบคังมองดูอยู่ห่างๆ

เมื่อไปถึงรถ โดวอนได้พบกับสารวัตรใหญ่โดวอน ซึ่งบอกว่าเขากลับมายังโลกของเขาแล้ว และถามว่าจับอีซองอุคได้หรือไม่ ขณะที่ทั้งสองโดวอนกำลังคุยกันอยู่นั้น สายสืบคังเดินเข้ามาเรียก แต่สารวัตรใหญ่เป็นฝ่ายออกมาโดยบอกว่าสายสืบคังเรียกเขา สายสืบคังสังเกตว่าการแต่งกายของสารวัตรใหญ่ในชุดสูท แตกต่างจากโดวอนที่เขายืนมองอยู่เมื่อสักครู่ แต่สารวัตรใหญ่ตัดบทโดยบอกว่ามีอะไรก็ให้รีบพูด และแปลกใจที่เพิ่งรู้ว่าอีซองอุคบาดเจ็บและกำลังเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งหมอบอกว่าอาจจะไม่ได้สติ จากนั้นสารวัตรใหญ่หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ สายสืบคังมองเขาและเดินกลับไปด้วยความสงสัยอยู่อย่างนั้น


สารวัตรใหญ่และโดวอนออกไปคุยกันที่รางรถไฟคู่ขนาน และเข้าใจว่าเมื่อสิบสองปีก่อนพวกเขาทั้งคู่เข้าสู่สองโลกที่ต่างกัน โดวอนในโลกที่หนึ่งได้พบกับซอคยอง ซึ่งต่างจากสารวัตรใหญ่ในโลกที่สอง โดวอนถามสารวัตรว่าทำไมฆาตกรถึงหยุดฆ่าคนในโลกของเขา สารวัตรใหญ่จึงตอบว่าฆาตกรอาจติดคุกหรือตายไปแล้วก็ได้ และโลกที่สองก็ต่างจากโลกที่หนึ่งมาก เขาบอกให้โดวอนกลับไปยังโลกของตัวเอง และเขาจะเป็นคนจับคนร้ายเอง โดวอนบอกว่าทำไม่ได้ และขอร้องไม่ให้สารวัตรใหญ่เสพยาหรือเป็นตัวเขาในแบบที่แย่ที่สุด สารวัตรใหญ่ไม่พอใจและต่อยหน้าโดวอน เขาว่าโดวอนว่ามัวแต่ปิดบังความจริง และกลัวที่ต้องใช้ชีวิตในฐานะลูกชายฆาตกร แต่โดวอนบอกว่าเขาไม่ได้ปิดบังแต่ต้องปกป้องซอคยอง สารวัตรใหญ่จึงบอกว่าในโลกนี้เขาช่วยพ่อไว้ได้ ในขณะที่โดวอนในโลกที่หนึ่งไม่สามารถช่วยใครได้ แม้แต่พ่อหรือซอคยองที่ตายไปแล้วทั้งคู่

สารวัตรใหญ่กำลังจะฉีดยาเข้าเส้น แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของโดวอนที่ว่า เขาใช้ชีวิตในแบบที่แย่ที่สุด เขาจึงเขวี้ยงอุปกรณ์ยาเหล่านั้นทิ้ง

สายสืบแจฮยอกนำข้าวของที่พบที่ตู้เซฟของโจยองรันมาให้ซอคยอง เธอพบบัตรประจำตัวของป้าคยองฮีและอีจียองในกล่องนั้น และประเมินว่าโจยองรันรู้ว่าอีซองอุคฆ่าคนเหล่านี้ เธอถึงได้กลัวเขา

ซอคยองไปที่สถานพยาบาลฮวาจินเมื่อรู้ว่าโดวอนไปเยี่ยมพ่อ เธอแนะนำตัวเองว่าเป็นลูกสาวของเหยื่อเมื่อสิบสองปีก่อน และคุกเข่าขอโทษซอแจชอลที่เข้าใจผิดมาทั้งชีวิต เพราะเพิ่งรู้ว่าเขาก็ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน

โดวอนบอกซอคยองว่ามีพยานเห็นว่ามีผู้โดยสารอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถที่อีซองอุคขับในคืนที่พ่อของเธอโดนฆ่าตาย แต่โดวอนไม่สามารถตอบเธอได้ว่าพยานคนนั้นคือตัวเขาเองที่เป็นสารวัตรใหญ่ในโลกที่สองนี้ จากนั้นเขาจึงชวนเธอเริ่มสืบเรื่องของอีซองอุคโดยเริ่มจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาก่อน จนกระทั่งได้เจอชเวซองฮัก ซึ่งเขาเล่าว่า ซองอุคเป็นเด็กเก็บตัวและเป็นแกะดำในหมู่เพื่อนฝูง จนโดนล้อว่า “ชัตเทิล” วันหนึ่งซองอุคโดนเพื่อนรังแก และมีนักเรียนชายต่างโรงเรียนเข้ามาช่วย โดยเอาโทรศัพท์ฟาดหน้าคนที่รังแกซองอุคแบบไม่ยั้ง

เมื่อสารวัตรใหญ่เห็นภาพสร้อยคอซึ่งอีจองมินบอกว่าอยู่ในมือของซองอุคตอนที่จะตกจากดาดฟ้า สารวัตรใหญ่รู้ทันทีว่าเป็นของฆาตกรตัวจริง เพราะเขาจำได้ว่าเคยเห็นภาพอุบัติเหตุของอีซองอุคในโลกที่หนึ่ง ซึ่งมีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่ในรถและใส่สร้อยเส้นนี้
ซอคยองเข้าใจผิดว่าพยานที่โดวอนเคยพูดถึง คงหมายถึงพ่อของเขา จึงแนะนำให้ทำการสะกดจิต เผื่อว่าจะนึกอะไรออกบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบคดีต่อ ซึ่งพ่อของเขายอมให้ความร่วมมือ เพราะต้องการรู้เช่นกันว่าในคืนนั้นเมื่อสิบสองปีก่อน เกิดอะไรขึ้นกับเขา

สารวัตรใหญ่กลับเข้าไปที่ ส.น. และถามหากล่องเครื่องประดับซึ่งเก็บไว้ในห้องเก็บหลักฐาน เมื่อสายสืบแจฮยอกถามถึงอาการของพ่อ เพราะเข้าใจว่าเพิ่งไปเยี่ยม สารวัตรใหญ่กลับย้อนว่าพวกเขาเคยหาว่าพ่อของเขาเป็นฆาตกร แต่ตอนนี้มาแสดงความเป็นห่วง ทั้งสายสืบแจฮยอกและสายสืบคังต่างก็งงในทีท่าของสารวัตรซึ่งต่างจากโดวอน

ซอคยองเพิ่งวางสายจากโดวอนซึ่งอยู่ที่โรงพยาบาลกับพ่อ แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นสารวัตรใหญ่โดวอนที่ ส.น. เธอแปลกใจจึงเดินตามไป เมื่อสารวัตรใหญ่พบสร้อยคอที่ต้องการหาแล้ว จึงเปิดจี้ที่สร้อยคอซึ่งมียาเม็ดสีเขียวอยู่ในนั้น ทันใดนั้นเองซอคยองเดินเข้ามาพอดี เขาจึงรีบซ่อนยาเม็ดนั้นไว้ เธอบอกว่าคิดว่าเขาอยู่ที่โรงพยาบาลซะอีก สารวัตรเดินมาอ่านป้ายชื่อของเธอและบอกว่า เธอนี่เองคือสาเหตุที่โดวอนไม่ยอมไปจากโลกที่สองนี้ ซอคยองไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด จากนั้นสารวัตรก็บอกเธอว่า ในโลกที่สองนี้ ทั้งเขาและเธอไม่น่าบังเอิญเจอกันได้ และพึมพำว่าโดวอนได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างก่อนจะเดินออกไปและทิ้งให้ซอคยองยืนงงอยู่ตรงนั้น

สายสืบคังเล่าให้แจฮยอกฟังว่า เมื่อวานนี้ที่ลานจอดรถ สารวัตรใหญ่ท่าทางแปลกๆเหมือนกลับไปเป็นคนเดิมอีกแล้ว และบางวันก็ร้าย บางวันก็ดี เหมือนเป็นคนสองขั้ว
 
ระหว่างการสะกดจิตบำบัด ซอแจชอลเห็นตัวเองกำลังเดินอยู่ในทางแคบมืดๆ เมื่อเปิดประตูออกไปพบแสงจ้า ก็เห็นสารวัตรใหญ่มาเยี่ยมตนเองที่คุก เมื่อปิดประตูบานนั้นและเปิดบานใหม่ เขาเห็นตนเองกำลังคุยกับโอมีซุก ซอแจชอลกำลังอยู่ในภวังค์การสะกดจิตและมีท่าทางกระสับกระส่าย หมอซอกมินจุนจึงบอกให้หยุดได้หากต้องการ แต่ซอแจชอลส่ายหน้า

หมอจึงให้เขาย้อนกลับไปวันที่ 8 เมษายน 2008 ซอแจชอลเห็นตัวเองในสภาพเมามายและกลับไปหาพ่อของซอคยองเพราะลืมโทรศัพท์ ในตอนนั้นเขาโดนคนร้ายตีหัวจากด้านหลัง ซอแจชอลสะดุ้งตื่นจากการสะกดจิตด้วยความตกใจและบอกโดวอนว่า คนร้ายอยู่ในบ้านนั้นแล้ว ก่อนที่เขาจะเข้าไป แต่จำหน้าไม่ได้เพราะมันมืดและสลบไป พอฟื้นขึ้นมาก็เห็นแต่ฮันคยูแทซึ่งนอนอยู่ตรงนั้น จึงไปแตะตัวเขาและรู้ว่าตายแล้ว พบสร้อยที่รัดคอและขวดยาตกอยู่ตรงนั้น ด้วยความกลัวจึงนำสร้อยเส้นนั้นติดตัวมาด้วยเพราะมีรอยนิ้วมือของตนเอง และสะดุดขวดยาล้มก่อนที่จะวิ่งออกไป
ซอคยองแปลกใจที่เพิ่งรู้ว่ามีขวดยาอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ส่วนโดวอนเองก็ไม่เคยเห็นขวดยาในรูปถ่ายแฟ้มคดี ซึ่งแปลว่าคนร้ายกลับมาอีกรอบเพื่อตามหาขวดยา ซึ่งสามารถเปิดโปงตัวตนได้

สารวัตรใหญ่นำยาเม็ดสีเขียวไปตรวจสอบและรู้ว่ามันคือยาเททราเบนาซีน ใช้ต้านอาการทางจิต ใช้สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคฮันติงตัน ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม ผู้ป่วยจะค่อยๆสูญเสียความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติ เมื่อมีอาการแย่ลง สมองก็จะทำงานผิดปกติไปด้วย เกิดอาการหลงผิด สมองเสื่อมและสูญเสียความทรงจำ และตายในที่สุด ยาตัวนี้ใช้บรรเทาอาการการเคลื่อนไหวผิดปกติ และมีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณหนึ่งร้อยคนของประชากรทั้งประเทศ สารวัตรใหญ่จึงขอรายชื่อผู้ป่วยทั้งหมด

หมอซอกมินจุนยังอยู่กับพ่อของโดวอนหลังจากการสะกดจิต และนำกล่องดนตรีที่ใส่เครื่องประดับให้เขาดู พ่อของโดวอนเริ่มนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นและนึกหน้าคนร้ายได้ลางๆ จึงแหงนหน้ามองหมอมินจุน แต่โกหกว่าจำได้เพียงแค่ที่เล่าไปเท่านั้น หมอมินจุนพยายามถามซ้ำๆเพื่อให้แน่ใจว่าพ่อของโดวอนจำเขาไม่ได้จริงๆ เมื่อหมอมินจุนกำลังจะออกไป พ่อของโดวอนพยายามจะกดปุ่มฉุกเฉิน แต่พลาดทำกล่องหล่น ทำให้หมอมินจุนหยุดชะงักและหันกลับมา เมื่อโดวอนและซอคยองกลับเข้าไป ก็เห็นพ่อนอนหลับ หมอมินจุนบอกว่ากินยาแล้วเพิ่งหลับไป พวกเขาจึงกลับไปเพราะได้รับแจ้งว่าอีซองอุคได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ขับรถไปด้วยกัน โดวอนเห็นรถของหมอมินจุนขับตามมา จึงถามซอคยองว่ารู้จักหมอได้อย่างไร เธอบอกว่าเป็นหมอประจำตัวของเธอซึ่งมีคนแนะนำให้ เมื่อโดวอนมองกระจกข้างอีกที รถของหมอที่ตามมาก็หายไปซะแล้ว ซอคยองถามโดวอนว่าเป็นอะไร เพราะเห็นท่าทางแปลกๆตอนที่เจอในห้องเก็บหลักฐาน เหมือนกับว่าเป็นคนละคนกัน ทันใดนั้นสารวัตรใหญ่ก็โทรหาโดวอน เพื่อแจ้งว่าคืนนี้ฝนจะตกและบอกเขาให้กลับไปยังโลกที่หนึ่ง

หมอซอกมินจุนเลี้ยวรถมาจอดที่ชายป่า เขาเกิดอาการมือสั่นขึ้นอีก ขณะที่อ่านหนังสืออยู่ในรถ จึงคลำหาสายสร้อยที่ซ่อนยาเอาไว้ และเพิ่งรู้ว่ามันหายไปตอนที่อีซองอุคไปหาและต่อว่าที่เขาเอาหลักฐานต่างๆ ไปซ่อนไว้ในล็อคเกอร์ และขู่ว่าจะบอกตำรวจทุกอย่าง

หมอบอกโดวอนและซอคยองว่า เมื่อซองอุคฟื้นขึ้นมา อาจกลายเป็นคนพิการทางสมองมีพฤติกรรมเหมือนเด็ก โดวอนจึงนึกถึงซองอุคในโลกที่หนึ่งซึ่งก็มีอาการเช่นนั้น
 
สารวัตรใหญ่นำสร้อยที่ฆาตกรใส่ ไปเยี่ยมพ่อซึ่งกำลังหลับอยู่ และขอให้พ่ออดทนรออีกหน่อยเพราะเขาจะลากคอฆาตกรมาให้ได้ เมื่อได้รับโทรศัพท์ว่าได้รายชื่อผู้ป่วยโรคฮันติงตันแล้ว สารวัตรใหญ่จึงรีบออกไปคุยโทรศัพท์ และสวนทางกับหมอซอกมินจุนที่เขาไม่รู้จัก ซอกมินจุนเดินเข้าไปในห้องของซอแจชอล และเกิดอาการมือสั่นขณะที่กำลังจะฉีดยาพิษเข้าขวดน้ำเกลือ

ซอแจชอลตื่นขึ้นมาเห็นพอดี จึงผลักเขาล้ม และวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือ แต่ที่ชั้นนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลยสักคน ซอกมินจุนวิ่งตามออกมา ขณะที่สารวัตรใหญ่กำลังดูรายชื่อผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับทางโทรศัพท์ พยาบาลก็วิ่งมาบอกเขาว่าซอแจชอลหายตัวไป เมื่อเข้าไปดูจึงเห็นข้าวของกระจัดกระจาย เขารู้สึกเป็นห่วงพ่อจึงโทรบอกโดวอนและวิ่งตามหาพ่อ ส่วนซอคยองก็เหยียบคันเร่งเพื่อไปที่สถานพยาบาล และช่วยโดวอนตามหาเช่นกัน ขณะที่ฝนเริ่มตกลงมาพอดี

สารวัตรใหญ่วิ่งตามหาพ่อจนกระทั่งเห็นเขาวิ่งออกมาจากข้างทางและกำลังจะถูกรถชนเหมือนเมื่อสิบสองปีก่อน เขาจึงวิ่งไปคว้าพ่อไว้ แต่ทั้งคู่ก็โดนรถบรรทุกอีกคันชนอย่างจัง เมื่อโดวอนวิ่งตามมา ก็เห็นทั้งคู่นอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้นแล้ว